เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์

09-00-18.00 น.

เราช่วยคุณได้

taladtour

Travel License : 11/11173

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

เที่ยวเวียดนามใต้ นครโฮจิมินห์ ที่เที่ยวฟินๆ ที่จะทำให้คุณหลงเสน่ห์เมืองวัฒนธรรมเวียดนาม

เที่ยวเวียดนามใต้ นครโฮจิมินห์ ที่เที่ยวฟินๆ ที่จะทำให้คุณหลงเสน่ห์เมืองวัฒนธรรมเวียดนาม

22

Mar

เวียดนาม

เที่ยวเวียดนามใต้ นครโฮจิมินห์ ที่เที่ยวฟินๆ ที่จะทำให้คุณหลงเสน่ห์เมืองวัฒนธรรมเวียดนาม

ข้อมูลเที่ยวเวียดนาม
สวัสดีครับวันนี้ #ตลาดทัวร์ วันนี้เราจะพาคุณไปเที่ยวนครโฮจิมินห์ เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของเวียดนามใต้ แล้วคุณจะหลงเสน่ห์กับเมืองนี้อย่างแน่นอน ครั้งนี้เราจะชวนคุณไปจัดทริปเวียดนาม ตะลุยเที่ยวเมืองสวยของเวียดนามใต้ที่มีกลิ่นไอวัฒนธรรมฝรั่งเศสพร้อมกับธรรมชาติที่สวยงาม ถ้าอยากไปสัมผัสประสบการณ์เที่ยวเมืองยุโรปที่ใกล้เมืองไทยมากที่สุด กับทัวร์เวียดนาม เดินทางไม่เหนื่อย ราคาสบายกระเป๋า ต้องมาลองอุ่นเครื่องทัวร์โฮจิมินห์กันก่อน แล้วคุณจะรู้ว่าเที่ยวเวียดนามไปกับทัวร์มันสนุกแค่ไหน
    ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ นครโฮจิมินห์ หรือ Ho Chi Minh City (HCMC) มีชื่อเดิมว่า ไซ่ง่อน (Saigon) เมืองนี้ตัั้งอยู่ในประเทศเวียดนามใต้ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่ทางเวียดนามตอนใต้และเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ อาทิเช่น การค้า การเงินการธนาคาร ศูนย์กลางด้านการศึกษา และสุขภาพ พยาบาล อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงด้านวิทยาศาตร์ เทคโนโลยี อตุสาหกรรม และการท่องเที่ยว ในอดีตเมืองแห่งนี้เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนามใต้ซึ่งเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ต่อมาภายหลังจากการรวมประเทศจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นเมืองโฮจิมินห์ตามชื่อของผู้นำสันนิบาตเพื่อเอกราชเวียดนาม เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในบรรดา 63 จังหวัดของประเทศเวียดนาม และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้าของเวียดนาม เพราะเคยปกครองโดยระบบเสรีนิยม ประชากรส่วนใหญ่ในเมืองโฮจิมินห์เป็นชาวเวียดนามรวมไปถึงชาวเวียดนามเชื้อสายจีน ภาษาหลักที่ใช้คือภาษาเวียดนาม แต่ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ก็สามารถใช้ภาษาอังกฤษ จีน และไทยได้ สกุลเงินหลักที่ใช้คือเงิน “ด่อง” หรือ “ด่ง” (Vietnam Dong – VND) และบางสถานที่อย่างเช่นแหล่งช้อปปิ้งก็รับเงินดอลลาร์สหรัฐและเงินไทยด้วย

การเตรียมตัวการเดินทาง

ฤดูกาล และสภาพอากาศ เมืองโฮจิมินห์ คุณจะต้องทำการเช็คสภาพอากาศก่อนที่จะเดินทางไปเมืองนี้ เพราะว่าเมืองโฮจิมินห์ตลอดทั้งปีเป็นเมืองที่มีอากาศร้อนชื้น และมีสองฤดูกาลเท่านั้น คือ ฤดูแล้ง และฤดูฝน สำหรับฤดูแล้งจะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเมษายน โดยช่วงธันวาคมถึงมกราคมจะเป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบายที่สุดและเป็นช่วงไฮซีซั่น ส่วนเมษายนจะเป็นช่วงที่ร้อนที่สุด สำหรับฤดูฝนจะอยู่ในช่วงพฤษภาคมถึงพฤศจิกายนซึ่งค่อนข้างมีฝนตกชุก

