
23
Jun
2025
ภูฏาน
หมู่บ้านโลเบซา (LOBESA)
สิ่งหนึ่งที่ทำให้หมู่บ้านโลเบซา (LOBESA) เป็นสถานที่ทัวร์ภูฏาน (Bhutan)ที่ได้รับความนิยม ก็เนื่องมาจากการที่หมู่บ้านแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นประตูสู่วัดชิมิลาคัง (Chimi Lhakhang) สถานที่ท่องเที่ยวภูฏานอันโด่งดังนั่นเองค่ะ โดยหมู่บ้าน LOBESA นั้นตั้งอยู่บนเส้นทางเดินเพื่อขึ้นไปยังวัดชิมิลาคัง เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาพูนาคา ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตอันเรียบง่ายและความเชื่อดั้งเดิมของชาวภูฏานเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ใครที่กำลังหาข้อมูลเที่ยวภูฏานกันที่หมู่บ้าน LOBESA เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชนบทอันเรียบง่ายของชาวภูฏาน เราก็ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจทั้งตำนานความเป็นมา และข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับหมู่บ้านแห่งนี้มาฝากกันค่ะ
ตำนานของ Lama Drukpa Kunley ผู้ได้รับการขนานนามว่า “นักบุญผู้บ้าคลั่ง”
ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับหมู่บ้านโลเบซา (LOBESA) มาดูเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานของท่านลามะดรุกปา กุนเลย์ (Lama
Drukpa Kunley) หรือที่รู้จักกันในนาม "นักบุญผู้บ้าคลั่ง"
กันก่อนค่ะ
พระลามะท่านนี้มีความเกี่ยวข้องกับวัดชิมิลาคังอย่างลึกซึ้ง
ซึ่งท่านเป็นพระลามะที่มีชื่อเสียงด้วยวิธีการสอนศาสนาที่แหกกฎเกณฑ์ไม่เหมือนใคร
โดยท่านมักจะใช้สัญลักษณ์ทางเพศและพฤติกรรมที่แหวกแนวเพื่อทำลายความยึดติดในโลกียวิสัย
โดยเฉพาะการชี้นำให้หญิงสาวได้บรรลุธรรม จนเป็นที่รู้จักกันในนาม “นักบุญแห่งสตรี 5,000 คน” เนื่องจากท่านจะแสวงหาหญิงสาวสวยและร่วมหลับนอนเพื่อนำพาพวกเธอไปสู่ความรู้แจ้งด้วย
“สายฟ้าแห่งปัญญาอันร้อนแรง” (Flaming Thunderbolt of
Wisdom) ซึ่งก็คือองคชาติหรือลึงค์ของท่านนั่นเอง
ว่ากันว่าท่านจะประทานพรและมอบคำสอนให้กับผู้ที่พาหญิงสาวสวยและสุรามาด้วยเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง การเต้นรำ บทกวี และการร่วมประเวณี
ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนสำคัญของคำสอนของพระองค์ทั้งสิ้น ทำให้พระองค์มีชื่อเสียงในเรื่องการใช้องคชาตเพื่อการตรัสรู้และปราบปีศาจ
ดังนั้นจึงมีเสาโทเท็มองคชาตขนาด 10 นิ้วอันทรงพลังที่ทำด้วยไม้และงาช้างอยู่ข้างคันธนูและลูกศรของพระองค์
ซึ่งปัจจุบันถูกเก็บไว้ในวัดชิมิลาคังซึ่งใช้สำหรับให้พรในเรื่องความอุดมสมบูรณ์แก่ผู้มาเยือน และให้พรแก่สตรีที่มาขอบุตรค่ะ
ตามตำนานท้องถิ่นเล่าขานกันว่ามีปีศาจสาวชั่วร้ายชื่อ Loro
Duem อาศัยอยู่ในช่องเขาสูงของ Dochu La และหลอกหลอนทุกคนที่พยายามข้ามช่องเขานี้
นอกจากนี้มีปีศาจสาวอีกสองตนอาศัยอยู่ในช่องเขาที่มีขนาดเล็กกว่าอีก 2 แห่ง ดังนั้นผู้คนในหุบเขาจึงต้องใช้ชีวิตกันอย่างหวาดกลัว และเมื่อ Drukpa
Kunley ได้เหยียบย่างเข้ามาในภูฏานเป็นครั้งแรก
ท่านก็ได้รับรู้ถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ได้รับจากปีศาจเหล่านี้
ท่านจึงเดินทางไปที่ Dochu La และเมื่อมาถึง
ปีศาจสาวทั้งสามก็พยายามหลบหนีไปที่หุบเขา โดยปีศาจสาวสองตนก็ได้สลายและเข้าไปอยู่ในร่างของปีศาจ
