พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า “พระราชวังคยองบกกุง” เป็นทั้งสัญญลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซล พระราชวังที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล สร้างขึ้นในปี 1394 ในสมัยพระเจ้าแทโจ ราชวงศ์โชซอน เดิมทีนั้นภายในพระราชวังมีอาคารและตำหนักต่างๆมากกว่า 200 หลัง แต่เมื่อมีการรุกรานของญี่ปุ่น อาคารส่วนใหญ่ก็ได้ถูกทำลายลงเหลืออยู่เพียงแค่ 10 หลังเท่านั้น          พระราชวังทิศเหนือ (Northern Palace) ก็เป็นอีกชื่อหนึ่งของพระราชวังแห่งนี้ เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ เมื่อเทียบกับพระราชวังแห่งอื่นๆ เช่น พระราชวังชางด็อกกุง (Changdeokgung) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก และพระราชวังเคียงฮุยกุง (Gyeongheegung) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก อย่างไรก็ตามพระราชวังเคียงบกกุงนั้นขึ้นชื่อว่า เป็นพระราชวังที่สวยงามที่สุด เนื่องจากฉากหลังของพระราชวังนั้นเป็นเขาพูกักซาน จึงทำให้ดูยิ่งใหญ่อลังการเป็นอย่างมาก

ข้อมูลเที่ยวเกาะเชจูเกาะเชจู ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆหลายท่านอยากจะไปเยือน วันนี้จะพาเพื่อนๆไปเที่ยวและทัวร์เกาะเชจู  สำหรับหลายท่านที่เคยไปเที่ยวเกาหลีมาหลายที่แล้ว แต่เกาหลีมีสถานที่เที่ยวหลายแห่งที่น่าสนใจ และรอให้เพื่อนๆทุกคนได้ไปเยือนกัน วันที่ผมเดินทางไปเกาะเชจู เป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่าปลายเดือนกันยายน และต้นสิงหาคมพอดี และเป็นวันที่ท้องฟ้าสดใสครับ ถ่ายรูปก็ออกมาสวยแบบที่ท่านเห็น ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูร้อนครับเกือบ 38 องศาเลยทีเดียว

ศูนย์สมุนไพรฮ็อกเก็ตนามู (Raisin Tree) เป็นอีกที่เที่ยว ที่จะได้มาเยี่ยมชมหากเพื่อนๆ มาเที่ยวเกาหลีใต้กับคณะทัวร์นะคะ และที่นี่เราจะได้รู้จักสมุนไพรเมล็ดดำๆ คล้ายพริกไทย ที่เมืองไทยเราไม่มีค่ะ       ฮ็อกเก็ตนามู เป็นสมุนไพรที่ช่วยบำรุงตับ ล้างตับ ทำให้ตับแข็งแรง สามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย แม้ว่าไม่ได้เป็นโรคอะไรเลย (ตับของเราอยู่บริเวณชายโครงด้านขวา หน้าที่หลักของตับคือ กรองของเสียออกจากร่างกาย และสร้างน้ำดีมาย่อยไขมันให้เรานะคะ) ทัวร์เกาหลี       ฮ็อกเก็ตนามู ปลูกในประเทศเกาหลีใต้ ในที่อากาศหนาวเย็น บริสุทธิ์ ระดับ 800 เมตรเหนือน้ำทะเล และใช้เวลาปลูกนานถึงกว่า 10 ปี ถึงได้ผลผลิตครั้งแรก และ 3-5 ปีถึงได้ผลผลิตหนึ่งครั้ง ทุกส่วนของฮ็อกเก็ตนามู กิ่ง ก้าน ใบ เป็นสมุนไพรได้หมด แต่ส่วนที่ดีที่สุด คือเมล็ดแก่ มีการบันทึกในตำราแพทย์ ของคุณหมอโฮจุน ว่าช่วยถอนพิษสุราได้อย่างยอดเยี่ยม แก้อาการแฮ๊งเหล้า และบำรุงตับ โดยเราๆ นั้นมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคตับ เช่นนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะตับเรามีเวลาในการทำงานนะจ้ะ นั่นคือช่วงห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง ซึ่งถ้าเราไม่นอนหลับเวลานี้ ก็ทำให้ตับเราเสื่อมลง และยังมีความเครียดจากการทำงาน การดื่มเหล้าสุรา การไม่ออกกำลังกาย รวมไปถึงการกินยาปฏิชีวนะเป็นประจำเมล็ดฮ็อกเก็ตนามู ศูนย์สมุนไพรฮ็อกเก็ตนามูแถมการแพทย์เกาหลีใต้ ยังวิจัยออกมาว่า คนเลือดกรุ๊ปบี มีความเสี่ยงเป็นโรคตับมากกว่าเลือดกรุ๊ปอื่นๆ แต่กรุ๊ปอื่นๆ ก็อย่าได้นิ่งนอนใจซะทีเดียวนะคะ ตับใครใครก็รักนะคะ อิอิ ก็มีอยู่อันเดียวนี่นา ไม่ได้มี 2 ข้าง ที่ขาดไปซักข้าง ร่างกายก็ยังดำรงได้อยู่.. ทัวร์เกาหลี       กระบวนการผลิตสมุนไพรฮ็อกเก็ตนามู คือ นำเมล็ดฮ๊อกเก็ตนามู มาล้างน้ำให้สะอาด อบแห้ง และนำมาบดเป็นผง อัดเป็นเม็ด เพื่อสะดวกในการรับประทาน แล้วยังมีผลิตภัณฑ์ชาฮ็อกเก็ตนามู ซึ่งมีส่วนผสมของฮ๊อกเก็ตนามู อยู่เพียงแค่ 3% ชาฮ็อกเก็ตนามู และผลิตภัณฑ์ฮ็อกเกตนามู ศูนย์สมุนไพรฮ็อกเก็ตนามู  ซึ่งในการเข้าชมศูนย์สมุนไพรฮ็อกเก็ตนามูนั้น จะมีเจ้าหน้าที่สาวสวยอธิบายเรื่องราวต่างๆ ดังที่เล่ามาแล้วนะคะ และยังมีการสาธิต โดยการชงกาแฟ 3 In 1 เข้ากับน้ำร้อน เปรียบเสมือนการที่เรากินอาหารในแต่ละวัน มีทั้งดี และไม่ดี และใส่ฮ็อกเก็ตนามูซึ่งบดละเอียดแล้วลงไป 2 เม็ด แล้วคน.. ไม่ถึง 1 นาที จะเห็นการจับเป็นตะกอน 2 สีคือตะกอนครีมเทียม และน้ำตาล เราเรียกว่าไขมันอิ่มตัวนั่นเอง ซึ่งไขมันอิ่มตัว อยู่ในเครื่องดื่มมากมาย รวมถึงอาหารปิ้งย่าง อาหารทอด เมื่อสะสมมากๆ ในตับ จะเกิดโรคไขมันพอกตับ เป็นภัยเงียบที่พัฒนาไปสู่โรคมะเร็งได้อีกนะคะ(และอีกตัวอย่างนึง ก็คือ นำน้ำอัดลมมา 1 ขวดและเช่นเดียวกับกาแฟ เค้าใส่ฮ็อกเก็ตนามูซึ่งบดละเอียดแล้วลงไป 2 เม็ด ฮ็อกเก็ตนามูจะไปดักจับสารพิษสารเคมีที่อยู่ในน้ำอัดลม ซึ่งถ้าเปรียบในคน หากร่างกายเรารับสารเหล่านี้มากๆ จะส่งผลตรงต่อฮอร์โมน ทำให้ปวดหัว ปวดไมเกรน ปวดประจำเดือน และอาจเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย ซึ่งสารเหล่านี้ยังมีอยู่ซอสปรุงรสต่างๆ และในอาหารกระป๋อง ซึ่งเมื่อใส่ฮ็อกเก็ตนามูบดละเอียดลงไป ก็จะเกิดการตกตะกอน แยกกับน้ำเปล่าให้เห็นได้อย่างชัดเจนค่ะ)       ชาวเกาหลีก็หลีกเลี่ยงพฤติกรรมการกินแบบนี้ไม่ได้เหมือนกัน เค้าจึงคิดค้นสมุนไพรฮ็อกเก็ตนามู โดยรับประทานง่ายๆ วันละ 2 เม็ด ติดต่อกัน 4-6 เดือน เพื่อเป็นการล้างตับ จากนั้นสามารถหยุดรับประทานได้ 3-5 ปี ว้าววววว! ดีขนาดนี้เชียวรือ!!        เรามั่นใจคุณภาพได้ เพราะด้านข้างกล่องของผลิตภัณฑ์จะมีรูปธงชาติเกาหลีใต้อยู่ นั่นหมายถึงรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้เข้ามาควบคุมกระบวนการผลิต และยังมีประกันภัยจากซัมซุงอีกด้วย นอกจากนั้น ยังมีการการันตีสำหรับผู้ป่วยที่มีค่าตับสูง ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบ โดยให้ตรวจเช็คค่าตับ คือ SGPT, SGOT ก่อนบริโภค และบริโภคติดต่อกัน 4 เดือน แล้วไปตรวจใหม่ ถ้าค่าตับไม่ลดลง หรือแม้แต่เท่าเดิม ทางศูนย์สมุนไพรฮ็อกเก็ตนามูยินดีโอนเงินคืนให้ทุกบาททุกสตางค์ตามราคาหน้าบิลที่ซื้อไป โดยไม่ต้องบินกลับมาที่เกาหลีเลยค่ะ ทัวร์เกาหลี       แหมมม นับเป็นเรื่องราวหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยนะคะ เพราะสมุนไพรชนิดนี้ บ้านเราไม่มีซะด้วยสิ และอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ลองซื้อแบบขวดเล็กๆ ชิมดูนะคะ อร่อยดีทีเดียว หาซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั้งประเทศเกาหลีเลยค่ะตลาดทัวร์  แมกกาซีน... รอบรู้เรื่องเที่ยว เชี่ยวชาญเรื่องทัวร์ …สนุกกับการเดินทางไปกับเรานะคะ ทัวร์เกาหลีLIKE & Follow เราได้ที่ FB Fan Page: ตลาดทัวร์ แมกกาซีนSubscribe YouTube: ตลาดทัวร์ แมกกาซีนศูนย์สมุนไพรฮ็อกเก็ตนามู

