เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์

09-00-18.00 น.

เราช่วยคุณได้

taladtour

Travel License : 11/11173

หน้าแรก

/

ข้อมูลท่องเที่ยว

/

เที่ยวโครเอเชีย

เที่ยวโครเอเชีย เที่ยวฤดูไหน เที่ยวอะไรดี

เที่ยวโครเอเชีย เที่ยวฤดูไหน เที่ยวอะไรดี

68

เที่ยวโครเอชีย เชื่อว่าหลายๆท่านคงจะให้ความสนใจกับประเทศโครเอเชียกันมากขึ้น และประเทศนี้เป็นสิ่งที่หลายๆคนจดจำได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2018 ถึงแม้ว่าประเทศฝรั่งเศสจะได้แชมป์ไปครอง และโครเอเชียก็เป็นรองแชมป์ในฤดูกาล นอกจากนี้ประเทศโครเอเชียยังสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามระดับมรดกโลกอีกด้วย โครเอเชีย (Croatia) ประเทศใน ทวีปยุโรปที่มีรูปทรงเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ตั้งอยู่แถบแถบคาบสมุทรบอสข่าน ได้ชื่อว่าเป็น “ ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติค ” เพราะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสุดอลังการทั้งด้านสถาปัตยกรรมและธรรมชาติ รวมถึงสภาพอากาศที่เรียกได้ว่าเหมาะสมกับการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี แต่ะละฤดู ก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกัน โดยโครเอเชียนั้นมีฤดูกาลทั้งหมด 4 ฤดูกาลด้วยกันได้แก่

7 เมืองโครเกียร์ เมืองเล็กๆ มีสเน่ห์ในการมาท่องเที่ยวโครเอเอซีย

7 เมืองโครเกียร์ เมืองเล็กๆ มีสเน่ห์ในการมาท่องเที่ยวโครเอเอซีย

26

รเอเชีย ตอนที่ 4 เมืองโทรเกียร์ เมืองเล็กๆ ที่มีมาตั้งแต่ยุคกรีก ในดินแดนโครเอเชีย น่ารักมาก เหมาะแก่การมาทัวร์โครเอเชียยิ่งนักตั้งแต่ที่เราได้เข้ามาในประเทศโครเอเชียในทริปนี้ เราเริ่มสำรวจ ในเขตอีสเตรีย และตอนนี้เรากำลังเลาะลงสู่ทะเลใต้ โดยให้จินตนาการว่า ประเทศโครเอเชียมีลักษณะประเทศ เหมือนพระจันทร์เสี้ยว เรากำลังมุ่งหน้าลงสู่ปลายสุดของเสี้ยวพระจันทร์ทางด้านใต้ และจะมีเมืองที่ชื่อว่าสปลิท (Split) อยู่ตรงกลาง ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ระดับ 1 คือเมืองซาเกรบ (Zagreb) แล้วเราจะไปเยี่ยมชมพระราชวังดิโอเคลเชี่ยน (Diocletian Palace)  ซึ่งจักรพรรดิ์ดิโอเคลเชี่ยนแห่งอาณาจักรโรมัน เป็นพระจักรพรรดิในช่วงศตวรรษที่ 3 คือหลังจากที่พระคริสต์สิ้นพระชนม์ไปแล้ว แต่ในช่วงสมัยของพระองค์นั้นยังไม่อนุญาตให้ผู้คนนับถือศาสนาคริสต์ ถ้าใครนับถือศาสนาคริสต์จะมีโทษถึงขั้นประหาร เพราะคนในยุคนั้นยังคงนับถือลัทธิเพแกน (Pegan) นั่นคือศาสนาที่มีความเชื่อในเทวะ หรือพระเจ้าหลายองค์ (Polytheistic) มีจูปิเตอร์ (Jupeter) หรือ ซุส (Zeus) เป็นเจ้าแห่งเทพทั้งปวง ปกครองทั้งสวรรค์ พิภพ และบาดาล และพระองค์เปรียบตัวเองเหมือนเทพเจ้าสูงสุด และ พระราชวังแห่งนี้เมื่อสิ้นสมัยของพระองค์ชาวสโลนา ซึ่งอยู่ในเมืองสปลิท ประเทศโครเอเชียนี่แหละ ก็ได้ย้ายเข้ามายึดครองพระราชวัง.. ณ ที่แห่งนี้เองก็เป็นที่ถ่ายทำฉากหนึ่งในซีรี่ส์ชื่อดัง Game of Thrones ไปทัวร์โครเอเชียกันเถอะ ^^

