เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์

09-00-18.00 น.

เราช่วยคุณได้

taladtour

Travel License : 11/11173

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

แนะนำ 15 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ในฤดูหนาวไปเที่ยวเอง หรือเที่ยวกับทัวร์ไอซ์แลนด์

แนะนำ 15 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ในฤดูหนาวไปเที่ยวเอง หรือเที่ยวกับทัวร์ไอซ์แลนด์

29

Mar

ไอซ์แลนด์

แนะนำ 15 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ในฤดูหนาวไปเที่ยวเอง หรือเที่ยวกับทัวร์ไอซ์แลนด์

ไอซ์แลนด์เป็นเมืองในฝันที่หลายๆ คนอยากจะออกเดินทางไปท่องเที่ยวสักครั้ง นอกจากการตามล่าแสงเหนือแล้ว ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีภูมิทัศน์อันสวยงามน่าท่องเที่ยวมากมาย และหนึ่งในฤดูกาลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการมาเที่ยวไอซ์แลนด์ก็คือฤดูหนาว เพราะเป็นฤดูที่สถานที่ต่างๆมีความสวยงามเป็นอย่างมาก ใครที่กำลังตามหาข้อมูลเที่ยวไอซ์แลนด์ฤดูหนาวแบบฟินๆ วันนี้เราเก็บทุกจุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาด มาฝากแล้ว 

ชายฝั่ง Laekjavik Coast


ชายฝั่ง Laekjavik Coast

ชายฝั่ง Laekjavik Coast  เป็นชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของ Vesturhorn Mountain ถนนเส้นนี้มีความสวยงาม เงียบสงบ และมีจุดให้ถ่ายภาพแบบแลนด์สเคปสวยๆ ให้ได้ฟินกัน สำหรับคนรักการถ่ายรูป ในฤดูหนาวหิมะจะปกคลุมและมีทิวทัศน์ของภูเขาสูงสลับกับชายหาดสีดำ  นอกจากนี้เส้นทางนี้เราจะได้สัมผัสกับ Icelandic horse หรือม้าพื้นเมืองไอซ์แลนด์ที่เป็นมิตรและอัธยาศัยดีกับมนุษย์ทุกคนอีกด้วย

เมือง Egilsstaðir town


เมือง Egilsstaðir town
สำหรับนักเดินทางที่มาเที่ยวไอซ์แลนด์แบบขับรถกันไปเรื่อยๆ จะรู้ดีว่า   Egilsstaðir town เมืองน่ารักๆ ที่เป็นแหล่งชุมชนของนักเดินทาง เพราะเมืองนี้เหมาะสำหรับการมาแวะมาหาที่พักนอนสบายๆ ราคาไม่แรง และเป็นการพักรถตุนเสบียงต่าง ๆ ด้วย เพราะเมืองนี้มีซุปเปอร์มาร์ทขนาดใหญ่ที่มีของกินจากทั่วโลกมาวางขาย สำหรับพี่น้องชาวไทยเราซุปเปอร์มาร์ทของที่นี่อาหารเอเชียเพียบเลย ที่สำคัญที่นี่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม บ้านเมืองสงบและบรรยากาศดีมาก เรียกว่าแวะพักให้หายล้าแล้วไปตามล่าแสงเหนือกันต่อได้เลย 

น้ำตก Dettifoss & Selfoss


น้ำตก Dettifoss & Selfoss  
Dettifoss & Selfoss เป็นน้ำตกขนาดใหญ่อลังการที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กันในเขตอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull National Park) โดย Dettifoss นั้น เป็นน้ำตกที่ขึ้นชื่อว่ามีขนาดใหญ่และไหลแรงมากที่สุดของยุโรป เมื่อเราไปเที่ยวชมจุดนี้จะตื่นตาตื่นใจกับภาพน้ำตกขนาดมหึมาที่ไหลลงจากขอบหน้าผาอันกว้างใหญ่ซึ่งมีความกว้างราว 100 เมตร นับเป็นภาพที่สวยงามตระการอย่างยิ่ง
สำหรับผู้ที่มาทัวร์ไอซ์แลนด์และสนใจจะไปชมจุดนี้ อาจจะต้องทำการบ้านในเรื่องของเวลาไปมากหน่อย เพราะในยามฤดูหนาวหากหนาวจัดมากๆ ถนนจะจมอยู่ใต้กองหิมะและไม่สามารถเข้าชมได้นั่นเอง  