พระราชวังชังด็อกกุง เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1394 และต่อมาพระราชวังทั้งหมดได้ถูกเผาวอดไปในสงครามระหว่างเกาหลี สู้กับญี่ปุ่น และจีน จากนั้นได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ โดยใช้แบบแปลนดั้งเดิม ในปัจจุบันนี้ เราจะเห็นบ้านเรือนเก่า อยู่ในบริเวณใกล้ๆ พระราชวัง และบ้านเหล่านี้ เดิมเคยเป็นบ้านของข้าราชการขุนนางระดับสูง และยังมีร้านให้เช่าชุดฮันบก หรือชุดประจำชาติเกาหลีในบริเวณนี้ หากนักท่องเที่ยวใส่ชุดฮันบกมาเยี่ยมชมพระราชวัง ก็จะเข้าได้ฟรีนะคะ ซึ่งค่าเช่าชุดก็น่าจะแพงกว่าค่าเข้าชมวังนะคะ ทัวร์เกาหลีเมื่อเราเดินเข้าไป จะเห็นโถงลานพระราชวัง ซึ่งเป็นที่ที่พระมหากษัตริย์ออกว่าราชการ ทางเดินตรงกลางนั้นจะสูงกว่าข้างๆ นั้นเพื่อให้พระมหากษัตริย์เดินแต่ผู้เดียว ด้านข้างเราจะเห็นป้ายหินเขียนตำแหน่งต่างๆ ไว้ ในสมัยโบราณนั้นเพื่อให้ขุนนาง แม่ทัพ มายืนเรียงแบบในหนังหรือซีรี่ย์เกาหลีค่ะ และตำหนักตรงกลาง มีป้ายอักษรจีนเขียนว่า อินจ็องจ็อน มีความหมายว่า ให้กษัตริย์ทุกคนต้องใจดี แปลว่าใจดี ในพระตำหนักจะมีที่นั่ง และป้ายสัญลักษณ์ของกษัตริย์ ในพื้นที่วังทั้งหมด มีตำหนักหลายอาคาร ซึ่งบ้างก็ใช้เป็นที่ทำงานของขุนนาง เราเดินชมได้ตามอัธยาศัย ซึ่งสถาปัตยกรรมของอาคารนั้น ทำให้นึกถึงวัดในเกาหลีใต้นี้ที่เราได้ไปเยี่ยมชมมาแล้วนะ ทำจากไม้ และมีสีสรรสวยงามพระราชวังชังด็อกกุงนอกจากภาพความงามของพระราชวังชังด็อกกุงแล้ว เรายังได้รับข้อมูลเป็นเอกสารของพระราชวังเป็นภาษาไทย จึงขอคัดลอกนำมาให้เพื่อนๆ ได้เป็นประโยชน์ในการเยี่ยมชม ณ บทความนี้นะคะ... ทัวร์เกาหลีพระราชวังชังด็อกกุง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นพระราชวังแบบเกาหลีซึ่งกลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุด ในเขตพระราชฐานชั้นใน และเขตพระราชฐานชั้นนอกนั้น มีความงามของสถาปัตยกรรมโบราณที่สืบทอดต่อกันมา พระที่นั่งอินจ็องจ็อนเป็นพระบรมมหาปราสาทของพระราชวังชังด็อกกุง เดิมใช้เป็นสถานที่จัดงานพระราชพิธี เช่น พระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก และพิธีรับรองทูตต่างประเทศ มีการซ่อมแซมภายในพระที่นั่งอินจ็องจ็อนในปี ค.ค.1908 และทำการประดับประดาตกแต่งภายในแบบตะวันตก เช่น ติดผ้าม่าน และโคมไฟพระที่นั่งซ็อนจ็องจ็อน ซึ่งปูหลังคาด้วยกระเบื้องสีน้ำเงิน เดิมเป็นพระที่นั่งซึ่งกษัตริย์ใช้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจในยามปกติ เมื่อเปลี่ยนสถานที่ปฏิบัติพระราชกรณียกิจไปเป็นตำหนักฮีจ็องดัง ซึ่งอยู่ข้างๆ กัน ตำหนักนี้จึงถูกใช้เป็นตำหนักสำหรับประดิษฐานป้ายพระวิญญาณกษัตริย์ และพระราชินีองค์ก่อนหน้าด้วยตำหนักฮีจ็องดัง เดิมเคยเป็นบริเวณพื้นที่ส่วนทรงกิจวัตรส่วนพระองค์ของกษัตริย์ แต่ด้วยความที่พระที่นั่งซ็อนจ็องจ็อน ซึ่งเป็นพระที่นั่งเดิม มีพื้นที่คับแคบ และมักใช้จัดพิธีพระบรมศพอยู่บ่อยครั้ง ตำหนักฮีจ็องดังจึงต้องรับบทบาทเป็นพระที่นั่งแทนพระที่นั่งแทโจจ็อน เป็นตำหนักบรรทมในพระราชวังชังด็อกกุง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ส่วนทรงกิจวัตรส่วนพระองค์ของพระราชินีอีกด้วย ซึ่งยังคงเหลือภาพการใช้ชีวิตของราชวงศ์ให้เห็นเป็นอย่างดี ส่วนด้านหลังพระที่นั่งแทโจจ็อนนั้น สันนิษฐานว่าตกแต่งให้สวยงามเพื่อกล่อมเกลากาย และใจตามการใช้ชีวิตในพระราชวังของพระราชินีนอกจากนี้แล้ว ยังมีพระตำหนักซ็องจ็องกัก ซึ่งเดิมพระราชโอรสใช้เป็นที่ประทับ และเรียนหนังสือ อาคารสำนักพระราชวังซึ่งเป็นหน่วยงานราชการที่สร้างขึ้นภายในเขตพระราชวัง เพื่อให้ข้าราชบริพารถวายการรับใช้ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจแก่กษัตริย์ได้อย่างใกล้ชิด หอพระรูปซ็อนว็อนจ็อน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสาทิสลักษณ์ซึ่งเป็นภาพวาดเสมือนจริงของกษัตริย์องค์ก่อนๆ ตลอดจนเป็นที่ประกอบพระราชพิธีถวายราชสักการะแก่ดวงพระวิญญาณ ตำหนักนักซ็อนแจ ซึ่งบรรจุเอาความรักอย่างสุดหัวใจของพระเจ้าฮ็อนจงเอาไว้ รวมถึงสะพานคึมช็อนคโยที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาสะพานหินที่เหลืออยู่ในพระราชวังอีกด้วยด้านหลังจากพระราชวังมีสวน ซึ่งนับเป็นสุดยอดความงามของสวนแห่งโชซอนพระราชวังชังด็อกกุงมีสวนด้านหลังที่กว้างใหญ่ และงดงาม จึงเป็นที่โปรดปรานที่สุดของกษัตริย์ทั้งหลายในบรรดาพระราชวังทั้งหมดพระราชวังชังด็อกกุง สร้างขึ้นโดยรักษาสภาพภูมิประเทศเดิมเอาไว้ และจัดสวนไว้ในทุกบริเวณที่เป็นหุบเขา มีการขุดสระ เช่น สระพูยงจี สระแอ-รย็อนจี สระควันรัมจี สระชนด็อกจีขึ้น และสร้างศาลาขนาดย่อม เช่นศาลาโซโยจ็อง ศาลาช็องอึยจ็อง ศาลาแทกึกจ็อง ไว้รอบๆ ลำธารอก-รยูช็อน ก่อให้เกิดเป็นธรรมชาติอันสวยงามยิ่งขึ้นอย่างสมบูรณ์ ตำหนักย็อนคย็องดัง สร้างขึ้นเหมือนเรือนผู้สูงศักดิ์ที่ตัวเรือนใหญ่ และส่วนเรือนรับรองของเจ้าของบ้านแยกกันอยู่คนละส่วน แม้ว่าจะเป็นตำหนักในพระราชวัง แต่ก็ไม่มีการทาสีฉูดฉาด เพิ่มเสน่ห์ของสวนหลังพระราชวังเข้าไปอีกด้วยรูปแบบที่เรียบง่ายสวนด้านหลังนี้ แม้จะเป็นบริเวณสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจของกษัตริย์ พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ แต่ก็ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานกลางแจ้งต่างๆ ซึ่งกษัตริย์เป็นประธานอีกด้วย ในช่วงต้นสมัยราชวงศ์โชซ็อน มีการฝึกซ้อมกำลังทหาร ซึ่งกษัตริย์เข้าร่วมด้วยอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีการจัดงานยิงธนู งานเลี้ยงถวายพระมารดา ตลอดจนงานเลี้ยงให้กำลังใจแก่พระบรมวงศานุวงศ์ หรือขุนนางด้วยนอกจากนี้แล้ว กษัตริย์ยังปลูกธัญพืชไว้ในสวนเพื่อเรียนรู้ความยากลำบากของเกษตรกร ส่วนพระราชินีก็เลี้ยงไหม เพื่อกระตุ้นการเลี้ยงไหมด้วย ทัวร์เกาหลีสวนหลังพระราชวังมีขนาดกว้างใหญ่กินพื้นที่ 60% ของพระราชวัง และลึกมากจนบางครั้งมีเสือออกมาปรากฏตัวให้เห็นด้วย นอกจากนี้ ทัศนียภาพที่งดงามของที่นี่ยังซ่อนอยู่ตามแต่ละหุบเขา ทำให้มองเห็นโดยทั่วไม่ได้ในคราวเดียว ต้องเดินไปยังสระ หรือศาลาที่อยู่ตามหุบเขาเอง จึงจะสามารถสัมผัสความงามอันแท้จริงของสวนหลังพระราชวังได้เวลาเข้าชมกุมภาพันธ์-พฤษภาคม และ กันยายน-ตุลาคม 9-18.00 น.