ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับผู้ที่ต้องการจะไปทัวร์มัลดีฟส์ 

ที่มัลดีฟส์ก็จะใช้ภาษาราชการเป็นภาษาอังกฤษเนื่องจากว่ามัลดีฟส์นั้นเคยเป็นเมืองขึ้นของสหราชอาณาจักรหรือประเทศอังกฤษมาก่อน ดังนั้นเวลาที่เราไปทัวร์มัลดีฟส์ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะพูดคุยหรือสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง การเดินทางจากประเทศไทยไปเที่ยวมัลดีฟส์ก็จะใช้เวลาในการบินอยู่ที่ประมาณ 4 ชั่วโมง ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นเวลาเดินทางที่ไม่นานจนเกินไป ใช้เวลาพอ ๆ กันกับการขับรถไปเที่ยวทะเลในบ้านเราเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญคือการไปเที่ยวมัลดีฟส์นั้นเราสามารถเดินทางไปได้เลยโดยที่ไม่ต้องขอวีซ่าเพราะว่าการไปทัวร์มัลดีฟส์นั้นไม่ต้องใช้วีซ่านั่นเองค่ะ ในส่วนของที่พักก็ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับงบประมาณและความชื่นชอบของแต่ละคน ซึ่งในที่นี้ก็รวมไปถึงลักษณะของกลุ่มทัวร์มัลดีฟส์ที่คุณร่วมเดินทางไปด้วยกัน ซึ่งถ้าหากมากับก๊วนเพื่อน ๆ หรือครอบครัวใหญ่ มากันเป็นหมู่คณะ อีกหนึ่งรีสอร์ทที่ได้รับความนิยมสำหรับชาวแก๊งเป็นอย่างมากและภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างยิ่งก็คือ Coco Privé Kuda Hithi Island นั่นเองค่ะ 

สัมผัสบรรยากาศแหล่งท้องทะเลที่ Coco Privé Kuda Hithi Island รีสอร์ท 5 ดาวสุดหรูบนเกาะส่วนตัวที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันเงียบสงบ 

การทัวร์มัลดีฟส์กันเป็นหมู่คณะเพื่อพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางเกาะส่วนตัวที่แวดล้อมไปด้วยบรรยากาศหาดทรายสวย ทะเลใส ท้องฟ้าสีคราม ฝูงปลาแหวกว่าย พร้อมถ่ายรูปเซลฟี่หรือจะอัปโหลดภาพบรรยากาศอันแสนวิเศษเอาไว้อวดเพื่อน ๆ ลงโซเชียลให้ได้อิจฉากันเบา ๆ รีสอร์ทมัลดีฟส์ที่บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาดเพราะสามารถเก็บทุกบรรยากาศได้ครบทุกความต้องการและรองรับการเข้าพักเป็นหมู่คณะได้เต็มรูปแบบนั่นก็คือ Coco Privé Kuda Hithi Island นั่นเองค่ะ ซึ่งที่นี่ก็เป็นรีสอร์ทสุดหรูระดับ 5 ดาวในหมู่เกาะมัลดีฟส์ หนึ่งในเกาะส่วนตัวที่พิเศษที่สุดในโลก และเป็นตัวเลือกชั้นยอดสำหรับการทัวร์มัลดีฟส์เป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

Coco Privé Kuda Hithi Island เป็นเกาะส่วนตัวที่เรียกได้ว่าเป็นเกาะที่เงียบสงบที่สุดในบรรดาหมู่เกาะมัลดีฟส์เลยก็ว่าได้ โดยตั้งอยู่ใน North Malé Atoll ห่างจากสนามบินนานาชาติ Male '(MLE) ประมาณ 30 กิโลเมตร ซึ่งด้วยระยะทางที่ค่อนข้างใกล้การเดินทางมายังเกาะก็จะใช้เรือยอร์ชส่วนตัวสุดหรูในเวลาเพียง 35 นาทีเท่านั้น โดยพื้นที่ของเกาะก็จะมีขนาด 1.4 เฮคเตอร์ หรือ 14,000 ตารางเมตร ล้อมรอบด้วยมหาสมุทรอินเดีย สภาพอากาศมีความอบอุ่นตลอดทั้งปี โอมล้อมไปด้วยสีสันแห่งท้องทะเลที่ทอดยาวออกไปจนสุดสายตา

