เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์

09-00-18.00 น.

เราช่วยคุณได้

taladtour

Travel License : 11/11173

เที่ยวตุรกี มัสยิดซูเลย์มานีเย อิสตันบูล ประเทศ ตุรกี ตำนานดินแดนสองทวีป

เที่ยวตุรกี มัสยิดซูเลย์มานีเย อิสตันบูล ประเทศ ตุรกี ตำนานดินแดนสองทวีป

26

อิสตันบูล เมืองสำคัญของประเทศตุรกี มีตำนานอันยาวนาน ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นการผสมผสานของวัฒนธรรมเก่าแก่ตั้งแต่ยุคไบเซนไทน์ โรมัน จนถึงออตโตมัน และวันนี้เราจะได้เที่ยวชมความอลังการไปด้วยกันค่ะ ดีใจจังเลยค่ะ 2 วันนี้ชาขมจะได้พาเพื่อนๆ ตะลุยอิสตันบูลไปด้วยกัน เมืองอิสตันบูลเป็นเมืองที่สำคัญของประเทศตุรกี แต่ไม่ใช่เมืองหลวงนะคะ (เมืองหลวง คือเมืองอังการ่า) เป็นเมืองที่ประชากรหนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีผู้คนอาศัยอยู่มากถึง 20 ล้านคน และยังเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่ารถติดหนักแน่นที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่จริงๆ แล้วกรุงเทพฯ ของเราก็ไม่น่าแพ้เค้านะคะ

เที่ยวตุรกี เกอเรเม่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เมืองคัปปาโดเกีย ประเทศตุรกี ดินแดนโสถ์ถ้ำล้ำค่าและภาพเฟรสโก

เที่ยวตุรกี เกอเรเม่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เมืองคัปปาโดเกีย ประเทศตุรกี ดินแดนโสถ์ถ้ำล้ำค่าและภาพเฟรสโก

30

เรายังคงอยู่ที่เมืองคัปปาโดเกีย ประเทศตุรกี และวันนี้เป็นบ่ายที่ปลอดโปร่ง และยังคงมีความเย็นสบายแบบนี้ เราอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ Goreme Open Air Museum เมื่อเราเดินเข้ามา เราสามารถเห็นหิมะที่ตกคืนก่อนหน้านี้บนพื้นอยู่เป็นหย่อมๆ ก็อุณหภูมิใกล้ศูนย์น่ะค่ะ หิมะจึงยังคงขาวอยู่รอให้เราได้ถ่ายภาพ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งนี้กว้างใหญ่มากค่ะ มีลักษณะเป็นเนินหุบเขา มีถ้ำที่เรามองเห็นไกลๆ ว่าน่าเข้าไปดูว่าข้างในเป็นอะไรหนอ ประวัติศาสตร์แต่ก่อนมา ผู้คนสร้าง และอยู่ที่นี่อย่างไร.. เราจะไปย้อนรอยอดีตตั้งแต่สมัยโรมัน..ตามมาด้วยกันค่ะ

เที่ยวตุรกี นครใต้ดินไคมัคลี ประเทศตุรกี เมืองใต้ที่ใหญ่ที่สุด และมีอายุกว่า 4 พันปี

เที่ยวตุรกี นครใต้ดินไคมัคลี ประเทศตุรกี เมืองใต้ที่ใหญ่ที่สุด และมีอายุกว่า 4 พันปี

32

คัปปาโดเกีย แปลว่า The Land of Beautiful Hourses ดินแดนแห่งอาชาที่แสนงามสง่า ในภาษาเปอร์เชียนโบราณ นับพันปีก่อน คัปปาโดเกียมีฟาร์มม้ามากมาย และส่งให้แก่กองทัพเปอร์เชีย ซึ่งเรียกดินแดนแถบนี้ว่า คัท พัท ทุ คะ เมื่อชาวเติร์กเข้ามายึดครองต่อมา จึงยังคงใช้คำเดิมซึ่งนั่นก็คือ คัปปาโดเกีย และออกเสียงในภาษาอังกฤษว่า คัปปาโดเชีย และแม้ในปัจจุบัน ก็ยังมีฟาร์มม้าอยู่ในเมืองนี้ค่ะ คัปปาโดเกีย แยกเป็น 2 ภาค เหนือ และใต้ ณ ตอนนี้เราอยู่ทางเหนือ ถึงมีไร่มากมาย มีพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Open Air Museum มีโบสถ์ และเรากำลังมุ่งหน้าไปทางตอนใต้ ซึ่งมี Underground City นครใต้ดินซึ่งมีประมาณ 40 เมืองทางใต้แห่งนี้ และเราจะไปยัง Kaymakli Underground City ซึ่งเป็นหนึ่งในนครใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในคัปปาโดเกีย ทั้งหมดของเมืออยู่ใต้ดิน ดังนั้นมีข้อพึงระวังคือ หากใครมีปัญหาข้อเข่า อาจจะไม่เหมาะกับการลงไปเยี่ยมชม เพราะมีช่วงที่เราต้องเดินย่อตัวไปตามอุโมงค์แคบๆ ทางยาวประมาณ 20-25 เมตร หรือเป็นคนกลัวที่แคบ ก็ไม่แนะนำค่ะ