มิถุนายน-สิงหาคม 9-18.30 น.พฤศจิกายน-มกราคม 9-17.30 น.วังปิดทุกวันจันทร์ / ผ่านประตูได้จนถึง 1 ชั่วโมงก่อนหมดเวลาเข้าชม / เวลาเข้าชมสวนหลังพระราชวัง ให้ดูเวลานำชมพร้อมบรรยายประกอบด้านล่างค่าเข้าชมชมตำหนัก ผู้ใหญ่ (25-64 ปีบริบูรณ์) 3,000 วอน / เป็นหมู่คณะ (10 คนขึ้นไป) 2,400 วอนชมสวน ผู้ใหญ่ (19 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป) 5,000 วอน / เยาวชน (7-18 ปีบริบูรณ์) 2,500 วอน (ไม่มีสิทธิพิเศษผู้สูงอายุ หรือส่วนลดหมู่คณะ)ชมต่อเนื่องพระราชวังชังคย็องกุงได้โดยใช้ประตูฮัมยังมุน (ซื้อตั๋วต่างหาก)บัตรชมแบบเหมา 4 พระราชวัง (10,000 วอน / บัตรมีอายุ 3 เดือน) ชมได้ 4 พระราชวัง (พระราชวังชังคย็องบกกุง พระราชวังชังคย็องกุง (รวมสวนหลังพระราชวัง) พระราชวังชังคย็องกุง พระราชวังท็อกซูกุง) และสุสานหลวงชงมโยทัวร์เกาหลีตลาดทัวร์  แมกกาซีน...รอบรู้เรื่องเที่ยว เชี่ยวชาญเรื่องทัวร์ …สนุกกับการเดินทางไปกับเรานะคะLIKE & Follow เราได้ที่ FB Fan Page: ตลาดทัวร์ แมกกาซีนSubscribe YouTube: ตลาดทัวร์ แมกกาซีนพระราชวังชังด็อกกุง

หากใครไปเที่ยวประเทศเกาหลีใต้กับกรุ๊ปทัวร์ ทัวร์เกาหลี แน่นอนว่าคุณจะต้องไปมีประสบการณ์ในศูนย์น้ำมันสนเข็มแดงเกาหลี ซึ่งนับเป็นจุดเยี่ยมชมภาคบังคับของรัฐบาลเกาหลี จริงๆ แล้วนับว่าเป็นสิ่งน่าสนใจมากว่า ทำไมรัฐบาลเกาหลีต้องให้นักท่องเที่ยวทัวร์ทุกคนแวะสถานที่นี้ และที่ประหลาดใจคือ ห้ามถ่ายภาพ และบันทึกวีดีโออีกต่างหากค่ะ!! เมื่อเข้าไปภายในศูนย์ ก็จะได้รับฟังบรรยายจากเจ้าหน้าที่สาวสวยที่โถงรวม ซึ่งจะมีภาพประวัติต่างๆ อ้างอิงจากตัวละครในซีรี่ย์เกาหลีที่เราอาจคุ้นหูคุ้นตา มีภาพ และต้นสนเข็มแดงปลอมให้เราได้เห็นภาพ ..จากนั้น เราจะได้เข้าฟังเนื้อหาโดยละเอียดในห้องเล็กๆ ซึ่งจัดเฉพาะกรุ๊ปทัวร์นั้นๆ และมีการตรวจหลอดเลือด โดยการเอานิ้วเราใส่กล้องจุลทรรศน์ดูหลอดเลือด ก็จะพบว่า หลอดเลือดเราหงิกๆ แบบที่เค้าโชว์ชาร์ตว่า เป็นหลอดเลือดของคนกินกาแฟ นอนดึก สุขภาพภายในไม่ค่อยโอเค.. จากนั้นก็นำน้ำมันสนเข็มแดงมาเจาะเม็ด แล้วเอาน้ำมันทาบริเวณเหนือเล็บนิ้วนาง เอ๊ะ หรือไม่นางก็ได้ เผอิญ เค้าทาบนนิ้วนางของเราล่ะ ฮ่าๆๆๆ ก็จะมีกลิ่นคล้ายครีมทาแก้ปวดเมื่อย เย็นๆ หอมๆ จากนั้น เอานิ้วเราไปส่องกล้องจุลทรรศน์อีกที โชว์สู่สายตาเพื่อนร่วมกรุ๊ปทัวร์อะเกน ก็จะได้เห็นหลอดเลือด หรือเส้นเลือดตรงนั้น หงิกบ้าง ตรงบ้าง และเห็นเลือดวิ่งไหลเร็วๆ ในหลอดเลือด .. ณ จุดนี้ แปลกมาก!! ทาบนผิวหนัง แต่สามารถทำให้เลือดในหลอดเลือดตรงเหนือเล็บวิ่งฉิวได้ แล้วถ้าเรากินเข้าไปล่ะ เลือดได้ร่างสูบฉีดเป็นลมกรดแน่นอนค่ะ และมีเพื่อนที่เคยได้กินแล้ว บอกว่า ดีมากกกกกก แต่จะทำให้ง่วง หลับแบบสลบเลยทีเดียว คือทำให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ค่ะ ทัวร์เกาหลีในส่วนของสรรพคุณอย่างละเอียดหน่อย ขออนุญาตอ้างอิงจากเอกสารที่เค้าให้มาในวันที่เค้าพรีเซนต์ และพยายามโปรโมตสินค้าเพื่อให้เราบริโภคและมีสุขภาพดีนะคะ และมีการดัดแปลงข้อความบ้าง เพราะภาษาไทยในเอกสารมีความแปลกทางภาษาอยู่บ้างค่ะ ..ประวัติ และที่มาของ สนเข็มแดงการแพทย์แผนโบราณตะวันออกในเอเชียได้ใช้น้ำมันสกัดจากใบสนเข็มแดงเกาหลีมา 4,000 กว่าปีแล้วในการรักษาสุขภาพมากกว่า 170 อาการ น้ำมันสนเข็มแดงเกาหลีจะทำความสะอาดเลือด และช่วยฟื้นฟูเซลล์ในร่างกาย เพื่อชะลอวัย ทำให้คุณรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวามากขึ้นในทันที และที่สำคัญ.. มันจะช่วยกระชับผิวที่เหี่ยว และหย่อนคล้อยได้อีกด้วย ซึ่งน้ำมันใบสนเข็มแดงเกาหลีได้รับความสำเร็จอย่างสูงในการเปลี่ยนผมขาวกลับไปเป็นสีตามธรรมชาติ และงอกใหม่ดกดำมากขึ้นเมื่อบริโภคในชีวิตประจำวันเป็นประจำ ทัวร์เกาหลีน้ำมันใบสนเข็มแดงเกาหลีเป็นความลับความงามของธรรมชาติชีวิตยืนยาว ต้านริ้วรอย ในญี่ปุ่น และเกาหลีมาเป็นพันปี ใบสนเข็มแดงเกาหลีเป็นต้นไม้ที่มีความพิเศษมาก เพราะมีค่าสารอาหารสูง ได้แก่ คลอโรฟิลล์ ธาตุเหล็ก เบต้าแคโรทีน โปรตีน วิตามิน A และรูติน และน้ำมันสนมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดอัตราความเสี่ยงในการก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ชะลอความแก่ชรา และป้องกันโรคแทรกซ้อนในกระแสเลือดวิธี และเทคนิคการรับประทานอย่างมีประสิทธิภาพบำรุงสุขภาพ และปรับโครงสร้างเลือดให้แข็งแรง รับประทานครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเย็น หรือก่อนนอนสำหรับผู้มีปัญหาสุขภาพ เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมัน คลอเลสเตอรอล และผู้ที่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ รับประทานหลังอาหาร หรือก่อนนอน 2 เม็ดท่านที่ดื่มสุรา กินเนื้อสัตว์ กินอาหารประเภทแป้ง กินอาหารมากเกินไป อาหารเป็นพิษ รับประทานทันที 2 เม็ดระบบทางเดินอาหารผิดปกติ เช่น กระเพาะ กรดไหลย้อน ให้รับประทานหลังอาหารทันที จะทำให้ย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น และดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้นด้วยการใช้ภายนอกที่ผิวหนัง ทาที่ผิว และหนังศีรษะ ช่วยลดอาการคันจากผื่นแพ้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ นวดเบาๆ เวียนศีรษะ ใช้สูดดม3-4 สัปดาห์ หลังรับประทาน ระบบเลือดในร่างกายจะไหลเวียนดีขึ้น ร่างกายจะดูดซับสารอาหารไปซ่อมส่วนที่สึกหรอได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งสดใสยิ่งขึ้น คลายความเครียด ความเหนื่อยล้า ข้อควรระวัง ไม่แนะนำสำหรับสตรีมีครรภ์ และช่วงให้นมบุตร เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และผู้ที่เป็นมะเร็งขั้นทำคีโมหากเพื่อนๆ มีโอกาสไปเยี่ยมชมศูนย์น้ำมันสนเข็มแดงเกาหลี ก็ลองซื้อมาบริโภคกันได้นะคะ คนที่ลองแล้ว เค้าว่าดีกันทุกคนค่ะ เพียงแต่ราคาอาจจะดูสูงซักหน่อย แต่ที่ศูนย์ฯ เค้ามีโปรโมชั่น ลด แจก แถมเยอะอยู่นะคะ ^_^ทัวร์เกาหลีตลาดทัวร์  แมกกาซีน...รอบรู้เรื่องเที่ยว เชี่ยวชาญเรื่องทัวร์ …สนุกกับการเดินทางไปกับเรานะคะLIKE & Follow เราได้ที่ FB Fan Page: ตลาดทัวร์ แมกกาซีนSubscribe YouTube: ตลาดทัวร์ แมกกาซีน