Coco Privé Kuda Hithi Island เป็นหนึ่งในเกาะส่วนตัวที่พิเศษที่สุดในโลก โดยเป็นรีสอร์ทมัลดีฟส์ที่มาพร้อมกับจุดเด่นในเรื่องของการพักการเป็นกรุ๊ปใหญ่หรือเป็นหมู่คณะ พร้อมด้วยกิจกรรมต่าง ๆ มากมายให้ได้รวมสนุกสนานกัน ในส่วนของที่พักก็มีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ซึ่งถ้าใครมีเด็กเล็กมาด้วยก็จะมีห้องนอนเด็กมาให้เลือก พร้อมด้วยเชฟส่วนตัวที่พร้อมเสิร์ฟอาหารให้คุณได้แบบ Exclusive พร้อมด้วยบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะกับก๊วนเพื่อนฝูงหรือครอบครัวขนาดใหญ่ที่ต้องการมาพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวได้อย่างแท้จริง 

การเดินทางจากสนามบินมายัง Coco Privé Kuda Hithi Island  

 เมื่อตัดสินใจเที่ยวมัลดีฟส์และตกลงเลือก Coco Privé Kuda Hithi Island กันแล้ว ซึ่งด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากสนามบินมากนักก็สามารถเดินทางมายังดินแดนสวรรค์เขตร้อนแห่งนี้ได้ด้วยเรือยอชท์ส่วนตัวสุดหรูที่มีบริการรับส่งทั้งขาไปและขากลับจากสนามบินนานาชาติ Malé โดยมีผู้จัดการรีสอร์ทมารับคุณถึงสนามบินกันเลยล่ะค่ะ 

สัมผัสบรรยากาศท้องทะเลแบบ Infinity และหาดทรายขาวสะอาดกันได้อย่างใกล้ชิดกับบ้านพักหลากหลายแบบที่ Coco Privé Kuda Hithi Island  

ที่ Coco Privé Kuda Hithi Island ก็จะเป็นในรูปแบบของบ้านพักรับรองที่รองรับการเข้าพักเป็นหมู่คณะ มาพร้อมกับความหรูหราสะดวกสบายที่ครบครันและทิวทัศน์ที่ชวนให้หลงใหล ออกแบบโดยสถาปนิก Guz Wilkinson ที่ขับเน้นความเป็นมิตรกับท้องทะเลและธรรมชาติได้อย่างลงตัว ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ความงามตามธรรมชาติของเกาะและผสมผสานพืชพื้นเมืองอันเขียวชอุ่มเข้ากับการออกแบบตกแต่งภายในของบ้านพักแต่ละหลัง ใช้หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานและประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ โดยที่พักแต่ละหลังก็จะตั้งชื่อตามชื่อของพืชและสัตว์ในท้องถิ่น โดยจะแบ่งออกเป็น  6 แบบด้วยกันได้แก่  

Palm Residence บ้านพักตากอากาศ 2 ชั้นสุดหรูที่สามารถเข้าพักได้ทั้งหมด 12 คน เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของพื้นที่ความหรูหราและความสะดวกสบาย ภายในออกแบบได้อย่างสวยงามพร้อมกับวิวทิวทัศน์ที่งดงามและใกล้ชิดกับธรรมชาติบนเกาะบนพื้นที่ส่วนตัวได้เป็นอย่างดี โดยบ้านพักก็มาพร้อมกับดาดฟ้าส่วนตัว ห้องนอน 6 ห้องและพื้นที่นั่งเล่นที่มีความกว้างขวาง พร้อมห้องรับประทานอาหารและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งอย่างครบครันรวมไปถึงฝักบัวอาบน้ำในร่มและกลางแจ้งพร้อมด้วยจากุชชี่ส่วนตัว ค็อกเทลบาร์และห้องเก็บไวน์สุดพิเศษรวมไปถึงมีห้องสมุดมาให้ใช้งานกันด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีระเบียงชมวิวทะเลที่จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างเพียงพอสำหรับทุกคน ในส่วนของด้านนอกก็มาพร้อมกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่และเก้าอี้อาบแดดที่ทำให้ทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาแห่งความเป็นส่วนตัวบนเกาะสวรรค์แห่งนี้ได้อย่างแท้จริง 

Manta Villa เป็นบ้านพักริมชายหาดขนาดใหญ่ที่อยู่อีกฝั่งของเกาะตรงข้ามกับ Palm Residence บนพื้นที่ใช้สอยขนาด 175.2 ตารางเมตร มีสระว่ายน้ำส่วนตัวให้เลือกเตียงแฝดหรือเตียงคู่พื้นที่นั่งเล่นกว้างขวางและห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมฝักบัวอาบน้ำกลางแจ้ง

Turtle Villa เป็นบ้านพักขนาดเล็กบนพื้นที่ใช้สอย 37.26 ตารางเมตร โดยจะตั้งอยู่ใกล้กับบ้านพักอีก 2 หลังก็คือ Starfish Villa และ Heron Villa มาพร้อมพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายโอกาสไม่ว่าจะใช้เป็นพื้นที่ทำสปาส่วนตัวไปจนถึงการใช้เป็นห้องนอนเสริมได้ตามต้องการ 