Loro Duem จากนั้น Loro Duem ก็ได้แปลงร่างเป็นสุนัขเพื่อปลอมตัว
แต่ Drukpa Kunley ก็จำ Loro Duem ได้
และปราบปีศาจตนนี้ด้วย "สายฟ้าแห่งปัญญาอันร้อนแรง"
ของท่าน
และฝังร่างของปีศาจตัวนี้ไว้บนเนินเขาที่มีลักษณะคล้ายกับหน้าอกของผู้หญิง
แล้วเปล่งคำว่า "Chime" ซึ่งแปลว่า "ไม่มีสุนัข" และสร้างเจดีย์สีดำทับเอาไว้
ทำให้องคชาติหรือลึงค์ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวัดชิมิลาคังในเวลาต่อมา
รวมไปถึงเจดีย์ที่ฝังปีศาจเอาไว้ก็อยู่ภายในบริเวณวัดแห่งนี้ด้วย

ทำความรู้จักกับหมู่บ้านโลเบซา (LOBESA)
หมู่บ้านโลเบซา
(LOBESA)
เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ
ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาพูนาคา ที่ระดับความสูงเหนือน้ำทะเลประมาณ 1,300 เมตร ห่างจากเมืองหลวงทิมพูประมาณ 70 กิโลเมตร
หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อเสียงจากวัดชิมิลาคัง (Chimi Lhakhang) หรือวัดแห่งความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นโดยงาวัง โชเกล (Ngawang
Chögyel) ที่มาของวัดนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับลามะดรุกปา
กุนเลย์ (Lama Drukpa Kunley) หรือที่รู้จักกันในนาม
"นักบุญผู้บ้าคลั่ง" ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนานิกาย
Drukpa Kagyu ในภูฏาน ซึ่งการเดินทางไปยังวัดชิมิลาคังนั้น
นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์ภูฏานจะต้องเดินเท้าผ่านทุ่งนาเขียวขจีและหมู่บ้านเล็ก
ๆ รวมไปถึงหมู่บ้านโลเบซา (LOBESA) แห่งนี้ โดยใช้เวลาประมาณ
20-30 นาที หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวภูฏานตั้งแต่ในอดีต
บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมแบบภูฏานโบราณ
ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้และดินเหนียว
มีหน้าต่างบานใหญ่และระเบียงที่ตกแต่งอย่างสวยงาม
สิ่งที่โดดเด่นคือภาพวาดอันวิจิตรบรรจงของสัตว์ในตำนาน และภาพวาดขององคชาตรวมไปถึงรูปปั้นที่มีให้เห็นอยู่ทั่วทั้งหมู่บ้าน
โดยมีความเชื่อกันว่าสัญลักษณ์นี้สามารถช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย
นำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์และโชคลาภ
ซึ่งบ้านบางหลังก็จะมีการวาดหรือแกะสลักติดตั้งเอาไว้เหนือประตูและใต้ชายคาเพื่อใช้ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย
บ้างก็ติดตั้งในยุ้งฉางและไว้ในทุ่งนาเหมือนกับหุ่นไล่กา
มีการนำมาใช้เป็นจี้ห้อยคอ ใช้ทำเป็นหน้ากากในงานเทศกาลทางศาสนา และอื่น ๆ
ถึงแม้ว่าในสังคมสมัยใหม่อาจมองว่านี่คือสัญลักษณ์ที่มองผู้ชายเป็นใหญ่
และเป็นสิ่งที่ดูไม่ค่อยเหมาะสมนัก แต่ความเชื่อนี้ก็หยั่งรากลึกอยู่ในภูฏานมาอย่างยาวนาน
ซึ่งเมื่อภูฏานเริ่มเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวและมีการเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกมากยิ่งขึ้น
ก็ได้มีการใช้สัญลักษณ์นี้นำมาทำเป็นของฝากของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทัวร์ภูฏานได้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันด้วยค่ะ

สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของภูฏาน ณ หมู่บ้านโลเบซา (LOBESA)
หมู่บ้านโลเบซา
(LOBESA)