วัดวาวูจองซา เกาหลีใต้ วัดแห่งเศรียรพระรูปสลักจากไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก บันทึกโดย Guinness Book ไม่ไปไม่ได้แล้วววววววว!วัดวาวูจองซา วัดที่มีเศียรพระพุทธรูปไม้สลักขนาดใหญ่มากสีทองอร่าม นับเป็นรูปสลักจากไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกวัดวาวูจองซา (Waujeongsa Temple)  เป็นวัดที่สร้างเสร็จเมื่อประมาณ 45 ปีที่แล้ว โดยชาวเกาหลีเหนือ ที่เข้ามาอยู่ในเกาหลีใต้ ภายหลังสงคราม สร้างวัดขึ้นเพื่ออยากรวมเกาหลีเหนือ กับเกาหลีใต้แต่จนถึงปัจจุบัน ก็ยังสร้างไม่เสร็จค่ะเมื่อเข้าไปในบริเวณวัด ซึ่งกว้างขวางมาก และยังไม่ทันถึงตัววัดก็จะเห็นเศียรพระพุทธรูปไม้สลักขนาดใหญ่มากสีทองอร่าม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของวัดนี้ เศียรพระพุทธรูปนี้มีความสูงถึง 8 เมตร วางตั้งอยู่บนกองหินขนาดใหญ่ ถ้ามองจากระยะไกลกองหินนี้จะดูเหมือนลำตัวของพระพุทธรูป โดยเศียรพระพุทธรูปที่นี่ได้รับการบันทึกลง Guinness Book ให้เป็น “รูปสลักจากไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก” บริเวณฐานชองกองหินนี้ มีช่องที่เราสามารถบริจาคเงิน และเขียนชื่อไว้ที่เทียนอธิษฐานสีขาว จุดไว้ภายในช่องกระจกแก้วนี้ สวยงาม และให้ความรู้สึกสงบมากค่ะ และถัดไปทางเดินเข้าวัด ก็จะมีรูปปั้นหินสลักดูเหมือนจะเป็นนกฮูกแม่กับลูก แลดูน่ารักมากค่ะ ทัวร์เกาหลีเศียรพระพุทธรูปไม้ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก วัดวาวูจองซา เกาหลีใต้เมื่อเดินเข้าสู่อุโบสถซึ่งอยู่บนเนินเขาก็จะพบกับที่ประดิษฐานพระนอนขนาดใหญ่ที่แกะสลักมาจากไม้ซึ่งนำมาจากอินเดีย และมีความเก่าแก่ ทางวัดยังมีให้ทำบุญซื้อหลังคาวัดแล้วให้เขียนชื่อของเราไว้บนหลังคานอกจากนี้ที่วัดแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บรักษาระฆังที่ใช้ตีในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิค ในปี ค.ศ. 1987 อีกด้วย ก็เพราะอย่างนี้นี่เองที่นี่ถึงติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวในเกาหลีทัวร์เกาหลีพระนอนแกะสลักจากไม้ วัดวาวูจองซา เกาหลีใต้วัดวาวูจองซา ก็มีความสวยงามไปตามฤดูกาล รอบๆ ตัววัดมีต้นซากุระที่จะออกดอกสีชมพูเต็มต้นในช่วงเดือนเมษายน มีต้นเมเปิ้ลที่ใบจะเปลี่ยนสีสวยๆ เป็นสีแดงสด ด้านหน้าของเศียรพระพุทธรูปจะเป็นสระน้ำ ซึ่งมีพระองค์เล็กๆ วางอยู่รอบๆ สระยาวไปจนถึงกองหินที่เป็นฐานของเศียรพระพุทธรูป บริเวณรอบๆ วัดก็มีรูปปั้นหินสลักเณรน้อยนั่งพนมมือ และมีเหรียญวางบนหน้าตักทัวร์เกาหลีบริเวณวัด วัดวาวูจองซา เกาหลีใต้และในบริเวณวัด ยังมีรูปแกะสลักหิน เป็นรูป 12 นักษัตริย์ เรียงรายไว้สวยงาม ... นับเป็นวัดที่ให้ความสงบ ร่มรื่น มีเสียงสวดมนต์ให้ใจเรามีสมาธิขณะเดินในวัด และมีตุ๊กตาอธิษฐาน รวมถึงโคมอธิษฐานประดับอยู่ในหลายส่วนของวัด ฉะนั้น ถ้าเรามีโอกาสมาเที่ยวเกาหลีใต้ วัดวาวูจองซาเป็นอีกสถานที่ที่เราไม่ควรพลาดค่ะ ทางเดินขึ้นวัด วัดวาวูจองซา เกาหลีใต้ตลาดทัวร์  แมกกาซีน...รอบรู้เรื่องเที่ยว เชี่ยวชาญเรื่องทัวร์ …สนุกกับการเดินทางไปกับเรานะคะทัวร์เกาหลีLIKE & Follow เราได้ที่ FB Fan Page: ตลาดทัวร์ แมกกาซีนSubscribe YouTube: ตลาดทัวร์ แมกกาซีน

เกาะนามิ เกาะในฝันชื่อดัง และสุดโรแมนติก เกาหลีใต้เกาะนามิ เกาะที่มีความงามแตกต่างกันในทุกฤดูกาลและอบอวลไปด้วยความโรแมนติกเกาะนามิ หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำละครเกาหลี  Winter Love Song หรือ เพลงรักในสายลมหนาว ซึ่งก่อนหน้านี้มักมีแต่ชาวเกาหลีมาเยี่ยมเยือน แต่นักท่องเที่ยวเริ่มรู้จัก ทัวร์เกาหลี และเข้ามาเที่ยวกันมากมายเนื่องจากกระแสความดังของละครเรื่องนี้ ซึ่งนำแสดงโดย แบ-ยอง-จุน เราจะได้พบรูปปั้น แบ-ยอง-จุน เมื่อเราเดินขึ้นจากเรือไปประมาณ 15-20 นาที นับเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตก็เกาะนี้ทีเดียวค่ะ และเราคงเดากันได้ว่านักท่องเที่ยวประเทศไหนมาเที่ยวมากสุด... แน่นอนค่ะ นักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวที่นี่มากที่สุดถึงปีละ 8 ล้านคน ส่วนคนไทยมาเที่ยวประมาณเกือบ 4 แสนคนเกาะนามิ ทางเดินสุดโรแมนติกในการเดินทางมาเกาะนามิในทะเลสาบชองคยอง ซึ่งก็คือชื่อเขื่อน เราจะใช้เรือเฟอร์รี่ข้ามมา โดยใช้เวลาสั้นมาก แค่เพียง 5-7 นาที เกาะนามินั้น พื้นที่แต่ก่อนไม่ใช่เกาะ แต่หลังจากการสร้างเขื่อนก็ได้กลายสภาพเป็นเกาะ และ “นามิ” เป็นชื่อนายพลชื่อดังสมัยโชซอน หลุมศพของท่านสามารถเห็นได้ที่เกาะนามิแห่งนี้ และเกาะนามิเป็นของเอกชนนะจ้ะ ไม่ใช่รัฐบาลทัวร์เกาหลีเกาะนามิ เรือเฟอร์รี่ณ เกาะนามิ เพื่อนๆ จะได้เห็นความงดงามของดอกไม้หลากหลายพันธุ์ที่แข่งกันผลิดอกสีสันงดงาม สามารถเดินเล่นรอบเกาะนามิชมทิวต้นสนที่เป็นไฮไลท์ของเกาะนามิ และถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจ ระหว่างทางมีร้านค้า 2 ข้างทาง อาทิ ร้านกาแฟ ร้านข้าวโพดเกาหลี ร้านซาลาเปา ร้านไส้กรอก ขนมแพนเค้ก แสนอร่อย ให้ท่านเลือกซื้อทานได้ตามอัธยาศัย หรือจะเลือกนั่งจิบกาแฟร้อนๆ ในร้าน Coffee Shop ในเกาะนามิ ได้ค่ะทัวร์เกาหลีเกาะนามิ ใบไม้เปลี่ยนสีสุดสวยงามนอกจานั้นยังมีมุมที่เห็นความงามของทะเลสาบได้ ข้างๆ อนุสาวรีย์น้ำตกด้านในเกาะ เป็นวิวทะเลสาบที่สวยงามมาก และเห็นมีนักท่องเที่ยวเล่นบานาน่ากันอยู่ไกลลิบๆ ค่ะ คราวหน้า เห็นทีต้องมาชมความงามยามที่เกาะนามิปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน ช่างน่าโรแมนติกซะเหลือเกิน... โอปป้าไหนจะมากะเรามั้ยนะ อิอิ #โหมดเพ้อเกาะนามิ อนุสาวรีย์แม่ลูกตลาดทัวร์  แมกกาซีน...รอบรู้เรื่องเที่ยว เชี่ยวชาญเรื่องทัวร์ …สนุกกับการเดินทางไปกับเรานะคะทัวร์เกาหลีLIKE & Follow เราได้ที่ FB Fan Page: ตลาดทัวร์ แมกกาซีนSubscribe YouTube: ตลาดทัวร์ แมกกาซีน