Gecko Villa ตั้งอยู่ในจุดที่เงียบสงบบนฝั่งของเกาะ ซึ่งก็จะอยู่ฝั่งเดียวกับบ้านพัก Manta Villa โดยมีลักษณะเช่นเดียวกับ Manta Villa มีสระว่ายน้ำส่วนตัว พร้อมตัวเลือกเตียงแฝดหรือเตียงคู่ โดยมีพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวางและห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมฝักบัวอาบน้ำกลางแจ้ง และมีการผสมผสานกันระหว่างความสะดวกสบายและความผ่อนคลายทั้งในร่มและกลางแจ้งบนพื้นที่ใช้สอยขนาด 175.2 ตารางเมตร 

Starfish Villa เป็นที่พักขนาด 72.08 ตารางเมตร มีให้เลือกทั้งเตียงเดี่ยวและเตียงคู่พร้อมด้วยห้องน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่และพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง วิลล่าแต่ละหลังเปิดออกสู่ระเบียงสระว่ายน้ำส่วนกลางที่ยาวถึง 40 เมตรโดยแบ่งปันกับ Heron Villa 

Heron Villa เป็นการผสมผสานระหว่างความหรูหราประณีต แสงธรรมชาติ สายลมเย็น และวัสดุจากธรรมชาติ มาพร้อมพื้นที่ใช้สอยขนาด 78.24 ตารางเมตร มีให้เลือกทั้งเตียงเดี่ยวหรือเตียงคู่พร้อมด้วยห้องน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่และพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง โดยวิลล่าแต่ละหลังก็สามารถเปิดออกสู่ระเบียงสระว่ายน้ำส่วนกลางได้ 

และถ้าหากใครที่มาเยอะเกิน 12 คน อันที่จริงก็สามารถเสริมเตียงเข้าไปได้สูงสุดถึง 18 คน โดยจะมีค่าบริการเพิ่มอีกคนละ $2,500 ต่อคืน ซึ่งรีสอร์ทมัลดีฟแห่งนี้ก็จะมีพนักงานที่จะคอยเดินทางไปทั่วรีสอร์ทเพื่อให้บริการผู้เข้าพักทุกท่านได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว  

เพลิดเพลินไปกับมื้ออาหารแบบ Exclusive กับเชฟส่วนตัวที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงที่ Coco Privé Kuda Hithi Island  

ต้องบอกว่า Coco Privé Kuda Hithi Island แห่งนี้นั้นเป็นรีสอร์ทมัลดีฟส์ที่เน้นความเป็นส่วนตัวกันแบบสุด ๆ ค่ะ โดยจะมีบริการเชฟส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมงมาให้กันถึงที่พัก หรือบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งสามารถสั่งอาหารได้ไม่อั้นไม่ว่าจะเป็นของว่าง อาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ Cocktail Bar และห้องเก็บไวน์ชั้นเลิศ หิวเมื่อไหร่ก็เรียกเชฟได้เลยทันที เรียกได้ว่าแทบไม่ต้องออกไปไหนได้ฟิลลิ่งของความเป็นส่วนตัวแบบสุด ๆ กันมาเลย โดยจะมีในส่วนของ Coco Privé Cuisine ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของ Palm Residence ซึ่งเชฟก็จะมีการนำเสนอรายการอาหารฟิวชั่นที่ตอบสนองกับความชอบและความต้องการของผู้เข้าพักแต่ละคนได้อย่างแม่นยำเพื่อให้ได้อาหารที่ออกมาถูกปากและถูกใจทุกคน โดยสามารถเลือกไปตั้งโต๊ะดินเนอร์กันที่ริมชายหาดได้อีกด้วยค่ะ

เที่ยวมัลดีฟส์นี้ไม่มีเหงากับกิจกรรมสุดแสนตื่นเต้นเร้าใจสำหรับทุกคนที่ Coco Privé Kuda Hithi Island  

การทัวร์มัลดีฟส์นั้นนอกจากจะหารีสอร์ทมัลดีฟส์ดี ๆ แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดและควรลงลิสต์ในรายการเอาไว้เลยก็คือกิจกรรมต่าง ๆ  สำหรับทุกคน ซึ่งที่ Coco Privé Kuda Hithi Island แห่งนี้ก็มีกิจกรรมมากมายหลายแบบมาให้คุณได้สัมผัสเพื่อเติมเต็มประสบการณ์เที่ยวมัลดีฟส์กันอย่างจุใจเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น 