9 อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เจเซร่า โครเอเชีย สรวงสวรรค์ธรรมชาติท่ามกลางขุนเขาที่มีอยู่จริง

9 อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เจเซร่า โครเอเชีย สรวงสวรรค์ธรรมชาติท่ามกลางขุนเขาที่มีอยู่จริง

27

ในทริปเที่ยวโครเอเชียครั้งนี้ วันนี้ก็ถึงวันที่รอคอยค่ะ วันนี้เราจะไปเที่ยว อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เจเซร่า (Plitvička jezera) ประเทศโครเอเชีย อุทยานแห่งนี้เป็นอุทยานที่เก่าแก่ และกว้างใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโครเอเชีย ค้นพบในปี ค.ศ. 1949 อยู่ทางเทือกเขาคลาสท์ (Karst) ตอนกลางของประเทศ ใกล้ชายแดนบอสเนียแอนด์เฮอร์เซโกวีนา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) เมื่อปี ค.ศ. 1979 ฉะนั้นเมื่อเราเดินชมความงามของธรรมชาติที่นี่ เราก็ไม่ควรแตะต้องต้นไม้ หรือแม้จะไปเก็บใบไม้ตกอยู่ที่พื้นก็ไม่ได้นะคะ จะเอามือจุ่มน้ำก็ไม่ควรค่ะ เราจะอนุรักษ์มันไว้ให้เป็นอย่างนี้ตลอดไปกันนะคะ ^^ อุทยานแห่งชาตินี้นะคะมีเนื้อที่ประมาณ 73,350 เอเคอร์ หรือประมาณ 296.85 ตารางกิโลเมตร และมีสัตว์มากมายอยู่ในพื้นที่กว้างใหญ่แห่งนี้ ซึ่งเจ้าสัตว์ที่เป็นสัตว์ประจำท้องถิ่นนี้ ก็คือหมีสีน้ำตาล สุนัขจิ้งจอก กวาง และอีกหลากพันธุ์.. เพื่อนๆ ลองเดาดูสิคะว่าพื้นที่ใหญ่ปานนี้จะอุดมสมบูรณ์จนมีหมีสีน้ำตาลอาศัยอยู่กี่ตัว? เฉลยเลยค่า ^^ มีมากถึง 300 ตัว หรือ 1 ตัวต่อพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร ชาขมอยากเจอซักตัว ดีมั้ยหนอ? ฮ่าๆๆๆ น่าจะไม่ดีนะคะ ให้เค้าอยู่อวบๆ ของเค้าไปจะดีกว่าค่ะ..