สะพานกระจกแก้วเกาหลี ซุยังคัง เกาหลีใต้ หรือ Soyanggang Sky Walk สะพานกระจกแก้วที่ยาวที่สุดในเกาหลีใต้เกาหลีใต้ มีที่เที่ยวใหม่ที่สวยงาม และหวาดเสียว สะพานกระจกแก้วซุยังคัง สะพานกระจกที่ยาวที่สุดในเกาหลีเมื่อเร็วๆ นี้ ปี 2016 มีการเปิดตัวที่เที่ยวใหม่ของเกาหลีใต้ นั่นคือ สะพานกระจกแก้ว Soyanggang Sky Walk (Soyanggang Sky Walk : 소양강 스카이워크) ตั้งอยู่บนแม่น้ำซุยัง ซึ่งนำมาซึ่งชื่อสะพาน ซุยังคัง เพราะคังแปลว่า แม่น้ำ บ้างเรียกว่าแม่น้ำฮัน... ส่วนทะเลสาบเอียมโฮนั้น จะอยู่ทางด้านบนของแม่น้ำ และเมืองชุนชอนนี้ เป็นเมืองอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโซล ก่อนรถจอด เราเห็นสะพานแก้วนี่ตระหง่านยื่นลงไปในแม่น้ำ มีลักษณะคล้ายๆ สะพานแขวนค่ะ สีขาวบนพื้นน้ำ สวยงามเก๋ไก๋ ... พอรถจอด เราก็ลงจากรถ แต่สิ่งที่กรี๊ดสำหรับสาวๆ คือ ดงดอกกุหลาบแดงค่ะ เค้าปลูกไว้ริมทางเดินไปสะพานกระจกแก้ว คือกุหลาบแดงสด บานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอม คือไม่มีใครไม่ถ่ายภาพกะแนวดอกกุหลาบแดงนี้เลยค่ะ ^_^ ฮ่าๆๆๆ ถูกใจสว.ยิ่งนัก แต่วัยรุ่นก็มาถ่ายรูปน้า.. ทัวร์เกาหลีสะพานกระจกแก้วซุยังคังว่าแล้วก็รีบเดินไปยังสะพาน ตรงบริเวณเชิงสะพานเป็นลานไม้ มีร้านกาแฟอยู่ 2-3 ร้าน และมีชิ้นส่วนตัวอย่างกระจกนิรภัยแก้วที่ใช้สร้างพื้นสะพานให้ได้ชมความหนาโชว์อยู่ด้วย ... และตรงนี้จะมีที่ให้เราหยิบรองเท้าผ้าใหญ่ๆ มาสวมคลุมรองเท้าเรา เพื่อไม่ให้เกิดรอยขูดขีดบนพื้นผิวกระจกแก้ว หรือเป็นการดูแลความสะอาดของสะพาน อาจลื่นนิดหน่อย.. ให้ความรู้สึกเหมือนเราเป็นสเมิฟ ฮ่าๆๆ คิดได้เนาะ.. เริ่มเดินไปบนกระจกแก้วกันเลยดีกว่าค่ะ ทัวร์เกาหลีสะพานกระจกแก้วซุยังคังในการเดินบนพื้นกระจกใสนั้น เพื่อนๆ จะได้สัมผัสความตื่นเต้นจากการเดินบนสะพานกระจกแก้ว ที่มีความยาวรวมทั้งหมด 176 เมตร เราจะสนุกสนานกับการเดินบนกระจก มองลงไปเห็นพื้นน้ำ ทำให้รู้สึกหวาดเสียว เหมือนเรายืนบนแก้วบอบบาง ถ้าเดินต่อ หรือขยับตัว อาจหล่นลงไปได้.. แต่สำหรับคนจิตแข็ง ก็ปกติค่ะ เดินบนสะพานสวยๆ วิวทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำซุยัง แบบ 360 องศาตอนกลางวันสวยงาม ตรงกลางสะพานมีลานกลมๆ เป็นกระจกแผ่นกว้างให้ได้นอนถ่ายภาพตามอัธยาศัย สะพานกระจกแก้วซุยังคังในทะเลสาบตรงปลายสุดสะพาน มีอนุสาวรีย์ปลาซูการี ตัวโตโดดขึ้นมาจากน้ำ ทัวร์เกาหลีสะพานกระจกแก้วซุยังคัง อนุสาวรีย์ปลาซูการีไกด์บอกว่าเป็นปลาแถบถิ่นนี้ ที่มีรสชาติอร่อยค่ะ และถ้ามาตอนค่ำๆ หรือตอนกลางคืน เราก็จะเห็นแสงไฟสปอร์ตไลต์ที่สาดส่องไปยังบนตัวสะพาน ซึ่งมีความสวยงามไปอีกแบบค่ะ..  ทัวร์เกาหลีสะพานกระจกแก้วซุยังคัง ยามค่ำคืนช่วงเวลาในการเยี่ยมชม : ช่วงเดือนมีนาคม – ตุลาคม เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา10.00-20.30 น. และช่วงเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น.ตลาดทัวร์  แมกกาซีน...รอบรู้เรื่องเที่ยว เชี่ยวชาญเรื่องทัวร์ …สนุกกับการเดินทางไปกับเรานะคะLIKE & Follow เราได้ที่ FB Fan Page: ตลาดทัวร์ แมกกาซีนSubscribe YouTube: ตลาดทัวร์ แมกกาซีน

วัดโพทับซา เมืองจินชอน เกาหลีใต้คุณจะได้พบเจดีย์ไม้ 3 ชั้นแห่งเดียวในเกาหลีที่ไม่ใช้ตะปูเลยในการสร้างทริปเกาหลีของชาขมคราวนี้ เราเที่ยววัดด้วยกัน 2 วัดนะคะ และวัดที่ชาขมจะพาเที่ยววันนี้ มีความพิเศษมากตรงที่ว่า วัดนี้มีเจดีย์สวยงามอลังการ เป็นเจดีย์ไม้ 3 ชั้นที่ไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว แต่ยึดไม้เข้าด้วยกันด้วยเทคนิคลิ่ม หรือสลักไม้เข้าลิ่มยึดกันไว้ ซึ่งเป็นเทคนิคเก่าแก่นับพันปี และด้วยเทคนิคนี้ เจดีย์นี้จะอยู่คู่โลกนี้ไปนับพันๆ ปีเลยค่ะ บริเวณวัดโพทับซา เมืองจินชอน เกาหลีใต้ เงียบสงบวัดนี้ชื่อ วัดโพทับซา ตั้งอยู่ที่เมืองจินชอน บนเขาโพเรียนซัน เป็นวัดมหาญาณ และวัดนี้มีแต่ภิกขุณี คือพระที่เป็นผู้หญิง วัดนี้สวยงามประดับด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ นับเป็นวัดดังที่มีผู้คนมากันเยอะ แม้จะเป็นวัดต่างจังหวัด เพราะญาติโยมมาขอพร แล้วส่วนใหญ่ได้ตามที่ขอ คนเลยหลั่งไหลมาทำบุญ... วัดนี้มีต้นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปีอยู่ทางซ้ายของประตูทางเข้าวัด ฟอร์มต้นไม้สวยมากค่ะ และประตูทางเข้าวัดอยู่ทางขวา และตรงนี้เอง มีเทพอารักขาอยู่ข้างละ 2 เทพ เราเดินขึ้นบันไดไปเข้าวัดด้านใน... เราจะพบกับศาลา 2 ศาลา ศาลานึงมีกลองใบใหญ่แขวนอยู่ และมีปลาแขวนอยู่ข้างๆ ประตูทางเข้าวัดโพทับซา เมืองจินชอน เกาหลีใต้และตรงกลางลาน มีเจดีย์ไม้ 3 ชั้นตระหงานอยู่อย่างสวยงาม ซึ่งเจดีย์ไม้นี้มีความสูง 42.71 เมตร คือวัดนี้สร้างมานานแล้ว บ้างว่าตั้งแต่ยุคสามก๊ก (คือตั้งแต่เป็นเอกราชจากจีน ดินแดนเกาหลีตอนนั้น แบ่งเป็น 3 อาณาจักร คือ อาณาจักรโคกูรยอ อาณาจักรแพ็กเจ และอาณาจักรชิลล่า ต่อมาภายหลังถึงมียุคที่ชิลล่ารวบรวมอาณาจักรเกือบทั้งหมดไว้ได้เป็นครั้งแรก จึงเป็นยุคชิลลา) บ้างว่าตั้งแต่ยุคซิลล่า คือเมื่ออาณาจักรชิลลา ถือตนว่าเป็นผู้มีชัยเหนืออาณาจักรอื่นบนคาบสมุทรเกาหลีทั้งหมด เพื่อเป็นการแสดงความปรารถนาที่จะรวมแผ่นดินทั้งเหนือ และใต้ให้เป็นหนึ่งเดียว และหวังจะขยายอาณาจักรไปจนถึงแผ่นดินโคกุเรียวโบราณ บ้างก็ว่ายุคโครยอ (Goryeo) แต่วัดนี้ก็ได้ถูกเผาไป และเทคนิคการใช้ลิ่มนี้ก็สูญหายไปเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้วในปี พ. ศ. 2534 (ค.ศ.1991) ทีมงานสืบสานวัฒนธรรมเกาหลีได้เดินทางมาที่วัดนี้ และในเดือนพฤษภาคมปี 2535 (ค.