บ่อโคลนเดือน Hverir


บ่อโคลนเดือน Hverir
จากแหล่งท่องเที่ยว Dettifoss ขับรถต่อเนื่องมาในเส้นทาง  volcanic dessert จะเจอกับจุดท่องเที่ยวที่น่าเข้าชมอีกแห่ง คือ Hverir ซึ่งจุดนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติในแถบประเทศไอซ์แลนด์ที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟ จึงมีบ่อโคลนเดือดกระจายตัวให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม จึงเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินยอดฮิตที่ไม่ควรพลาดแวะมาเก็บรูปสำหรับทัวร์ไอซ์แลนด์ในฤดูหนาว 

ทะเลสาบ Mývatn Lake


ทะเลสาบ Mývatn Lake
Myvatn Lake หรือที่เรียกกันว่าเขตทะเลสาบมิวัทน์ เป็นแลนด์มาร์คสำคัญอีกแห่งสำหรับการท่องเที่ยงไอซ์แลนด์ในฤดูหนาว เพราะโซนของ Mývatn Lake นั้นเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนจากลาวาภูเขาไฟจำนวนหลายแห่ง จัดว่าเป็นแหล่งทรัพยากรที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรณีวิทยา ได้รับการประกาศให้เป็นเขตอนุรักษ์ของไอซ์แลนด์  ซึ่งในฤดูหนาวทะเลสาบใจกลางประเทศแห่งนี้จะมีหิมะปกคลุม น้ำในทะเลสาบแข็งตัวเป็นน้ำแข็ง ดูสวยงามตระการตามาก และอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่พลาดไม่ได้ คือการมานอนแช่ออนเซ็นต์แบบไอซ์แลนด์ ที่ Myvatn Nature Baths  ซึ่งเป็นเขตอาบน้ำแร่ที่อุดมไปด้วยสิ่งที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ

ทุ่งลาวา Dimmuborgir


ทุ่งลาวา Dimmuborgir
มาถึง Myvatn Lake  แหล่งท่องเที่ยวที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรทางธรณีวิทยาแล้ว ต้องไม่พลาดที่จะไปชม  Dimmuborgir หรือทุ่งลาวาดิมมูบอร์กีร์ ที่ตระการตาไปด้วยภูเขาลาวารูปทรงต่างๆ ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่ในอดีตกาลราว 2,000 ปีก่อน Dimmuborgir นั้นแปลว่าปราสาทดำซึ่งหมายถึงความสวยงามของภูเขาลาวาที่ดำแวววาวที่รายล้อมพื้นที่ แต่เมื่อมาเที่ยวไอซ์แลนด์ในฤดูหนาว คุณจะได้เห็นปราสาทดำแห่งนี้ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนแปลกตาไปอีกแบบ 

น้ำตก Goðafoss


น้ำตก Goðafoss
Goðafoss เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญในเขตทะเลสาบมีวัทน์ (Myvatn Lake) โดย Goðafoss  หรือ Waterfall of God นั้นแปลว่าน้ำตกแห่งพระเจ้า ซึ่งเอาเข้าจริงๆ หากคุณได้มาเยี่ยมชมที่นี่สักครั้งจะบอกว่ามันยิ่งใหญ่อลังการสมชื่อจริงๆ เพราะน้ำตกที่นี่มีความงดงามและใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศ ความงดงามของน้ำตกแห่งนี้เกิดจากสายน้ำตกของโกดาฟอสส์ที่มีลักษณะโค้งเป็นครึ่งวงกลมและไหลตกลงมายังแอ่งขนาดใหญ่ตรงกลาง ในฤดูหนาวเส้นทางจะปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน  น้ำในแอ่งบางส่วนจับตัวเป็นน้ำแข็งน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้มาเที่ยวไอซ์แลนด์ในหน้าหนาว