10 อยากเที่ยวประเทศโครเอเชีย รู้จักโครเอเชียก่อนเดินทาง

10 อยากเที่ยวประเทศโครเอเชีย รู้จักโครเอเชียก่อนเดินทาง

25

สาธารณรัฐโครเอเชีย       -  ที่ตั้ง อยู่ระหว่างยุโรปกลาง  และเมดิเตอร์เรเนียน บริเวณริมฝั่งตะวันออกของทะเลเอ            เดรียติก           -  พื้นที่ 56,542 ตารางกิโลเมตร       -  เมืองหลวง  กรุงซาเกร็บ (Zagreb)       -  ประชากร 4.4 ล้านคน  ประกอบด้วยชาวโครอัท (89.6%) ชาวเซิร์บ (4.54%) และ            อื่นๆ ได้แก่ ชาวบอสเนีย  ฮังกาเรียน  สโลวีน  เช็ค (5.9%)       -  ภูมิอากาศ  แบบเมดิเตอร์เรเนียนแถบชายฝั่งทะเลเอเดรียติก และภูมิอากาศเทือกเขาบริเวณ            ตอนกลาง ของประเทศ อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 14-27  องศาเซลเซียส       -  ภาษา  โครเอเชียนเป็นภาษาราชการ ภาษาอื่นๆ ที่ใช้พูดกันโดยชนกลุ่มน้อยได้แก่ เซอร์เบียน ฮัง            กาเรีน อิตาเลียน เยอรมัน อังกฤษ       -  ศาสนา โรมันคาทอลิก 85.8% ออโธด๊อกซ์ 3.2% มุสลิม 11%       -  หน่วยเงินตรา คูน่า (Kuna) อัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณ 4.66 คูน่า เท่ากับประมาณ 1  ดอลล่าร์สหรัฐ       -  ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ 50.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2550)       -  รายได้ประชาชาติต่อหัว 11,271 ดอลล่าร์สหรัฐ (2550)       -  การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 5.4 (2550)       -  ระบบการปกครอง  ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา มีสภาเดียว  เรียกว่า Sabor  มี            สมาชิก  152  คน  ประธานาธิบดีเป็นประมุข  โดยมาจากการเลือกตั้ง  และเป็นผู้แต่งตั้ง คณะ            รัฐบาล  มีวาระ 5 ปี  ปัจจุบัน คือนาย Stjepan Mesic ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 18            กุมภาพันธ์  2553 ( ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2  เมื่อเดือนมกราคม         2558)  รัฐบาลปัจจุบันเป็นรัฐบาลผสมเสียงข้างมาก  ระวังพรรค Croatia         Democratic Union และพรรค Democratic Centre มี 19 จากเสียง             ทั้งหมด 152 เสียง การเมืองการปกครองประเทศโครเอเชีย1. โครเอเชียเดิมเป็นหนึ่งในหกสาธารณรัฐ  ซึ่งประกอบขึ้นเป็นสหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยม ยูโกสลาเวีย (Socialist Federal Republic of Yugoslavia หรือ 2. SFRY)  อยู่ภายใต้การนำของจอมพลติโต  ชาวโครอัท  ซึ่งสามารถควบคุมสถานการณ์ความแตกแยกระหว่างเชื้อชาติไว้ได้ในระดับหนึ่ง  อย่างไรก็ตามภายหลังการอสัญกรรมของจอมพลปิโตในปี 2523 ขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อแยกตัวเป็นเอกราชของสาธารณรัฐต่างๆ  ในยูโกสลาเวียเริ่มมีความรุนแรงขึ้น โครเอเชียจัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2533  โดยประธานาธิบดี Franjo Tudjman ได้รับเลือกตั้ง  และต่อมาก็ได้ประกาศเอกราช SFRY ซึ่งทำให้เกิดการสู้รบระหว่างโครเอเชียกับชาวเซิร์บในโครเอเชียซึ่งมียูโกสลาเวียหนุนหลัง  และยุติลงเมื่อผู้นำโครเอเชีย เซอร์เบีย และบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา ได้ลงนามข้อตกลงสันติภาพเดย์ตัน ( Dayton Peace Accord ) เมื่อปี 25383. ภายหลังการอสัญกรรมของประธานาธิบดี Tudjman ในปี ๒๕๔๒ นาย Sijepan Mesic ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี คนใหม่ซึ่งเป็นผู้นําเสรีนิยมประชาธิปไตยรุ่นใหม่ ทําให้โครเอเชียพัฒนาไปอย่างมาก โดยได้ปรับเปลียนเป้าหมาย และนโยบายจากเดิมที่ให้ความสําคัญกับการต่อสู้เพื่อผนวกดินแดนบอสเนียและเฮอร์เซโกวินา ซึ่งมีชาวโครอัทอาศัยอยู่จํานวนมากเป็นการให้ความสําคัญกับการยุติความขัดแย้งกับบอสเนียฯ การปรับความสัมพันธ์กับประเทศยุโรปตะวันตก และการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ทั้งนี เมื่อเดือนมกราคม ๒๕๔๘ ประธานาธิบดี Stjepan Mesic ได้รับเลือกตังเป็นประธานาธิบดี สมัยที่ ๒ และจะดํารงตําแหน่งจนถึงปี ๒๕๕๓4. เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๐ โครเอเชียได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาทัวประเทศ ผลปรากฏว่า                       พรรค Croatian Democratic Union(HDZ)ต่อมาในวันที่ ๑๒ มกราคม                      ๒๕๕๑ รัฐสภาโครเอเชียได้ลงมติให้ความเห็นชอบต์อรัฐบาลชุดใหม่ที่มีนาย Ivo             Sanader เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยทีสอง ซึ่งคณะรัฐมนตรีชุดนี้ประกอบด้วยรอง                     นายกรัฐมนตรี ๔ คน และรัฐมนตรี ๑๕ คน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คือ                      นาย Gordon Jandrokovic ซึ่งเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ และเป็นดาวรุ่งของพรรค              HDZ       4. นโยบายของรัฐบาลสมัยที่สองของนาย Sanader ยังคงดำเนินนโยบายสายกลาง ค่อนไปทางอนุรักษ์นิยม ด้านการต่างประเทศส่งเสริมการมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกา และมุ่งให้โครเอเชียเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) โดยหวังว่าจะสามารถบรรลุผลสําเร็จเข้าเป็นสมาชิก EU ได้ในปี 2553 สัาหรับภาระสำคัญเกี่ยวกับกิจกรรมภายในประเทศคือการพัฒนาที่รวดเร็ว ให้ความสนใจอย่างจริงจังต่อปัญหาสังคม ปฏิรูประบบศาลยุติธรรม และระบบบริหารให้มีความสมบูร์ และขจัดการฉ้อราษฏร์บังหลวง

