27
Apr
ญี่ปุ่น
ทำความรู้จักเงินเยนญี่ปุ่น
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเงินเยนของประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ เมื่อเราไปเที่ยว ญี่ปุ่นเวลาเราจะใช้จ่ายซื้อของอะไรก็ตามเราต้องเตรียมเงินเยนให้พร้อม ซึ่งเงินเยนสามารถหาแลกได้ตามธนาคาร ธนาคารที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เราสามารถเข้าไปแลกเงินเยนได้ง่าย ๆ เมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น เพราะมีสาขาอยู่มากมายและหาได้ง่าย สำหรับธนาคารที่รับแลกเงินตราต่างประเทศได้แก่ ธนาคารมิซูโฮ(Mizuho) ธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ(Mitsubishi UFJ) และธนาคารมิตซุย สุมิโตโม(SMBC)
ข้อดีของธนาคาร สามารถแลกเงินสด และถอนเงินสดผ่านบัตรระหว่างประเทศที่มีสัญลักษณ์ของ Visa, MasterCard, Maestro หรือ Cirrus ได้
ข้อเสียของธนาคารอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราค่อนข้างแพง และอาจไม่ได้มีให้บริการทุกสาขา ส่วนใหญ่จะมีให้แลกที่สาขาที่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยว เช่น สาขาอาซากุสะ
หรือถ้าคำนวณให้ดี ว่าการที่เราจะไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นนั้นเราจะใช้งบประมาณเท่าไหร่สามารถแลกได้ที่สนามบินดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิก็ได้จะได้ไม่เสียอัตราการแลกเปลี่ยนที่ค่อนข้างสูงแลกไปเลยจะดีกว่า แลกตามงบที่เราจัดตั้งไว้ อย่างที่รู้ๆ กันว่าสกุลเงินของญี่ปุ่นคือ เยน (Yen) ในญี่ปุ่นจะใช้สัญลักษณ์ ¥ หรือตัวคันจิ 円 (ออกเสียงว่า เอ็น) ส่วนตัวย่อที่นิยมใช้คือ JPY (Japanese Yen)
เหรียญที่ใช้มีเหรียญ 500 เยน 100 เยน 50 เยน 10 เยน 5 เยน และ 1 เยน
ถ้าเงินบาทไทยแลกเป็นเงินญี่ปุ่นก็จะ 1 บาท เท่ากับ 4.20 เยน ประมาณนี้ อีกทั้งเงินเยนยังมีช่วงแพงช่วงถูกซึ่งก็คาดเดาไม่ได้ สถานการณ์เป็นไปตามตลาดโลก เพราะเหตุนี้จึงทำให้มีนักลงทุนจากทั่วโลก แลกเงินเยนสะสมไว้เก็งกินกำไร ถือว่าเป็นธุรกิจอีกหนึ่งรูปแบบ หากใครสนใจให้แนะนำว่าควรศึกษาให้ดี เพราะว่าหากถ้าคาดเดาผิด อาจจะแลกคืนไม่ได้หลายปี อาจจะต้องกายเป็นเงินนอนแช่แข็งอยู่อย่างนั้น แต่ถ้าค่าเงินดีสามารถแลกคืนเอากำไรได้ ก็จะได้กำไรง่ายและดีมากเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเอาเงินแลกเงิน แถมได้กำไรอีกด้วย เป็นธุรกิจสำหรับคนมีเงินเท่านั้น แต่โปรดจำไว้ว่าการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ไม่ว่าเราจะทำธุรกิจอะไรควรศึกษาหาความรู้ให้รอบคอบก่อนลงมือทำจะได้เกิดการผิดพลาดน้อยที่สุด แต่ในส่วนของการแลกเงินเยนไว้เก็งกินกำไรนั้น จะเป็นธุรกิจของคนมีเงินจริงๆ เพราะไม่ว่าค่าเงินจะเป็นอย่างไรก็ไม่ได้เดือดร้อน ตอนถูกก็แลกเก็บ ตอนแพงก็เลือกคืน เท่านั้นเอง
ข้อดีของธนาคาร สามารถแลกเงินสด และถอนเงินสดผ่านบัตรระหว่างประเทศที่มีสัญลักษณ์ของ Visa, MasterCard, Maestro หรือ Cirrus ได้
ข้อเสียของธนาคารอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราค่อนข้างแพง และอาจไม่ได้มีให้บริการทุกสาขา ส่วนใหญ่จะมีให้แลกที่สาขาที่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยว เช่น สาขาอาซากุสะ
หรือถ้าคำนวณให้ดี ว่าการที่เราจะไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นนั้นเราจะใช้งบประมาณเท่าไหร่สามารถแลกได้ที่สนามบินดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิก็ได้จะได้ไม่เสียอัตราการแลกเปลี่ยนที่ค่อนข้างสูงแลกไปเลยจะดีกว่า แลกตามงบที่เราจัดตั้งไว้ อย่างที่รู้ๆ กันว่าสกุลเงินของญี่ปุ่นคือ เยน (Yen) ในญี่ปุ่นจะใช้สัญลักษณ์ ¥ หรือตัวคันจิ 円 (ออกเสียงว่า เอ็น) ส่วนตัวย่อที่นิยมใช้คือ JPY (Japanese Yen)
ธนบัตรที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้จะเเบ่งออกเป็น 10,000 เยน 5,000 เยน 2,000 เยน และ 1,000 เยน
เหรียญที่ใช้มีเหรียญ 500 เยน 100 เยน 50 เยน 10 เยน 5 เยน และ 1 เยน
ถ้าเงินบาทไทยแลกเป็นเงินญี่ปุ่นก็จะ 1 บาท เท่ากับ 4.20 เยน ประมาณนี้ อีกทั้งเงินเยนยังมีช่วงแพงช่วงถูกซึ่งก็คาดเดาไม่ได้ สถานการณ์เป็นไปตามตลาดโลก เพราะเหตุนี้จึงทำให้มีนักลงทุนจากทั่วโลก แลกเงินเยนสะสมไว้เก็งกินกำไร ถือว่าเป็นธุรกิจอีกหนึ่งรูปแบบ หากใครสนใจให้แนะนำว่าควรศึกษาให้ดี เพราะว่าหากถ้าคาดเดาผิด อาจจะแลกคืนไม่ได้หลายปี อาจจะต้องกายเป็นเงินนอนแช่แข็งอยู่อย่างนั้น แต่ถ้าค่าเงินดีสามารถแลกคืนเอากำไรได้ ก็จะได้กำไรง่ายและดีมากเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเอาเงินแลกเงิน แถมได้กำไรอีกด้วย เป็นธุรกิจสำหรับคนมีเงินเท่านั้น แต่โปรดจำไว้ว่าการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ไม่ว่าเราจะทำธุรกิจอะไรควรศึกษาหาความรู้ให้รอบคอบก่อนลงมือทำจะได้เกิดการผิดพลาดน้อยที่สุด แต่ในส่วนของการแลกเงินเยนไว้เก็งกินกำไรนั้น จะเป็นธุรกิจของคนมีเงินจริงๆ เพราะไม่ว่าค่าเงินจะเป็นอย่างไรก็ไม่ได้เดือดร้อน ตอนถูกก็แลกเก็บ ตอนแพงก็เลือกคืน เท่านั้นเอง