เมือง Akureyri


เมือง Akureyri
Akureyri หรือเมืองอาคูเรยรี่ เป็นเมืองหลวงทางภาคเหนือของไอซ์แลนด์ ถ้าเทียบกับเมืองไทยก็อารมณ์เชียงใหม่อะไรทำนองนั้น เมืองนี้จึงถือว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญเป็นอันดับสองของประเทศ ทิวทัศน์และบรรยากาศตั้งอยู่ริมอ่าว ฉากหลังเป็นภูเขาขนาดใหญ่ขาวโพลนด้วยหิมะที่ปกคลุมให้อารมณ์ชวนฝันสวยงามสุด ๆ ในเมืองแห่งนี้จุดเช็คอินที่มาทัวร์ไอซ์แลนด์ต้องได้เก็บภาพกลับไปคือโบสถ์อันงดงาม แถมยังมีสกีรีสอร์ตที่ดีที่สุดในประเทศที่ชื่อว่า ลีดดาร์ฟยาล (Hlíðarfjall) ไว้รองรับนักท่องเที่ยว เมือง Akureyri  อยู่ห่างจากมิวาทน์ (Mývatn) ประมาณหนึ่งชั่วโมง เหมาะมากๆ สำหรับการเป็นจุดพักตุนเสบียงยามเดินทางท่องเที่ยวทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์

หินไดโนเสา Hvitserkur


หินไดโนเสา Hvitserkur
อีกหนึ่งจุดเช็คอินที่มาทัวร์ไอซ์แลนด์หน้าหนาวทั้งทีต้องไม่พลาดมาเก็บรูปด้วย นั่นก็คือ Hvitserkur หรือที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเราชอบเรียกกันว่าหินไดโนเสาร์  จุดนี้เป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของคาบสมุทร Vatnsnes ในเขต Norðurland vestra ในพื้นที่มีการแข็งตัวของลาวาจำนวนมาก เมื่อผ่านระยะเวลานานๆ เข้าก็โดนคลื่นลมกัดเซาะเป็นรูปร่างๆ ต่างๆ  โดย Hvitserkur นั้นถูกกัดเซาะเป็นรูปที่คล้ายไดโนเสาร์ มีความสูงถึง 15 เมตร เมื่อตั้งอยู่ในใกล้ชายหาดจึงดูคล้ายไดโนเสาร์กำลังกินน้ำ จุดชมวิวตรงนี้ดูสวยงามมากในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ใครล้อคเวลามาได้ประมาณนี้ได้รูปไปอวดทั้งปีแน่นอน 

ภูเขา Kirkjufell


ภูเขา Kirkjufell 
Kirkjufell หรือ ภูเขาคีร์กจูเฟล แลนมาร์คสำคัญที่ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของการมาเที่ยวไอซ์แลนด์ ภูเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ทางเหนือของชายฝั่งคาบสมุทร Snæfellsnes ใกล้กับเมือง Grundarfjörður เป็นภูเขาแหลมสูง 463 เมตร ตั้งเด่นอยู่กลางพื้นที่ซึ่งล้อมรอบไปด้วยทะเล ตัวภูเขามีชั้นสีที่แตกต่างกันตามชิดของหินจึงสวยงามแปลกตา นอกจากนี้ในพื้นที่ยังมี น้ำตกเล็กๆ ชื่อ Kirkjufellsfoss อีกด้วย ภูเขาแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นที่ที่มีคนถ่ายรูปมากที่สุดในประเทศ เพราะมีความสวยงามตระการตาด้วยส่วนผสมที่ลงตัวทั้งภูเขา น้ำตก และธารน้ำ รวมทั้งเป็นจุดชมแสงเหนือไอซ์แลนด์อีกด้วย  

หมู่บ้าน Snæfellsnes peninsula


หมู่บ้าน Snæfellsnes peninsula
หลังจากชมพูเขาคีร์กจูเฟล อีกหนึ่งกิจกรรมสุดฟินที่จะทำให้อินมากๆ กับการมาเที่ยวไอซ์แลนด์ ก็คือได้พักและเที่ยวชมเมือง Snæfellsnes Peninsula เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักๆ ว่ากันว่าเป็นเหมือนการย่อส่วนไอซ์แลนด์มาอยู่ในเมืองเดียว เพราะว่าที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก, ภูเขา, ทะเล, หมู่บ้านตกปลา หรือแม้แต่ธารน้ำแข็ง จุดท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง เช่น น้ำตกปยาร์นาฟอสส์ (Bjarnnarfoss)  หุบเขาไรย์ดแฟลล์เกาย์ (Rauðfelldgjá) และ หมู่บ้านตกปลา  Arnastapi  ที่สำคัญที่นี่นักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก ให้อารมณ์การมาพักผ่อนแบบสุดฟินในฤดูหนาวได้เลย 