การเดินทางด้วยกรุ๊ปทัวร์

          การเดินทางด้วยกรุ๊ปทัวร์ไปโฮจิมินห์นั้นเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้คุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพียงแค่คุณจองทัวร์เวียดนามกับบริษัททัวร์เท่านั้น บริษัททัวร์จะมีระบบจัดการให้คุณทุกอย่าง อาทิเช่น การจองตั๋วเครื่องบิน การจองที่พัก การจองที่กิน รวมไปถึงการเดินทางทั้งหมด คุณมีหน้าที่อยู่อย่างหนึ่งคือ ไปพบกับทีมงานที่สนามบินนามใบนัดหมายเท่านั้น การเดินทางแบบนี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ใครหลายๆคนมักจะเดินทางไปกับทัวร์ 

          เพื่อความสะดวกสบายอีกอย่างหนึ่งในการซื้อทัวร์คุณสามารถดาวน์โหลดแอพ ไปเที่ยวด้วยกัน เพื่อเช็คข้อมูลทัวร์แต่ละประเทศได้มากกว่า 50 ประเทศ แอพพลิเคชั่นสามารถรองรับกับทุกเครือข่ายมือถือ ระบบมือถือ Android ดาวน์โหลดที่ลิ้งก์นี้ได้เลย https://goo.gl/86BrRd ระบบมือถือ IOS ดาวน์โหลดที่ลิ้งก์นี้ได้เลย https://apple.co/2zThYiW

เดินทางคนเดียวเช็คราคาตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์

การเดินทางไปโฮจิมินห์ เดินทางสะดวกสบายจากกรุงเทพด้วยเที่ยวบินตรงไปโฮจิมินห์โดยลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิต (SGN) ใช้เวลาแค่เพียงชั่วโมงกว่าๆ และยังมีสายการบินหลากหลายให้เลือกด้วย ถ้าจองล่วงหน้าหรือรอจังหวะโปรโมชั่นตั๋วราคาพิเศษก็จะได้ตั๋วไปกลับราคาโดนๆ ในแบบที่คุณ บางครั้งการจองตั๋วเครื่องบินกับบริษัททัวร์ คุณก็สามารถจะได้ตั๋วราคาถูกได้เช่นกัน นี่ก็เป็นทางเลือกอีกแบบหนึ่งที่จะทำให้คุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น

เดินทางคนเดียวเช็คราคารถเช่าในโฮจิมินห์

การเดินทางในโอจิมินห์ จากสนามบินเข้าไปยังตัวเมืองโฮจิมินห์ มีรถบัสคอยบริการรับส่งสนามบินซึ่งออกทุกๆ 15 นาทีให้บริการถึง 6 โมงเย็น แถมยังมีรถทางโรงแรมบางโรงแรม และแท็กซี่คอยบริการให้กับคุณ อีกวิธีหนึ่งคุณสามารรถเช่ารถในสนามบินได้ราคาขึ้นอยู่กับคุณจะเช่ากี่วันนี่ก็เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งนะครับ

ท๊อป 10 สถานที่ท่องเที่ยว

พิพิธภัณฑ์สงคราม War Remnants Museum
           พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum) ภายในอาคารของพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเครื่องมือการรบ และอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ในสมัยสงครามเวียดนามมีทั้งของจีน สหรัฐอเมริกา พร้อมภาพถ่ายที่ถ่ายทอดความรู้สึกที่เกี่ยวกับการปกป้องประเทศ การเสียสละเลือดเนื้อของชาวเวียดนามหลายอย่าง ชัดเจน อาทิ ภาพการถูกทรมานด้วยวิธีการต่าง ๆ เป็นต้น ภายนอกตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์สงครามมีเครื่องบิน และรถถังรุ่นที่ใช้ในสงครามเวียดนามของ สหรัฐอเมริกาและรัสเซีย จัดวางเรียงรายอยู่โดยรอบบริเวณพิพิธภัณฑ์