เที่ยวตุรกี ปามุคคาเลย์ หรือ ปราสาทปุยฝ้าย ณ เมืองสองทวีป ประเทศตุรกี

เที่ยวตุรกี ปามุคคาเลย์ หรือ ปราสาทปุยฝ้าย ณ เมืองสองทวีป ประเทศตุรกี

32

หากพูดถึง ปามุคคาเลย์ (Pamukkale) หรือ ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) เราจะนึกถึงดินแดนขาวโพลน กว้างใหญ่ ลดหลั่นเป็นชั้น ดูเหมือนนุ่ม ปุย ขาว ราวกับหิมะ แต่นั่นคือลานแคลเซียมที่สวยที่สุดในโลกค่ะ ^_^ ปลายปี 2016 ชาขมได้มีโอกาสกลับมาเยือนปามุคคาเลย์ หรือปราสาทปุยฝ้ายเป็นครั้งที่ 4 ... คราวนี้ไม่เหมือนกับคราวก่อนๆ เพราะพื้นที่แห่งนี้ มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนเดิมในแต่ละวาระเวลา ชาขมจะขอเล่ากลับไปเมื่อ 200 ปีก่อนคริสตกาลว่า พระเจ้าอูเมเนสที่ 2 (Eumenes II) กษัตริย์แห่งนครเพอกามันได้ตั้งเมืองไว้ใกล้ๆ กันเพราะเชื่อว่าน้ำแร่แห่งปามุคคาเล่ย์สามารถรักษาโรคได้หลายโรค ไม่ว่าจะเป็นหอบหืด ไขข้อ และโรคผิวหนังได้ชะงัดนัก.. พระองค์จึงทรงตั้งพระนครไว้ใกล้ๆ ชื่อนครเฮียราโพลิส Hierapolis ซึ่งเฮียรา Hiera แปลว่าศักดิ์สิทธิ์ หรือความสุข ดังเช่นคำว่า Happy หรือ Holy และคำว่า โพลิส Polis แปลว่าเมืองใหญ่ จนเมื่อปี ค.ศ. 1989 องค์การยูเนสโก้ได้แต่งตั้งให้เมืองปุยฝ้ายแห่งนี้สถานปนาขึ้นเป็นเมืองมรดกโลก*** เกร็ดความรู้ ***ด้วยความเชื่อในสมัยโบราณว่า ปามุคคาเล่ เป็นเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีสรรพคุณในการรักษาบำบัดอาการต่างๆ ทำให้ในอดีต ชนเผ่ากรีก-โรมันได้เข้ามาสร้างเมืองอยู่บนบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ และขนานนามเมืองนั้นว่า ฮีเอราโพลิส อันหมายถึงเมืองศักดิ์สิทธิ์ และปามุคคาเล่ ก็ได้ถูกใช้เป็นสปาบำบัดโรคมานานกว่าพันปี จนเมื่อปี 2531 องค์การยูเนสโก้ ขึ้นทะเบียนให้เปามุคคาเล่ เป็นมรดกโลกอย่างเป็นทางการร่วมกับเมือง ฮีเอราโพลิส จึงได้มีการปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวลงไปอาบแช่แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้สถานที่แห่งนี้เกิดความเสียหาย

เที่ยวตุรกี เอเฟซุส Ephesus มหานครโบราณที่ ยิ่งใหญ่ในประเทศตุรกี ตอนที่ 2 เทพเจ้าไม่จ้ำเป็นต้องนุ่งผ

เที่ยวตุรกี เอเฟซุส Ephesus มหานครโบราณที่ ยิ่งใหญ่ในประเทศตุรกี ตอนที่ 2 เทพเจ้าไม่จ้ำเป็นต้องนุ่งผ