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในภูฏานที่น่าสนใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่เลือกมาทัวร์ภูฏานกันที่วัดชิมิลาคัง ระหว่างการเดินไปยังวัดก็สามารถแวะเที่ยวหมู่บ้านแห่งนี้เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวภูฏานกันได้
ซึ่งหมู่บ้านโลเบซารวมไปถึงหมู่บ้านใกล้เคียงนั้นมีความเชื่อและศรัทธาในคำสอนของท่านลามะดรุกปา
กุนเลย์ (Lama Drukpa Kunley) เป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์ภูฏานจะสามารถเห็นสัญลักษณ์อวัยวะเพศชายปรากฏอยู่ได้ทั่วไปในหมู่บ้าน
สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อในด้านพุทธศาสนาอันเข้มข้น
ชาวบ้านในหมู่บ้านโลเบซามีชีวิตความเป็นอยู่ร่วมกับธรรมชาติที่เรียบง่าย
และยังคงยึดมั่นในประเพณีวัฒนธรรมอันเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ในอดีต โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นไปได้รอบ
ๆ หมู่บ้าน เยี่ยมชมทุ่งนา พืชผักสวนครัว รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านอย่างวัว
จามรี และม้า ที่นี่เราจะได้มองเห็นชาวบ้านทำงานในไร่นา เด็ก ๆ
ที่วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน การต้อนรับที่เป็นมิตรยิ้มแย้มแจ่มใส
ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ของหุบเขาเขียวขจีและสายหมอกที่ปกคลุมอยู่เสมอ เป็นประสบการณ์เที่ยวภูฏานที่ทำให้สามารถเข้าใจถึงปรัชญาความสุขมวลรวมประชาชาติ
(Gross National Happiness - GNH) ที่เป็นหัวใจสำคัญของประเทศภูฏานได้อย่างแท้จริง
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานฝีมือและของที่ระลึก
หมู่บ้านโลเบซา (LOBESA) ยังเป็นศูนย์รวมสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจ
ซึ่งที่หมู่บ้านแห่งนี้จะมีร้านค้าเล็ก ๆ สำหรับจำหน่ายสินค้าท้องถิ่น เช่น
ผ้าทอพื้นเมือง เครื่องประดับ เครื่องรางของขลัง และงานไม้แกะสลัก
โดยเฉพาะของที่ระลึกรูปอวัยวะเพศชายซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านในแถบนี้
โดยสินค้าเหล่านี้มักจะเป็นงานทำด้วยมือของชาวบ้านเอง สะท้อนถึงความปราณีตและภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน
การเลือกซื้อของที่ระลึกจากหมู่บ้านโลเบซาไม่เพียงแต่เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนเท่านั้น
แต่ยังเป็นการนำชิ้นส่วนของวัฒนธรรมภูฏานกลับไปที่บ้าน
เพื่อเป็นการระลึกถึงว่าครั้งหนึ่งได้เคยมาเยือนภูฏานที่หมู่บ้านโลเบซา (LOBESA)
กันแล้วค่ะ

ข้อควรทราบเมื่อมาเยือนหมู่บ้านโลเบซา (LOBESA)
การทัวร์ภูฏานที่หมู่บ้านโลเบซา (LOBESA) เรียกได้ว่าเป็นการเข้าถึงพื้นที่ซึ่งยังคงยึดถือในวิถีชีวิต ความเชื่อ
และประเพณีดั้งเดิมของภูฏานเอาไว้อย่างเข้มแข็ง ดังนั้นการมาเที่ยวภูฏานกันที่หมู่บ้านแห่งนี้
จะต้องมีความเคารพต่อวัฒนธรรมท้องถิ่น และไม่แสดงพฤติกรรมที่เป็นการเสียมารยาท
เพื่อให้การทัวร์ภูฏานเป็นไปได้อย่างราบรื่นและประทับใจมากที่สุด
โดยข้อควรทราบเมื่อมาเยือนหมู่บ้านโลเบซา (LOBESA) ก็มีดังนี้ค่ะ
- การแต่งกาย ส่วนใหญ่ผู้ที่มาเที่ยวภูฏานกันที่หมู่บ้านแห่งนี้
ก็จะเดินทางต่อเพื่อขึ้นไปที่วัดชิมิลาคังด้วยเช่นกัน
ซึ่งการไปเยือนที่วัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ของภูฏาน
ควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดหัวไหล่และเข่า
ไม่ควรสวมเสื้อแขนกุด กางเกงขาสั้น หรือกระโปรงสั้น แต่ถ้าหากรู้สึกว่าการใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดแบบนี้ไม่สะดวกสำหรับการเดินทางขึ้นมา
แนะนำให้เตรียมเสื้อคลุมหรือผ้านุ่งติดกระเป๋าไปด้วยค่ะ
- การถ่ายภาพ โดยทั่วไปแล้วสามารถถ่ายภาพในบริเวณหมู่บ้านได้ตามสะดวก
แต่อาจมีข้อจำกัดในกรณีที่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลที่เจ้าของอาจไม่อนุญาต
ส่วนที่วัดชิมิลาคังอนุญาตให้ถ่ายภาพในบริเวณวัดได้
แต่ไม่อนุญาตให้เข้าไปถ่ายภายในอาคารของตัววัด
ดังนั้นจึงควรระมัดระวังและเคารพสถานที่
หลีกเลี่ยงการถ่ายภาพพระภิกษุสงฆ์หรือชาวบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต
และไม่ควรใช้แฟลชในที่มืด หรือในบริเวณที่ห้ามถ่ายภาพโดยเด็ดขาด
- การปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้าน ชาวภูฏานส่วนใหญ่เป็นคนใจดีและเป็นมิตร
การยิ้มทักทายและกล่าวคำขอบคุณด้วยภาษาท้องถิ่น เช่น "กูซูซังโป ลา" (สวัสดี)
ก็สามารถช่วยสร้างความประทับใจที่ดีให้กับชาวบ้านที่นี่ได้
โดยแนะนำให้พูดคุยและเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตโดยทั่วไป
ไม่ควรถามในเรื่องที่เป็นส่วนตัวมากเกินไป
- การรักษาสิ่งแวดล้อม ภูฏานให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อม
ดังนั้นจึงควรทิ้งขยะในถังขยะที่จัดไว้ให้
หลีกเลี่ยงการทำลายธรรมชาติหรือทิ้งสิ่งของเรี่ยราดภายในหมู่บ้าน
- ความเชื่อเรื่องสัญลักษณ์อวัยวะเพศ ต้องบอกว่าเราสามารถพบเห็นสัญลักษณ์อวัยวะเพศชายได้ทั่วไปในหมู่บ้านโลเบซา
ซึ่งตามความเชื่อของคนในหมู่บ้านและชาวภูฏาน
อวัยวะเพศชายเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์และความโชคดี สามารถปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย
ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์ภูฏานจึงควรทำความเข้าใจในบริบททางวัฒนธรรมและศาสนา
ไม่ควรแสดงท่าทีดูถูกหรือมองว่าเป็นเรื่องตลกขบขันค่ะ

การเดินทางไปทัวร์ภูฏานไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่คือการเดินทางที่ทำให้เราได้สัมผัสประสบการณ์แห่งจิตวิญญาณ พลังแห่งศรัทธา และความเชื่อทางศาสนาที่หยั่งรากลึกมาอย่างช้านาน โลเบซา (LOBESA) หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขาอันเงียบสงบ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในภูฏานที่มีความสวยงาม อีกทั้งยังให้เราได้สัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความสุขของผู้คน ท่ามกลางธรรมชาติที่ยังคงบริสุทธิ์ไม่ถูกปรุงแต่ง หมู่บ้านที่เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินเท้าผ่านทุ่งนาเขียวขจี เพื่อขึ้นสู่วัดชิมิลาคังที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าขานอันศักดิ์สิทธิ์ การได้เห็นสัญลักษณ์อวัยวะเพศชายซึ่งสะท้อนความเชื่อที่เกิดจากตำนานทางพุทธศาสนา การได้พูดคุยกับชาวบ้านที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ไปจนถึงการเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองรวมไปถึงของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใคร คือประสบการณ์ทัวร์ภูฏานที่เหนือกว่าแค่การเดินทางท่องเที่ยวทั่วอย่างแน่นอนค่ะ