จัตุรัสโฮจิมินห์ Tran Nguyen Hai Statue

จัตุรัสโฮจิมินห์ ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองโฮจิมินห์ จุดเริ่มต้นของการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองโฮจิมินห์ แนะนำให้มาเริ่มตรงใจกลางแห่งนี้ เพราะสามารถไปยังจุดอื่นๆ ได้ง่าย โดยจุดนี้จะมีรูปปั้นของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ กับเด็กๆ ด้านหลังเป็นศาลาว่าการเมือง ซึ่งดูแปลกตาในสไตล์ฝรั่งเศส ถ้ามองจากตรงนี้สามารถมองให้เห็นถึงความจอแจของเมืองใหญ่ เพราะที่นี่นอกจากจะเป็นศูนย์กลางของเมืองแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางของการค้าอีกด้วย คล้ายกับสีลมของเมืองไทย แต่รถไม่ติดเพราะที่เมืองนี้มีรถยนต์น้อย มีรถมอเตอร์ไซด์มากกว่า เวลาข้ามถนนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

ตลาดเบนถั่น Ben Thanh Market

ตลาดเบนถั่น ตั้งอยู่บนถนนเลเลย (Le Loi) ใกล้ๆ กับจัตุรัสโฮจิมินห์ ได้รับการก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2457 บนพื้นที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีหอนาฬิกาอยู่ด้านหน้าเป็นสัญลักษณ์ ตลาดแห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งจากคนพื้นเมืองและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะมีสินค้าจำหน่ายมากมายทั้งเสื้อผ้า กระเป๋าเดินทาง เป้ นาฬิกา ของที่ระลึก อาหาร เครื่องเทศ ไปจนถึงอาหารสด และดอกไม้ ราคาไม่แพง

โรงละครโอเปร่าเฮ้าส์ Opera House

โรงละครโอเปร่าเฮ้าส์ ตั้งอยู่บนถนนเลเลย สร้างในปี พ.ศ. 2402 เพื่อใช้แสดงอุปรากร แต่ได้ถูกใช้ให้เป็นสำนักงานใหญ่ของสภาแห่งชาติเวียตนามใต้ แต่ทุกวันนี้ก็ใช้งานเหมือนเดิม ทุกๆ สัปดาห์จะมีการแสดงแตกต่างกันออกไป ช่วงเวลากลางคืนชาวเวียตนามยังมีความเคลื่อนไหวอย่างร่าเริงด้วย โดยเฉพาะบริเวณลานน้ำพุ ที่จะมีชาวเวียตนามและชาวต่างชาติมานั่งพักผ่อนกันทุกคืน และสุดลานน้ำพุมองออกไปจะเป็นที่ตั้งของโรงละคร ที่ชาวเวียตนามออกเสียงว่าโรงละครยาฮดแถงห์โฝ (Nha hat Thanh Pho) ซึ่งหันหน้าออกถนนดงเค่ย ระหว่างโรงแรมคาราเวลล์และโรงแรมคอนติเนนตัล

โบสถ์นอร์ทเธอดาม Notre Dame Cathedral

โบสถ์นอร์ทเธอดาม ตั้งอยู่บริเวณกลางเมือง บนถนน Han Thuyen ได้รับการก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2420 ใช้ระยะเวลาการสร้าง 6 ปี โบสถ์นี้ไม่มีการประดับด้วยกระจกสีเหมือนโบสถ์คริสต์ที่อื่น เพราะได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับโบสถ์แห่งนี้ได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเวียตนาม โดยในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากมาย ลักษณะของตัวโบสถ์เป็นรูปแบบของสมัยอาณานิคม มีหอคอยคู่สี่เหลี่ยมอยู่ด้านบนสูง 40 เมตร เป็นเอกลักษณ์ที่งดงามของโบสถ์แห่งนี้ ด้านหน้าโบสถ์มีรูปปั้นขนาดใหญ่สีขาวเด่นเป็นสง่าของพระแม่มารี นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาชมกันมาก เพราะเป็นเสมือนสัญลักษณ์ร่วม อันหมายถึงการเข้ามาของตะวันตก และเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของโฮจิมินห์

ไปรษณีย์กลาง Main Post Office

ไปรษณีกลาง ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองโฮจิมินห์ ใกล้กับโบสถ์นอร์ทเธอดาม ได้รับการก่อสร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2439 เสร็จในปี พ.ศ. 2444 มีการออกแบบและก่อสร้างในสไตล์ฝรั่งเศสและได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างงดงามด้วยกระจกสี เป็นไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียตนาม มีความโอ่โถงและอ่อนช้อยทว่ามั่นคง จนทำให้นักออกแบบมากมายต้องมาศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบตกแต่งอาคารแห่งนี้ ภายในตัวอาคารมีการระดับภาพแผนที่ทางทะเลโบราณ และภาพของอดีตผู้นำประเทศโฮจิมินห์ มีการบริการทั้งการส่งจดหมาย แสตมป์เพื่อการสะสม โปสการ์ด โทรศัพท์ระหว่างประเทศในอัตราค่าบริการมาตรฐาน