ใส่ใจสุขภาพได้ทุกเวลากับห้องออกกำลังกายสุดทันสมัยตลอด 24 ชั่วโมง 

ที่ Coco Privé Kuda Hithi Island ก็จะมีห้องออกกำลังกายเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อันทันสมัยและให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยซ่อนตัวอยู่ในหมู่แมกไม้ธรรมชาติอันเขียวขจีและสงบร่มเย็น ซึ่งก็จะมีทั้งพื้นที่ออกกำลังกายที่เป็นโรงยิมพร้อมด้วยอุปกรณ์สำหรับฟิตเนส โต๊ะปิงปอง มีตู้เย็นพร้อมน้ำแร่ไว้ให้บริการทั้งในรูปแบบของขวดแก้วสำหรับดื่มและขวดสเปรย์บนใบหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าในขณะที่ออกกำลังกายอยู่คุณจะไม่มีอาการขาดน้ำเกิดขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีห้องซาวน่า ห้องน้ำแบบ Powder Room และสวนด้านนอกที่เรียกว่า Jungle Gym โดยสามารถเอาไว้ยืดเส้นยืดสายหลังจากการออกกำลังหรือจะใช้เป็นสนามเด็กเล่นก็ได้ เหมาะกับการมาออกกำลังกายกันทั้งครอบครัวหรือชวนเพื่อน ๆ มาออกกำลังกายไปพร้อมกับบรรยากาศฟิน ๆ เลยทีเดียว 

สนุกสนานไปกับกิจกรรมสุดฮิตที่เมื่อมาทัวร์มัลดีฟส์แล้วต้องห้ามพลาด

Coco Privé Kuda Hithi Island มาพร้อมกับกิจกรรมทุกชนิดที่เมื่อมาเที่ยวมัลดีฟส์แล้วทุกคนจะต้องรู้จักไม่ว่าจะเป็นการตกปลา การดำน้ำตื้นโดยคำแนะนำของนักชีววิทยาทางทะเล การชมภาพยนตร์ยามค่ำคืนบนชายหาด หรือเลือกที่จะดำน้ำลึกเพื่อดำดิ่งลงสู่โลกใต้ทะเลที่แวดล้อมไปด้วยแนวปะการังอันแสนสวยงามและสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่ในท้องทะเลไม่ว่าจะเป็นปลาสีสันต่าง ๆ เต่าทะเล รวมไปถึงฉลามที่ไม่เป็นอันตราย 

นอกจากนี้ก็ยังสามารถล่องเรือไม้แบบดั้งเดิมที่เรียกว่า dhoni boat เพื่อล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก ซึ่งถ้าหากโชคดีก็อาจจะได้พบกับโลมาจุดที่น่ารักและเป็นมิตร สนุกกับกีฬาทางน้ำไม่ว่าจะเป็นการพายเรือคายัค, paddle-boarding, jet-skiing, water-skiing, parasailing, windsurfing, wake-boarding และ kite-surfing หรือจะลับสมองประลองปัญญาด้วยกระดานหมากรุกขนาดใหญ่ริมชายหาด 

ปลดปล่อยความเหนื่อยล้า ปรนเปรอร่างกายให้ผ่อนคลายสบายตัวด้วยสปาและการนวด

บอกได้เลยว่าเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเพราะจะมีอะไรดีไปกว่าการปรนนิบัติร่างกายด้วยสปาและการนวดที่มีท้องทะเลและบรรยากาศอันสวยงามเป็นฉากหลัง ซึ่งที่ Coco Privé Kuda Hithi Island ก็มาพร้อมกับบริการสปาและการนวดแบบ Private หรือแบบส่วนตัวกันแบบ Exclusive ซึ่งเรียกว่าเป็นรีสอร์ทมัลดีฟที่เน้นในเรื่องของการเข้าพักเป็นหมู่คณะและการให้บริการที่เน้นความเป็นส่วนตัวในทุกอิริยาบถเลยทีเดียว 

ณ ตอนนี้บอกได้เลยว่า Coco Privé Kuda Hithi Island เป็นรีสอร์ทมัลดีฟส์ที่จะทำให้การมาเที่ยวมัลดีฟส์ของทุกคนนั้นเป็นไปด้วยความประทับใจ ซึ่งเป็นรีสอร์ทที่มีความโดดเด่นและเน้นหนักในเรื่องของความเป็นส่วนตัวเริ่มตั้งแต่สนามบินจนถึงวินาทีสุดท้ายในการเข้าพักกันเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าหากใครอยากสัมผัสบรรยากาศของการเที่ยวมัลดีฟส์กับกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวแบบเป็นส่วนตัวและดื่มด่ำกับบรรยากาศของมัลดีฟส์ได้อย่างเต็มอิ่มแล้วล่ะก็ Coco Privé Kuda Hithi Island คืออีกหนึ่งตัวเลือกของรีสอร์ทมัลดีฟที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนค่ะ