เมือง Stykkishólmur


เมือง Stykkishólmur
Stykkishólmur เป็นอีกหนึ่งเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในคาบสมุทร Snæfellsnes เป็นเมืองที่มีความสำคัญเมืองหนึ่งของไอซ์แลนด์เพราะเป็นเมืองท่าเรือน้ำลึกที่สำคัญในการสัญจรและขนส่งสินค้า วิวทิวทัศน์ของเมืองนี้ก็สวยงาม น่ารัก เหมาะสำหรับแวะมาถ่ายรูปเช็คออินด์แบบชิคๆ ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง Walter Mitty เมืองนี้ก็อยู่ในฉากด้วยนะ 

น้ำตกฮรวนฟอสซาร์ Hraunfossar


น้ำตกฮรวนฟอสซาร์ Hraunfossar
เก็บตกจุดชมวิวน้ำตกแบบสวยงามอีกสักแห่งก่อนเข้าเมืองหลวงเรคยาวิค  Hraunfossarหรือน้ำตกน้ำตกฮรวนฟอสซาร์ เป็นน้ำตกที่อยู่ใกล้ๆ กับหมู่บ้าน Reykholt เมืองBorgarbyggd ความพิเศษของน้ำตกแห่งนี้คือเป็นน้ำตกที่ประกอบด้วยสายน้ำเล็กๆ ที่ละลายจากธารน้ำแข็ง ไหลผ่านชั้นหินต่างๆ ของทุ่งหินลาวาที่ชื่อ Hallmundarhraun  น้ำตก Hraunfossar จึงไม่ได้เป็นน้ำตกแบบผาสูงเช่นที่อื่นๆในไอซ์แลนด์ 

เมือง Reykjavik City Centre


เมือง Reykjavik City Centre
Reykjavik City Centre เป็นเมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ นอกเหนือจากธรรมชาติสุดเทพแล้ว เมืองหลวงของเกาะแห่งนี้มีอะไรมากมายให้น่าเที่ยวชม ทั้งสถาปัตยกรรมสวยๆ แกลเลอรี่งานแสดงศิลปะ พิพิธภัณฑ์ต่างๆ จุดสำคัญๆ ที่ได้รับความนิยมก็เช่น โบสถ์ Hallgrímskirkja เป็นสัญลักษณ์ที่สูงตระหง่านอยู่ที่กลางใจเมือง และจุดชมวิวอาคาร์พาร์ลาน (Perlan) ที่เพิ่งเปิดให้เข้าชมนิทรรศการธารน้ำแข็ง ส่วนกิจกรรมยอดฮิตเมื่อมาที่นี่ก็คือการไปแช่ตัวในสระว่ายน้ำสุดหรูที่มีอยู่ทั่วเมือง เพราะสระว่ายน้ำของที่นี่คืออ่างน้ำแร่แบบแช่สปาบ้านเรานั่นเอง ในฤดูหนาวเมือง Reykjavik City ปกคลุมไปด้วยหิมะ เหมาะสำหรับวันพักสบายๆ หลังจากเดินทางมาตลอดทริป 

แช่น้ำร้อนที่ Blue Lagoon


แช่น้ำร้อนที่ Blue Lagoon
Blue Lagoon เป็นบ่อน้ำร้อนน้ำแร่ขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เรียกได้ว่าเป็นบ่อน้ำร้อนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไอซ์แลนด์ ๆ  ตั้งอยู่ห่างจากเมือง Reykjavik City ไปประมาณ 39 กิโลเมตร น้ำแร่ของที่นี่จะมีสีฟ้าใส มีอุณหภูมิประมาณ 40 องศา และอุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย เรียกได้ว่ามาเที่ยวไอซ์แลนด์ทั้งนี้จุดนี่คือต้องมาให้ได้ 

เกร็ดความรู้

*** เกร็ดความรู้ ***
และทั้งหมดนี้ก็คือ 15 ที่เที่ยวในฤดูหนาวที่มาไอซ์แลนด์ทั้งที ไม่ควรพลาดที่จะแวะไปชม เพราะทุกจุดนั้นอลังการงานสร้างด้วยประติมากรรมทางธรรมชาติที่งดงาม มั่นใจได้เลยว่าถึงแม้อากาศของไอซ์แลนด์จะเปลี่ยนแปลงบ่อยแค่ไหน แต่ยังไงซะคุณก็จะประทับใจกับการมาทัวร์ไอซ์แลนด์ในฤดูหนาวอย่างแน่นอน

จำนวนผู้เข้าชม 22 ครั้ง