ศาลากลางโฮจิมินห์ Ho Ci Minh City Hall

อยู่ใกล้โรงละครโอเปร่า เป็นตึกสีเหลืองครีมสวยงามตามสไตล์โคโลเนียลฝรั่งเศส ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์รูปปั้นอดีตผู้นำประเทศโฮจิมินห์ที่คนชอบไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางความเจริญและเป็นย่านการค้าการท่องเที่ยวของเมืองเพราะมีศูนย์การค้า ร้านค้าแบรนด์เนมและโรงแรมหรูๆ อยู่รอบๆ เช่น วินคอมเซ็นเตอร์ (Vincom Center) ยูเนี่ยนสแควร์ (Union Square) ไซ่ง่อนสแควร์ (Saigon Square) ไซ่ง่อนเซ็นเตอร์ (Saigon Center) ลัคกี้พลาซ่า (Lucky Plaza)

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ History Museum

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ ตั้งอยู่ใกล้กับ สวนสัตว์และสวนพฤกษศาสตร์ สร้างโดยฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. 2470 เป็นตึกทรงยุโรปที่งดงามมากอีกแห่งหนึ่ง ชาวเวียตนามเรียกตึกนี้ว่า เวียนบ่าวตางหลิกสือ (Vien Bao Tang Lich Su) ที่นี่มีโบราณวัตถุที่แสดงถึงวิวัฒนาการของวัฒนธรรมต่างๆ ในเวียตนาม ตั้งแต่อารยธรรมยุคสำริดดงเซิน ไปจนถึงอารยธรรมฟูนัน จาม และเขมร ในบรรดาสิ่งที่จัดแสดงไว้มีโบราณวัตถุยุคหิน สำริด ศิลาจารึก กลองมโหระทึก เครื่องปั้นดินเผางานศิลปะของชาวจาม และเครื่องแต่งกายพื้นเมืองของชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆ บนชั้นสามทางด้านหลังของอาคารมีห้องสมุดวิจัยที่เก็บรวบรวมหนังสือจากยุคฝรั่งเศสที่น่าสนใจไว้เป็นจำนวนมาก

พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ Ho Chi Minh Museum

พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไซ่ง่อนและแม่น้ำเบนเหง่ สามารถนั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างหรือแท็กซี่ ห่างจากใจกลางเมืองเพียง 5 กิโลเมตร พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ ก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2406 และต่อเนื่องผูกพันกับโฮจิมินห์ในวัยหนุ่มมาก จนไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศสและกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะนำประเทศเข้าสู่การปฏิวัติและการขับไล่ชาติตะวันตกรวมถึงการรวมเวียตนามเหนือและเวียตนามใต้ให้เป็นประเทศเวียตนาม พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ เป็นสถานที่จัดแสดงเรื่องราวส่วนตัวของอดีตผู้นำประเทศเวียตนาม และการต่อสู้เพื่อเรียกร้องเสรีภาพกับชาติตะวันตก และต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตยของคนในชาติอีกด้วย มีการจัดแสดงเรื่องราวต่างๆ ไว้เป็นหมวดหมู่น่าสนใจ สำหรับอาคารพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์นี้ มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า บ้านมังกร พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ ก็เป็นเสมือนสถานที่ส่วนตัวทั่วๆ ไป ทุกห้องทุกชั้นมีเฉพาะเรื่องราวของเจ้าของบ้านเต็มไปหมด มีการจัดอย่างเป็นระเบียบ มีการแบ่งหมดหมู่อย่างชัดเจน อาคารนี้มี 2 ชั้น บนระเบียงชั้นสอง สามารถมองเห็นสายน้ำไซ่ง่อนได้เป็นอย่างดี มีเรือบรรทุกสินค้าลำใหญ่จอดอยู่มากมาย