28

เจาะเวลาหาอดีต ณ ดินแดนโบราณ... เอเฟซุส (Ephesus) ประเทศตุรกี (ตอน 2: เทพเจ้าไม่จำเป็นต้องนุ่งผ้า...นะจ้ะ) ตอนที่แล้ว เราเล่าไปแล้วว่า จักรพรรดิโรมันนั้น มีความศักดิ์สิทธิ์เทียบเท่ากับเทพเจ้ากรีก จึงมีวิหารหลายที่ เรามาท่องเมืองเอเฟซุสกันต่อค่ะว่า จะได้พบเห็นเทพเจ้าใดกันอีกบ้างเอ่ย... นอกจากเทพอาเธมิส ซึ่งมีนมพันเต้า แล้ว..เรายังจะได้ชมรูปปั้น ผู้ชายเปลือย อร๊ายยย ชายรูปงามผู้นี้คือ แฮร์เมส (Hemes) ท่านผู้ส่งสารของเทพซีอุส เราทราบได้ว่าเป็นแฮร์เมส เพราะที่ตรงส่วนข้อเท้าทั้งสอง จะมีปีก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นเทพผู้ส่งสารนั่นเอง แต่... มีรูปปั้นนี้มีบางสิ่งได้ถูกทำลายไป ไม่ใช่แค่เพียงส่วนใบหน้าเท่านั้น แต่คือ.. ปิกาจูของแฮร์เมส ก็หายไปด้วยจ้า  ใครหยิบติดมือไป ระวังจะถูกทวงนะจ้ะ 

เที่ยวตุรกี เอเฟสซุส Ephesus มหานครโบราณที่ ยิ่งใหญ่ในประเทศตุรกี

เที่ยวตุรกี เอเฟสซุส Ephesus มหานครโบราณที่ ยิ่งใหญ่ในประเทศตุรกี

27

เจาะเวลาหาอดีต ณ ดินแดนโบราณ... เอเฟซุส (Ephesus) ประเทศตุรกี (ตอน 1: ก้าวเท้าเข้าเมืองกรีก-โรมัน) เอเฟซุส เมืองโบราณแสนมีเสน่ห์แห่งนี้เคยเป็นนครที่รุ่งเรืองมานานแสนนาน ตั้งแต่ยุคกรีก ยุคโรมัน จนช่วงเวลาที่ออตโตมันเข้ามายึดครอง เราจะ ไปย้อนอดีต ท่องตำนานแห่งนี้ด้วยกันค่ะนครเอเฟซุส (Ephesus) ตั้งอยู่ระหว่างภูเขา 2 ลูก อันได้แก่ ภูเขาบิวบิว (Bülbül) และภูเขาเล็กๆ ชื่อพานาเลีย (Panayır) เมื่อเราเดินเข้าไปในอาณาเขตเมืองเอเฟซุส เราจะได้เห็นผังของเมืองทั้งหมด ซึ่งทางเข้า และทางออกนั้น อยู่คนละทางกัน เราจะได้เดินชมเมืองโบราณแห่งนี้ อ้อมไปตามเขา และไปออกยังอีกทางหนึ่ง

เที่ยวตุรกี ต้องมาบ้านพระแม่มารี ณ เมืองเอเฟซุส ตุรกี สถานที่สำคัญของชาวคริสเตียนและชาวมุสลิม

เที่ยวตุรกี ต้องมาบ้านพระแม่มารี ณ เมืองเอเฟซุส ตุรกี สถานที่สำคัญของชาวคริสเตียนและชาวมุสลิม

45

ณ เมืองเซลชุก (Selcuk) เป็นเมืองเล็กๆ ในจังหวัดอิสเมียร์ (Izmir) ประเทศตุรกี ซึ่งสถานที่สำคัญและสวยงาม อย่างบ้านพระแม่มารี และเอเฟซุสตั้งอยู่ในเมืองนี้..บ้านพระแม่มารี (THE VIRGIN MARY'S HOUSE) ในศวรรษที่ 1 ตั้งแต่ตอนที่พระเยซูถูกตรึงบนไม้กางเกงที่กรุงเยรูซาเลม พระองค์ได้มองลงมาที่นางมารี กะจอห์น และพูดกะนางว่า “จอห์นเป็นบุตรชายของท่าน” และมองไปทางจอห์น และพูดว่า “นางมารี คือมารดาของท่าน” ที่กล่าวแบบนั้น เพราะพระเยซูต้องการให้จอห์นปกป้องนางหลังพระองค์สิ้นไป ซึ่งจอห์นก็รู้ดีว่า การอยู่ในเยรูซาเลมนั้นไม่ปลอดภัย จึงหาที่ปลอดภัย และย้ายมาที่เมืองเอเฟซุส ทั้งสองจึงมาที่หุบเขาแห่งนี้ และสร้างบ้านบนยอดเขาใน ค.ศ.37-48 แต่ทั้งสองไม่ต้องการอยู่ในเมืองเพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าย้ายมาอยู่ที่นี่ บนเขานี้จึงเป็นทำเลที่ดีมาก เพราะห่างจากผู้คน แต่ใกล้เมืองพอที่จะซื้ออาหาร และข้าวของได้สะดวก นับเป็นที่ที่สงบมาก และนางมารีได้เสียชีวิตที่นี่ ซึ่งจอห์นได้ฝั่งร่างของนางไว้ใต้บ้านนี้