ศ.1992) ก็ได้มีการก่อสร้างเจดีย์ไม้ลิ่มขึ้นภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการด้านวัฒนธรรมที่นำโดย Sin Yeong-hun (หรือ Shin Young-hoon) โดยอาศัยการออกแบบเจดีย์ไม้เก้าชั้นเก่าแก่ของวัด Hwangnyongsa ของ Gyeongju และได้นำพระพุทธรูปองค์หลักถูกวางไว้บนแต่ละมุมของชั้นแรกของวัด พระสูตรบนชั้นสอง และภาพสามเหลี่ยมของ Maitreya ในชั้นที่สาม เจดีย์ไม้นั้นนับว่าหายากมากในเกาหลี และก็เป็นสิ่งพิเศษที่ผู้มาเยือนสามารถเดินขึ้นชมได้ทั้ง 3 ชั้นเจดีย์ไม้หนึ่งเดียวใน เกาหลีใต้ วัดโพทับซา เมืองจินชอนไม้สลักลิ่ม มีความงดงามยิ่งนัก วัดโพทับซา เมืองจินชอน เกาหลีใต้ไม้สลักลิ่ม มีความงดงามยิ่งนัก วัดโพทับซา เมืองจินชอน เกาหลีใต้และยังมีศาลาข้างเคียงที่ภายในมีพระนอนให้เราได้ชม หรือสักการบูชาอีกด้วยค่ะเพดานประดับประดาอย่างวิจิตร วัดโพทับซา เมืองจินชอน เกาหลีใต้พระนอน วัดโพทับซา เมืองจินชอน เกาหลีใต้หมู่พระพุทธรูป วัดโพทับซา เมืองจินชอน เกาหลีใต้และเสริมอีกนิดว่าที่เกาหลีใต้นี้นั้น ผู้คนนับถือศาสนาคริส 40% พุทธ 40% อีก 20% นับถือตัวเองคือไม่มีศาสนา และคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ก็เริ่มไม่นับถือศาสนามากขึ้นๆ เรื่องนี้น่าจะเกิดมากขึ้นในทุกประเทศในทุกวันนี้นะคะ อย่างไรก็ดีเรื่องศาสนา และความเชื่อ ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล เราก็ยึดหลักการทำความดีของศาสนาเรา และทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม และชาติบ้างเมือง และถ้าสามารถ ก็ช่วยกันรณรงค์ให้คนเป็นคนดี และแคร์สังคมของเราให้มากขึ้นนะคะ เพราะในยุคเทคโนโลยีไปไกลแบบนี้ อุปกรณ์สื่อสารโลกโซเชียลอยู่ในมือเกือบทุกคน บ้างครั้งการเรียกร้องสิทธิ์อย่างถูกต้องมันก็ดี แต่บางครั้งการเงียบก็ทำให้ปัญหาถกเถียงในสังคมเราน้อยลงนะคะ แต่ก็แล้วแต่เรื่อง และสถานการณ์ และวิจารณญาณของแต่ละคนนะคะ ^_^เดินชมวัด ทำใจร่มๆ ผ่อนคลาย แล้วไปเที่ยวกันต่อเถอะค่ะ #ตลาดทัวร์ตลาดทัวร์  แมกกาซีน... รอบรู้เรื่องเที่ยว เชี่ยวชาญเรื่องทัวร์ …สนุกกับการเดินทางไปกับเรานะคะLIKE & Follow เราได้ที่ FB Fan Page: ตลาดทัวร์ แมกกาซีน

ตลาดเมียงดง หรือสยามสแควร์เกาหลี ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งสุดฮิต ที่คุณนักช้อปตัวยงอย่างเราจะไม่พลาดค่ะเมียงดง เมียงดง เมียงดง และแล้ว ก็มาถึงช่วงเวลาแห่งความตื่นตาตื่นใจในการละลายทรัพย์ ซึ่งเพื่อนๆ ทุกคนที่มาเที่ยวเกาหลี คงต้องรอคอยช่วงปล่อยฟรี หรือถ้ามาเอง ก็คือวันที่เราจะได้มาตระการตา ช้อปปิ้งเต็มๆ ที่ย่านสยามสแควร์ของชาวเกาหลีใต้ ตลาดถนนเมียงดง คร่า ทุกปีจะมีผู้คนเกินกว่าล้านคนมาเยี่ยมเยือนถนนแห่งแสงสี และมีสีสรรเส้นนี้ อลังกว่านั้นคือ ถนนนี้ยังเป็นที่ตั้งของตึก UNESCO Korea Committee และเพื่อนๆ อาจสังเกตเห็นแผ่นป้ายทองแดงที่ฝั่งไว้ที่พื้นถนนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบ 60 ปี ในการที่เกาหลีใต้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกับองค์การยูเนสโก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 ^_^  เมียงดง ก็แอบมีประวัติศาสตร์ทรงคุณค่าแอบซ่อนอยู่นะคะชาขมคาดว่า สาวๆ คงพร้อมช้อปที่นี่ตั้งแต่ตอนแพ็คกระเป๋าก่อนมาแน่ๆ แต่คุณผู้ชายล่ะคะ.. ชาขมเชื่อว่าคุณผู้ชาย ก็ต้องชอบค่ะ.. ทำไม มีอะไร ให้หนุ่มๆ ไม่เบื่อบ้าง.. #ไปเที่ยวด้วยกัน เราไปเที่ยวตลาดเมียงดงกันค่ะตลาดเมียงดง เป็นตลาดยอดฮิตของกรุงโซล ฮิตทั้งในหนุ่มสาวชาวเกาหลีเอง และชาวต่างชาติ ลักษณะแหล่งช้อปปิ้งนี้ จะเป็นถนนเส้นใหญ่ เป็นถนนช้อปปิ้งหลัง และมีซอกซอยเล็ก แยกออกไป .. ตรงโซนถนนกลาง ก็เป็นร้านแบรนด์ดังซะส่วนใหญ่ บางร้านใหญ่หลายช่วงตึก และถ้าเป็นร้านเครื่องสำอางแบรนด์ดังที่คนไทยชอบ ก็ถึงกับมีหลายสาขาบนถนนเส้นนี้เลยค่ะ ส่วนในซอยเล็กก็มีร้านรวงแบรนด์พื้นเมือง ร้านอาร์ทๆ คูลๆ ให้เห็นมากมายค่ะ ทั้งยังมีร้านขายแบรนด์กีฬาระดับโลกไว้รอต้อนรับหนุ่มๆ ให้ไม่ต้องนั่งรอสาวๆ ให้เบื่อค่ะ จะมีแบรด์อะไรบ้าง.... เราจะเริ่มช้อปกันล่ะนะคะ #ไปเที่ยวด้วยกันและชาขมก็เชื่อว่าในการมาเที่ยวเกาหลีของสาวๆ และเพื่อนสาวนั้น มักจะมีช้อปปิ้ง ลิสต์ (Shopping List) กันมาพร้อม ไม่ว่าจะเป็นรายการช้อปปิ้งของตัวเอง ที่ได้เล็งไว้จากเค้าเตอร์ในไทย หรือเล็งรุ่นที่น่าใช้ หรือออกใหม่ล่าสุดจากอินเตอร์เนตไว้แล้ว และรายกายของญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูง... แน่นอนค่ะ ชาขมก็มีค่ะ.. ฮ่าๆๆ เราจะเริ่มช้อปเครื่องสำอางยอดฮิต แบรนด์ดังกันเลยค่ะ เมียงดงมี Etude, Innisfree, It’s Skin, Skin Food, The Face Shop, Laneige, 3CE Stylenanda, Nature, Missha ซึ่งแบรนด์เกาหลีเหล่านี้คุณภาพดีแล้วแต่แบรนด์ แต่เรื่องราคานั้น จะถูกกว่าเมืองไทยเรา 30% ขึ้นไป แล้วยิ่งถ้าเจอช่วงลดราคา ก็ถูกประมาณ 50% ก็เป็นได้ แถมร้านเหล่านี้ ก็ชอบแถมสินค้าตัวอย่างด้วยสิคะ ไม่ใช่ให้น้อยๆ ให้เยอะจนสาวไทยอมยิ้มหวานๆ หวานมาก แล้วตอบกลับว่า.. คำฮำสามีดา.. เอ่อ ไม่ใช่มั้ยคะ?.. ต้องพูดว่า คัมซาฮัมนีดา ค่ะแปลว่า ขอบคุณ ในภาษาเกาหลีนั่นเอง!ส่วนแบรนด์แฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องกีฬาระดับโลก และปังมาก ดังถึงแดนโสม ก็มี ZARA, Forever 21, H&M, Uniqlo, CK, Adidas, Nike, New Balance, Onitsuka Tiger, ABC Mart ..แบรนด์กาแฟระดับโลกอย่าง Starbuck ต้องยังมารอให้ขาช้อปได้จิบกาแฟตอนพักครึ่ง ก่อนลุยต่อ แม้แต่แบรนด์ขนมก็มา Dunkin Donut ก็มาค่ะ.. ที่เอ่ยมา เพื่อนๆ ลองจิตนาการว่าเข้าร้านละ 2-3 นาที ก็กะว่าเกินชั่วโมงแน่ๆ แล้วค่ะที่จะใช้เวลาไปกับแบรนด์ต่างๆ ที่ตลาดเมียงดงแห่งนี้ และยังมีสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้า กระเป๋า ไม่ติดแบรนด์ แต่เก๋ไก๋มีสไตล์ไว้ให้เพื่อนๆ ได้เลือกซื้ออีกเยอะมากกกกกกกค่ะแต่เมื่อช้อปปิ้งนานๆ ย่อมต้องเติมพลังให้ร่างน้อยๆ บอบบาง ของเรากันหน่อยค่ะ.. ในโซนถนนกลางกว้างๆ พอตกเย็น ก็จะมีรถเข็น หรือบูธตั้งร้านของกิน หรือ Street Food มากมายค่ะ น่าโดนน่าลิ้มลองลิ้มรสมันซะทุกร้านเชียวเออ.. อาทิเช่น ล็อบสเตอร์ย่าง โอ้ววว สุดยอด ปลาหมึกย่างบด ลูกชิ้นทอดเสียบไม้ ปลาหมึก-ปู-กุ้งชุบแป้งทอด เกี๊ยวซ่า ไอติม สตรอเบอร์รี่ในถ้วย และยังมีร้านอาหาร ร้านชานม ร้านเหล้าในบริเวณนี้อีกมากมายค่ะ..