ทำเนียบอิสรภาพ Independence Palace

ทำเนียบประธานาธิบดี เรียกอีกชื่อว่าทำเนียบการรวมชาติ (Reunification Palace) ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองโฮจิมินห์ แต่เดิมเป็นทำเนียบของอดีตประธานาธิบดีเวียดนามใต้ ซึ่งปัจจุบันได้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ในสมัยสงคราม ภายในมีการจัดแสดงห้องทำงาน ห้องรับรองต่างๆ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้สำนักงานและอุปกรณ์การสื่อสารในสมัยสงครามที่ยังคงถูกเก็บ รักษาไว้เป็นอย่างดี ทำเนียบแห่งนี้มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์การรวมชาติของเวียดนาม เพราะเป็นจุดสุดท้ายของการยุติสงครามเวียดนามเหนือ-ใต้เมื่อรถถังของฝ่ายเวียดนามเหนือบุกเข้ามาในทำเนียบแห่งนี้และโค่นอำนาจของรัฐบาลเวียดนามใต้ได้สำเร็จ อาคารทันสมัยหลังใหญ่นี้รายรอบด้วยสวนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในบริเวณที่เคยเป็นทำเนียบของผู้ว่าการชาวฝรั่งเศสที่เรียกว่า ทำเนียบนโรดม (Norodom Palace) ซึ่งมีอายุย้อนหลังไปถึงปี พ.ศ. 2411 หลังจากที่ข้อตกลงเจนีวานำจุดจบมาสู่การยึดครองของฝรั่งเศส โงดินห์เดียม ประธานาธิบดีของเวียดนามใต้ได้พำนักอยู่ในทำเนียบแห่งนี้ ในปี พ.ศ. 2506 ทำเนียบนี้ถูกทิ้งระเบิดโดยทหารอากาศเวียตนาใต้และได้มีการสร้างอาคารใหม่ที่รู้จักกันในชื่อ ทำเนียบอิสรภาพ (Independence Palace) ขึ้นแทนที่โครงสร้างเก่าถูกทำลาย อาคารปัจจุบันออกแบบโดยโงเวียดทู (Ngo Viet Thu) สถาปนิคชาวเวียตนามผู้สำเร็จการศึกษาจากฝรั่งเศส และสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2509 ก่อนจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2518 เมื่อกองกำลังคอมมิวนิสต์ได้เคลื่อนขบวนรถถังเข้าชนประตูเหล็กด้านหน้าของทำเนียบและโค่นรัฐบาลเวียตนามใต้ลง ทุกวันที่ทำเนียบเดิมถูกเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมได้ โดยทุกสิ่งทุกอย่างถูกทิ้งไว้ให้เสมือนสภาพเดิมในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2509 โดยชั้นล่างเป็นห้องจัดเลี้ยง ห้องโถงใหญ่ซึ่งรัฐบาลเวียตนามใต้ประกาศยอมแพ้และห้องเล็กถูกใช้สำหรับการบรรยายสรุปประจำวันทางทหาร ในระหว่างช่วงก่อนที่รัฐบาลเวียตนามใต้จะถูกโค่น ส่วนชั้นที่สองเป็นห้องรับรองของประธานาธิบดีตรันวันเฮือง และห้องรับรองของประธานาธิบดีเทียว ซึ่งเพียบพร้อมด้วยห้องนอน ห้องรับประทานอาหาร และห้องสวดมนต์แบบคาทอลิค ชั้นสามเป็นห้องรับรองของภริยาประธานาธิบดี และชั้นที่สี่เป็นห้องฉายภาพยนตร์ส่วนตัวและลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งจากที่นี่จะสมารถเห็นทิวทัศน์อันงดงามของถนนเลหย่วน (Le Duan Boulevard) ได้เป็นอย่างดี ด้านหลังทำเนียบเป็นสาธารณะกงเวียดวันฮวา (Cong Vien Van Hoa) ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวร่มรื่นสบายตา ด้านหน้าถนนเลหย่วน ถูกกั้นไว้ด้วยสวนสาธารณะใหญ่แห่งหนึ่งที่ร่มครึ้มด้วยไม้ใหญ่ บริเวณด้านหนึ่งใกล้กับถนนไทวันลุง (Thai Van Lung) สำนักงานของโครงการอพยพอย่างมีระเบียบของอเมริกัน (American Orderly Departure Program) ซึ่งตั้งอยู่ในปี พ.ศ. 2523 เพื่อให้ความช่วยเหลือเด็กลูกครึ่งอเมริกัน-เอเชีย และผู้ลี้ภัยทางการเมืองอยู่บริเวณใกล้ๆ นั้น