โตรเอเชีย ซาเกรบไข่มุกแห่งทะเลเอเดรีติกเมืองหลวงน่าท่องเที่ยว

โตรเอเชีย ซาเกรบไข่มุกแห่งทะเลเอเดรีติกเมืองหลวงน่าท่องเที่ยว

26

ตอนแรกนี้ เราจะตะลุยเมืองซาเกรบกันค่ะ       ประเทศโครเอเชีย ประเทศที่ตั้งอยู่ในแหลมอีสเตรีย ประเทศสวยงามจนได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก แค่ฟังเกริ่นแค่นี้ เพื่อนๆ ก็ต้องจินตนาการได้ว่า ประเทศติดทะเลแห่งนี้จะสวยงามสักแค่ไหน แต่สิ่งที่ชาขมจะเล่า และจะเอาภาพมาโชว์เพื่อนๆ นั้นเป็นแค่เพียงครึ่งหนึ่งของความงามที่ชาขมได้เห็นจริง เพราะสถานที่จริง วิวจริงนั้นสวยงามมากมายมหาศาล... เที่ยวโครเอเชีย       ชาขมได้มีโอกาสไป ประเทศโครเอเชียในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นมากๆ เลยค่ะที่จะได้ไปเห็นประเทศที่ใครๆ ก็พูดถึงว่าเป็นประเทศที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีท้องทะเลสีน้ำเงิน มีท้องฟ้าที่ฟ้า แต่เป็นสีฟ้าที่แตกต่างจากบ้านเรา ในการเดินทางในครั้งนี้เราเริ่มต้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ และเดินทางโดยสายการบิน Turkish Airlines ที่เราเลือกสายการบิน Turkish Airlines ในครั้งนี้ก็เพราะว่า ในการเดินทางไปประเทศโครเอเชียนั้น มีแค่ 2 สายการบินที่สามารถบินไปลงที่เมืองหลวงคือซาเกรบ (Zagreb) และบินกลับ จากอีกเมืองได้ นั่นก็คือบินกลับจากเมืองดูบรอฟนิค (Dubrovnik) ทำให้เราเดินทางเลาะลงรอบเดียว ไม่ต้องนั่งรถย้อนกลับมาขึ้นเครื่องที่สนามบินซาเกรบอีก.. เที่ยวสบายๆ ค่ะ

โบสถ์ เซนต์​อูเฟเมีย​ร์ St Euphemia เมืองโรวินจ์ โครเอเชีย

โบสถ์ เซนต์​อูเฟเมีย​ร์ St Euphemia เมืองโรวินจ์ โครเอเชีย

27

ตลาดทัวจะพาท่านไปเมืองโรวินจ์ ใครที่มาเยือนเมืองนี้ห้ามพลาดที่จะไปโบสถ์ โบสถ์เซนต์ อาเฟเหมียร์ St. Euphemia แลนด์มาร์คสำคัญของเมืองแห่งนี้ โดยตั้งอยู่บนเนินเขา โบสถ์สไตล์บาร็อค ที่มียอดโบสถ์สูงถึง 61 เมตร และถือได้ว่าเป็นยอดโบสถ์ที่สูงที่สุดของแคว้นอีสเตรีย และเป็นสถานที่ๆมีเสน์ห์มีเรื่องเล่าขานกันต่อๆ มาว่า ครั้งหนึ่งได้มีหญิงสาวชาวอิสลามชื่ออาเฟเหมียร์ ได้รักกับชายชาวคริสต์คนหนึ่ง จึงทำให้ถูกลงโทษโดยการโยนลงจากอัฒจันทร์ให้เสือกิน แต่ปรากฏว่าเสือเข้าดม ๆ แล้วหมอบลง ชาวคริสต์จึงรู้ว่านางเป็นเซนต์เพราะเสือไม่กิน (โดยเซนต์ในที่นี้ หมายถึง นักบุญ นักบวช) เมื่อฆ่าไม่ได้พ่อก็จับเธอมัดใส่โลงศพหินแล้วโยนทะเลหลายร้อยปีผ่านไป ชายหนุ่มคนเลี้ยงวัวได้พบโลงศพหินที่ชายทะเลชาวบ้านจึงช่วยกันเอามาไว้ที่โบสถ์ และได้ตั้งชื่อโบสถ์แห่งนี้ว่า "โบสถ์เซนต์ อาเฟเหมียร์" โดยภายในโบสถ์มีโลงศพหินของจริงตั้งอยู่ บนฝาผนังมีภาพวาดสีน้ำมันเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น 5-10 ปี ครั้งที่ชาวบ้านจะได้เห็นรูปปั้นของเธอมีรัศมีออกมา ซึ่งเธอเป็นเซนต์คนเดียวที่เป็นผู้หญิงอีกด้วย