ถ้ายังช้อปปิ้งถนนเมียงดงไม่หน่ำใจ ใกล้ๆ กันนี้ยังมีห้างดังไว้รอเพื่อนๆ ขาช้อปอีกคือ ห้างล็อตเต้ (Lotte), ล็อตเต้ ยัง พลาซ่า (Lotte Young Plaza) และ ซินเซแก (Shinsegae) ไงคะ ^_^ ชาขมว่า ถ้ามีโอกาส เพื่อนๆ คงอยากมาช้อปปิ้งที่นี่ และเผื่อเวลาไว้อย่างน้อยสัก 2 ชั่วโมงนะคะ อ้อ.. ถ้า Shopping List พร้อม! เพื่อนๆ ก็จะมีเวลาไปเดินกินอาหารรถเข็น หรือนั่งกินขนมกินชาได้อีกค่ะเที่ยวชม และช้อปปิ้งตลาดเมียงดงซะเหนื่อย แต่ก็ดีค่ะ ถือว่าเป็นการเบิร์นมื้อเย็นออกไป เผาผลาญของเก่า เผื่อกินของใหม่เข้าร่าง ฮ่าๆๆๆ ชาขมขอตัวไปช้อปต่อก่อนนะคะ.. ช้อปไป ก็เดินดูดชานมสตรอเบอร์รี่ไข่มุกไปด้วย อากาศค่ำนี้ ก็เย็นฉ่ำดียิ่งนัก.. ไว้ถ้าชาขมมาช้อปปิ้งเมียงดงคราวหน้า จะเป็นฤดูร้อนมั้ย หรือจะเดินช้อปท่ามกลางหิมะกันเลย.. ไว้เพื่อนๆ ติดตามอ่าน และ #เที่ยวไปด้วยกัน นะคะ ^_^ตลาดทัวร์  แมกกาซีน... รอบรู้เรื่องเที่ยว เชี่ยวชาญเรื่องทัวร์ …สนุกกับการเดินทางไปกับเรานะคะLIKE & Follow เราได้ที่ FB Fan Page: ตลาดทัวร์ แมกกาซีน

สุสานหินโบราณ 3 พันปี หรือ ดอลเมน แห่งเมืองคังฮวา เกาหลีใต้ : Ganghwa Dolmen Sitesเมืองคังฮวา มีมรดกโลกด้านวัฒนธรรมอันล้ำค่า และคงอยู่มาช้านาน นั่นคือ ดอลเมน หรือ สุสานหินโบราณที่มีอายุเกือบ 3 พันปีในการมาเที่ยวเกาหลีใต้คราวนี้ เรายังอยู่ที่เกาะคังฮวา เมืองคังฮวา อินชอน ชาขมจะพาเพื่อนๆ ไปดูหิน... ใช่ค่ะ ไปดูหิน หินยักษ์ที่ตระหง่านอยู่ ณ เมืองคังฮวาแห่งนี้ย่อมไม่ธรรมดาค่ะ เพราะที่เราเห็นนี้ หินนี้ตั้งอยู่แบบนี้มาเกือบ 3,000 ปี!!!!! (1 พันปีก่อนคริสตกาล) โอ้ววววว ตั้ง 3 พันปี นั่นคือยุคเหล็ก ซึ่งนานมากกกกก เราเรียกว่า ดอลเมน แห่งเมืองคังฮวา ซึ่งคำว่า ดอลเมน (Dolmen) นั้นจะหมายถึงสุสานหินยุคก่อนประวัติศาสตร์ หรือที่เก็บศพยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยจะนำหิน 3 ก้อนใหญ่มาตั้ง ขั้นแรกตั้ง 2 ก้อนไว้ แล้วเอาอีกก้อนมาวางทับด้านบนทำให้ดูมีลักษณะคล้ายกับโต๊ะ เป็นห้องไว้เก็บศพ ..ดอลเมน มีการสร้างตั้งแต่ยุคหินใหม่ ประมาณ 3,000-4,000 ปีก่อนคริสตกาล สุสานหินโบราณ 3 พันปี หรือ ดอลเมน แห่งเมืองคังฮวา เกาหลีใต้ณ จุดที่เราจะไปชมสุสานหินโบราณ หรือ ดอลเมน แห่งเมืองคังฮวา เราจะต้องเดินขึ้นเนินไปเล็กน้อย เพราะจุดนี้มีความสูงกว่าจุดอื่นๆ และที่อยู่ตรงหน้าเรานี้ เป็นกลุ่มสุสานหินโบราณที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ วัดขนาดได้ 2.6 (สูง) x 7.1 (กว้าง) x 5.5 เมตร (ยาว) อาจมีน้ำหนักมากถึง 150 และ 225 ตัน ส่วนหินที่อยู่ด้านบนนั้น ยาว 6.4 เมตร และกว้าง 5.2 เมตร และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมกดกโลกด้านวัฒนธรรมว่า เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรม หรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน หรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว โดยองค์การยูเนสโก้ (UNESCO) ในปี 2000 (พ.ศ.2453) ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 24 เมื่อปี พ.ศ. 2543 ที่เมืองแคนส์ ประเทศออสเตรเลีย และในเมืองคังฮวานี้ มีหินสุสานอยู่ถึง 160 กลุ่ม และประมาณ 60 กลุ่มได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมกดกโลก  สุสานหินโบราณ 3 พันปี หรือ ดอลเมน แห่งเมืองคังฮวา เกาหลีใต้นี่ล่ะค่ะ บางครั้งการที่เราท่องโลกกว้างไปเจอสิ่งประหลาดที่ดูเหมือนเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แต่แท้จริงแล้ว เป็นมนุษย์เรานี่แหละเป็นผู้สร้างขึ้นมาด้วยเจตนาอะไรบางอย่าง ที่ชวนให้เราเข้าไปค้นคว้า และศึกษาถึงความพยายามในการทำสิ่งยากๆ ได้ในยุคพันๆ ปีก่อน แม้ว่าเทคนิคหรือวิวัฒนาการจะยังไม่พัฒนาการเท่าทุกวันนี้ แต่ก็สามารถสร้างให้สิ่งเหล่านี้ยืนหยัดมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราว และวัฒนธรรมในช่วงเวลานั้นๆ ได้  สุสานหินโบราณ 3 พันปี หรือ ดอลเมน แห่งเมืองคังฮวา เกาหลีใต้สุสานหินโบราณ 3 พันปี หรือ ดอลเมน แห่งเมืองคังฮวา เกาหลีใต้สุสานหินโบราณ 3 พันปี หรือ ดอลเมน แห่งเมืองคังฮวา เกาหลีใต้ตลาดทัวร์  แมกกาซีน...รอบรู้เรื่องเที่ยว เชี่ยวชาญเรื่องทัวร์ …สนุกกับการเดินทางไปกับเรานะคะLIKE & Follow เราได้ที่ FB Fan Page: ตลาดทัวร์ แมกกาซีน

ออนเซนเกาหลี รีอัลเวิร์ล (Reahnworld) น้ำแร่ธรรมชาติที่ดีที่สุดในโลกสปาเท้า ในศาลาน้ำแร่ที่ดีที่สุดในโลก ณ เมืองคังฮวา เป็นอีกจุดที่พลาดไม่ได้หากมาเยือนเกาะซอกโมโดหลังจากที่เราเดินขึ้นเขา เพื่อไปชมความงามของวัดโบมุนซามาแล้ว บ้างอาจมีความเมื่อยล้าเท้า และขาแข้ง อันนี้ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อของแต่ละท่านนะคะ ^^ ชาขมเลยจะพาเพื่อนๆ ไปสปาเท้ากันค่ะ (Hot Spring Foot Bath) หรือเรียกว่า ออนเซนเกาหลี ณ ที่ที่มีชื่อว่า รีอัลเวิร์ล (เรียลเวิร์ล) (Reahnworld) ส่วนใหญ่แล้ว เราจะได้ยินกันแต่ออนเซนของญี่ปุ่น แต่ว่าที่เกาหลีเอง ก็มีออนเซนนะจ้ะ อย่างในเมืองคังฮวา ซอกโมโด มีออนเซนที่ดีที่สุดในโลก เพราะมีแร่ธาตุอยู่เยอะที่สุดในโลก ในน้ำแร่ 1 ลิตร จะมีแร่ธาตุอยู่ 26.6 มิลลิกรัม แช่เท้าแล้ว หนังเท้าจะนุ่มเนียน... จะทดสอบอย่างไรดีน้า 55 แว๊กกกก คือหมายถึงเป็นการผ่อนคลาย สบายได้ทั้งร่างกายน่ะคะ เพราะเท้าเป็นจุดศูนย์รวมเส้นประสาทของเรา แช่เท้าในน้ำแรอุ่นๆ ช่างสบายแฮ ดีแท้หนอ..ออนเซนเกาหลี รีอัลเวิร์ล (เรียลเวิร์ล) นี้มีลักษณะเป็นศาลาน้ำเล็กๆ เจ้าของเป็นบริษัทสร้างบ้านรีอัล มีบ้านฮาน-อก คือบ้านเกาหลีสร้างขาย และให้เช่า รวมทั้งมีโรงแรม และทำออนเซนฟรีด้วย เพื่อเป็นการโฆษณา เมื่อเราไปถึงก็เดินไปซื้อผ้าเช็ดเท้าเล็กๆ จากร้านขายของที่นั่นนะคะ ผืนละ 2,000 วอน หรือประมาณ 60 บาท จุดนี้จะมีบ่อออนเซน 45 องศา กับ 60 องศา และที่พื้นบ่อจะเป็นหินก้อนๆ สวยงาม สามารถเดินไปมาเพื่อเป็นการนวดเท้าค่ะแช่เท้าเล่น ชมความงาม เม้ามอยหอยสังข์กะเพื่อนร่วมทาง ซักครึ่งชั่วโมง ก็มีแรงเดินเพื่อไปตะลุยเกาหลีกันต่อค่ะ ไปกันเถ้ออออ.. ตลาดทัวร์  แมกกาซีน... รอบรู้เรื่องเที่ยว เชี่ยวชาญเรื่องทัวร์ สนุกกับการเดินทางไปกับเรานะคะLIKE & Follow เราได้ที่ FB Fan Page: ตลาดทัวร์ แมกกาซีน

วัดโบมุนซา เป็นอีกสถานที่ที่น่าเยี่ยมชมหากคุณไปเที่ยวเกาหลีใต้คุณจะได้พบความงามทางศิลปะในความศรัทธาทางศาสนาวัดโบมุนซา พันปีแห่งความศรัทธาของพุทธศาสนาบนเกาะซอกโมโด ประเทศเกาหลีใต้ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศยอดฮิตที่มีนักท่องเที่ยวไทย ไปเยี่ยมเยียนมากมาย และส่วนใหญ่นั้น มีความดึงดูดจากความคลั่งไคล้... บางคนที่เขินอาย อาจเรียกว่า ความชื่นชมในละครเกาหลี หรือ ซีรี่ย์เกาหลี หรือเพราะอาจบรรยากาศสวยๆ ที่เราเห็นจากในหนังในละคร ซึ่งตัวชาขมเองไม่ติดซีรี่ย์เกาหลี แต่แน่นอนเคยดู Coffee Prince มาบ้าง.. โอ้ววว นั่น นานมากเลยนะพี่ชาย (ทำเสียงแบบนางเอกเกาหลีด้วยนะคะ จะได้เห็นภาพ 555) ชาขมก็ชอบฉากในเรื่อง แบบชื่อตัวละคร ก็ยังไม่ค่อยคุ้นหูนัก ไม่เหมือนดาราฮ่องกงที่เราคุ้นมากกว่า แถมฉากฤดูใบไม้เปลี่ยนสี หรือฤดูหนาวในเรื่อง ก็แสนโรแมนติกสุดขั้วหัวใจ แหมมมม อยากมีโอปป้าไว้ให้ซบอก ยามเราต้องการใครซักคน...อะ อะ เริ่มเพ้อละ... #รับยาช่องห้าค่ะ อิอิครานี้ ชาขมมีโอกาสไปเยี่ยมเยือนประเทศเกาหลีใต้ เพื่อสำรวจเส้นทางใหม่ในการท่องเที่ยวเกาหลี ..ทำไมถึงเป็นเส้นทางใหม่? เพราะว่าปกติแล้ว นักท่องเที่ยวจะไปเที่ยวเกาหลีในช่วงอากาศเย็น ถึงหนาว และหนาวมาก.. แต่ในช่วงฤดูที่ไม่เย็น ไม่มีหิมะ ไม่มีสตรอเบอร์รี่นั้น ประเทศเกาหลีใต้ ยังมีอะไรที่น่าสนใจให้เราได้เที่ยวอีกบ้าง นี่คือวัตถุประสงค์หลักของการไปเกาหลีในครั้งนี้ของชาขมค่ะ ^_^ ที่แรกที่เราจะไปชมกันก็คือ วัดโบมุนซา (Bomunsa Temple) วัดที่มีอายุเก่าแก่กว่าพันปี อยู่ในเกาะซอกโมโด (Seokmodo Island) เมืองอินชอน ตำบลคังฮวาโด (Ganghwado) เกาะนี้รูปร่างเหมือนรองเท้าบูธ พื้นที่ 42.17 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเกาหลี อยู่บนภูเขานากา ความสูง 216 เมตร วัดโบราณของเกาหลีมักสร้างบนภูเขาสูง วัดโบมุนซา มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่ยุคอาณาจักรชินล่า รวม 3 อาณาจักร สร้างเมื่อปี ค.ศ. 635 สมัยกษัตริย์ซอนด็อก (Queen Seondeok) เป็นกษัตริย์ 1 ใน 2 คนของเกาหลีที่เป็นผู้หญิงในยุคชินล่า (Silla ) (อีกคนชื่อชินด็อก)การไปเกาะซอกโมโด เราสามารถเอารถเรือเพื่อข้ามไปเกาะได้เลยที่ท่าเรือเวพโพ แล่นไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 1.2 กิโลเมตร โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยเราสามารถให้อาหารนกนางนวลได้ จะมีนกนางนวลมากมายบินวนเหนือเราในเรือ และมากินอาหารจากมือเรา แต่ว่าตั้งแต่เดือนเมษายน 2017 เป็นต้นไปสะพานใหม่ที่เชื่อมไปยังเกาะซอกโมโดแห่งนี้ ก็จะเปิดใช้งาน จึงมีทางเลือกหากไม่ต้องการใช้เรือในการข้ามไปยังเกาะ (เกาะใหญ่ที่สุดในเกาหลีอันดับ 1. เกาะเจจู 2. เกาะลงโด 3. เกาะมีโด)เมื่อรถเราไปจอดลานด้านล่างซึ่งเป็นจุดจอดรถ เราจะเดินผ่านทางเดินที่คุณย่าคุณยายคนท้องถิ่นมานั่งขายพืชผักตากแห้งข้างๆ ทางอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งมีทั้งเห็ดหลินจือแห้ง ปลาตัวน้อยๆ แห้ง กุ้งแห้ง ถั่ว รากไม้ตากแห้ง ปลาร้า น้ำข้าวหมัก ฯลฯ และมีร้านขายของที่ระลึกขายกำไลหินให้เห็นอยู่บ้าง คุณย่าคุณยาย ขายของบริเวณทางขึ้นเขาไปวัดโบมุนซา เมืองอินชอน ตำบลคังฮวาโด เกาหลีใต้การเดินขึ้นไปยังวัดนั้น ไม่ง่ายเท่าไหร่ เนื่องด้วยวัดนี้อยู่บนเขานักก๊ะ ...นักก๊ะ มาจากเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่นี่ค่ะ...อืมมม ทางขึ้นเป็นเนินให้เดินขึ้นไปค่ะ ซึ่งเราจะเดินขึ้นไปสำรวจด้วยกันนะคะ #ไปเที่ยวด้วยกัน ...ทางเดินขึ้นนับได้ว่าชันมากๆ ทุกย่างก้าว เราเดินได้ไม่เร็วนัก ทั้งๆ ที่เราอยากขึ้นไปชมความงามข้างบนอย่างด่วนๆ แม้ว่าระยะทางนี้ ไกด์บอกเราว่า 70 เมตรเอง.. แต่เดินไปแล้วหายใจเริ่มแรงขึ้นตามระยะทางที่เดิน และความชันที่ท้าทายเรายิ่งนัก.. โดยลักษณะภูมิประเทศของเกาหลีนั้นเป็นภูเขา 70% ที่ราบ 30% คนที่นี่เลยชินกับการเดินทางชัน แต่คนไทยอย่างเราๆ ก็สู้ๆ ค่ะ ทางเดินขึ้นวัดโบมุนซา ชันพองามค่ะระหว่างทาง มีร้านขายของนิดหน่อยพอให้พักระหว่างเดิน วัดโบมุนซา เมืองอินชอน ตำบลคังฮวาโด เกาหลีใต้เมื่อขึ้นไปถึง ทางด้านซ้ายจะเป็นพระพุทธรูปหินสีขาวเรียงรายอยู่ 500 องค์ และมีถ้ำหินซกกูระ ภายในมีนาฮันซัง 22 องค์ ทางด้านขวามือจะเป็นวิหารหลวง เราสามารถทำบุญ และเขียนคำอธิษฐานได้ แต่ว่าใช้ได้แต่เงินวอนนะจ้ะ และมีบันไดขึ้นไปบนภูเขาซึ่งมีหินคิ้ว ซึ่งก็คือพระพุทธรูปแกะสลักบนหินสูง 10 เมตร อยู่บนก้อนหินใหญ่ ดูแล้วบอกกันว่าหินนี้มีลักษณะเหมือนคิ้ว วัดโบมุนซา เมืองอินชอน ตำบลคังฮวาโด เกาหลีใต้วัดโบมุนซา เมืองอินชอน ตำบลคังฮวาโด เกาหลีใต้การที่ได้ไปเยี่ยมชมวัดในต่างประเทศนั้น เป็นความอิ่มใจไม่น้อย ที่เราจะได้เห็น ความศรัทธาของคนในดินแดนหนึ่งๆ ที่เค้าจะถ่ายทอดออกมาในการสร้างงานศิลปะ สถาปัตยกรรมที่งดงาม อลังการ ทรงคุณค่า และมักสร้างไว้บนที่สูง เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ และเลื่อมใสต่อศาสนา แม้ต่างศาสนาแต่การชื่นชมศาสนสถานนั้น รับรองค่ะว่า เราจะค้นพบอะไรบางอย่าง หรือความสงบที่ซ่อนอยู่แน่นอนค่ะ  วัดโบมุนซา เมืองอินชอน ตำบลคังฮวาโด เกาหลีใต้วัดโบมุนซา เมืองอินชอน ตำบลคังฮวาโด เกาหลีใต้วัดโบมุนซา เมืองอินชอน ตำบลคังฮวาโด เกาหลีใต้วัดโบมุนซา เมืองอินชอน ตำบลคังฮวาโด เกาหลีใต้เราจะไปเที่ยวไหนต่อในเกาหลีใต้ #ไปเที่ยวด้วยกัน ค่ะตลาดทัวร์  แมกกาซีน... รอบรู้เรื่องเที่ยว เชี่ยวชาญเรื่องทัวร์ สนุกกับการเดินทางไปกับเรานะคะLIKE & Follow เราได้ที่ FB Fan Page: ตลาดทัวร์ แมกกาซีน

ร้านขนมของฝากราคาถูกที่สุดในตลาดเมียงดง เกาหลีใต้ สวัสดีครับ เรามาพบกันอีกครั้งในประเทศเกาหลี วันนี้ #ตลาดทัวร์ ขอแนะนำร้านขนมที่ถูกที่สุดในตลาดเมียงดงให้สำหรับหลายๆท่านที่มองหาขนมของ