ประเทศโครเอเชีย เมืองสปลิท พระราชวังดิโอคลีเชี่ยน

ประเทศโครเอเชีย เมืองสปลิท พระราชวังดิโอคลีเชี่ยน

27

เมื่อมาประเทศโครเอเชียแล้วพลาดไม่ได้ครับที่จะต้องมาเยือนเมืองสปลิท เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศโครเอเชีย เป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวโดยเรือโดยสาร  ท่านจะได้เข้าชมความสวยงามของ “พระราชวังดิโอคลีเชี่ยน” ที่สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเชี่ยนแห่งอาณาจักรโรมัน ที่ต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 10 ปี UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ชมห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ชมลานกว้างซึ่งล้อมไว้ด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงาม

เมืองโรวินจ์ โครเอเชีย เมืองเก่าที่เต็มไปด้วยความงดงาม

เมืองโรวินจ์ โครเอเชีย เมืองเก่าที่เต็มไปด้วยความงดงาม

29

ลุงพเนจอห์น จะนำท่านให้รู้จักกับเมือง โรวินจ์ (Rovinj) ระยะทาง 40 กิโลเมตร จากเมือง พูล่า เมืองนี้สวยมากติดกับชายทะเลที่ตั้งอยู่บนแหลมอีสเตรีย ด้วยความที่ดินแดนแห่งนี้ถูกปกครองโดยเวเนเชี่ยน และอยู่ภายใต้การปกครองของอิตาลีมาก่อน ทำให้สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมของเมืองนี้มีความคล้ายคลึงกับอิตาลีเป็นอย่างมาก ชมอาคาร บ้านเรือน และตรอกซอกซอยขนาดเล็ก ที่พื้นปูด้วยหินก้อนเล็ก เนื่องจากชาวเวนิสเคยเข้าปกครองคาบสมุทรอีสเตรียเมื่อกว่า 700 ปีก่อน จึงได้สมญาว่า "เวนิสแห่งโครเอเชีย" เมืองนี้เต็มไปด้วยร้านกาแฟเก๋ๆ และร้านอาหารชิคๆ มากมาย เรียกได้ว่าเที่ยวเมืองโรวินจ์รับรองคุณจะได้ภาพสวยๆ และความสนุก ความประทับใจกลับไปอย่างแน่นอนวิธีการเดินทาง:      1. จากประเทศไทยคุณสามารถเลือกการเดินทางโดยเครื่องบินหลายสายด้วยกัน อาทิเช่น อิมิเรตแอร์ไลน์ ออสเตรียนแอร์ไลน์ เตอร์กิชแอร์ไลน์ สามสายการบินนี้จากเมืองไทยสะดวกสุด เมืองที่คุณจะต้องไปลงก่อนคือเมืองซาเกรบแล้วเที่ยวไปเรื่อยๆจนคุณกลับ     2. คุณสามารถเช่ารถขับจากเมืองซาเกรบ เที่ยวไปยังเมืองต่างจนถึงเมืองดูบรอฟนิค     3. สำหรับท่านที่ไม่ต้องการผจญภัย และต้องการความสะดวกสบายเราขอแนะนำให้จองทัวร์โครเอเชีย กับบริษัททัวร์ เพราะว่าทัวร์จะจัดการทำเรื่องวีซ่า ตั๋วเครื่องบินให้คุณหมดสิ่งที่คุณจะต้องทำคือ เตรียมกระเป๋าแล้วเจอกันที่สนามบินอย่างเดียวจร้าช่วงเวลาที่ควรไป: ช่วงฤดูร้อน อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไปเฉลี่ยอยู่ที่ 17 องศาเวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอด 24 ช.มค่าเข้าชม: คุณสามารถเดินชมสถานที่ต่างๆได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย การทำวีซ่า: เที่ยวโครเอเชียต้องขอวีซ่า โดยคุณสามารถทำวีซ่าเชงเก้นสามารถพำนักในประเทศกลุ่มเชงเก้นไม่เกิน 90 วัน ในช่วงเวลา 6 เดือน หรือทำวีซ่าโครเอเชียได้โดยตรงการจัดทำยื่นขอวีซ่าโครเอเชียประมาณ 15 วันเป็นอย่างต่ำ