เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์ :

09.00 - 18.00 น.

เราช่วยคุณได้

@taladtour

Travel License : 11/11173

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

สะพานแขวนโซ่เหล็ก 600 ปี Tachog Lhakhang Old Bridge

สะพานแขวนโซ่เหล็ก 600 ปี Tachog Lhakhang Old Bridge

23

Jun

2025

ภูฏาน

สะพานแขวนโซ่เหล็ก 600 ปี Tachog Lhakhang Old Bridge

สำหรับใครที่กำลังวางแผนทัวร์ภูฏาน หรือค้นหาข้อมูลเที่ยวภูฏานเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดคือ สะพานแขวนโซ่เหล็กโบราณ Tachog Lhakhang Old Bridge ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับวัดทักซัง (Tachog Lhakhang) ในเมืองพาโรค่ะ ซึ่งสะพานแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นทางข้ามแม่น้ำพาโร (Paro Chhu) เท่านั้น แต่ยังเป็นประจักษ์พยานที่แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาทางวิศวกรรม ศรัทธาอันแรงกล้า และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สืบทอดกันมายาวนานกว่า 600 ปี การมาเยือนสถานที่ท่องเที่ยวภูฏานแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนการเดินทางก้าวข้ามกาลเวลา เพื่อเข้าสู่โลกในตำนานและจิตวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรแห่งมังกรสายฟ้า (Druk Yul) อันแสนงดงาม ซึ่งเราก็ได้รวบรวมข้อมูลเที่ยวภูฏานที่น่าสนใจของสะพานแขวนโซ่เหล็ก 600 ปี Tachog Lhakhang Old Bridge มาฝากกันค่ะ 

ความเป็นมาของสะพานเหล็กแห่งศรัทธา

หัวใจสำคัญที่ทำให้สะพานแขวนโซ่เหล็ก 600 ปี Tachog Lhakhang Old Bridge มีความโดดเด่นและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ จนกลายเป็นสถานที่ทัวร์ภูฏานที่สำคัญในปัจจุบัน ก็คือการสร้างสรรค์ที่เกิดจากฝีมือของ ทังตง เกลโป (Thangtong Gyalpo) พระลามะผู้ทรงมีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องให้เป็น "ผู้สร้างสะพานเหล็ก" หรือ  Chagzampa (ชักซัมปา) ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14-15 (ค.ศ. 1385-1464) ท่านทรงเป็นนักวิศวกรผู้บุกเบิกที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันน่าทึ่ง ในการออกแบบและสร้างสะพานแขวนโซ่เหล็กถึงกว่า 58 แห่งในทิเบตและภูฏาน ซึ่งรวมถึงสะพาน Tachog Lhakhang Old Bridge แห่งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งการสร้างสะพานในยุคนั้นบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะการใช้โซ่เหล็กที่ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากในสมัยนั้น โดยวัสดุที่ใช้ทำโซ่เหล็กมาจากแร่เหล็กที่ท่าน Thangtong Gyalpo ค้นพบและได้พัฒนาวิธีการถลุงเหล็กด้วยตนเอง ซึ่งเมื่อท่านเดินทางมาถึงภูฏานเป็นครั้งแรกเพื่อแสวงหาแร่เหล็ก ในขณะที่กำลังทำสมาธิอยู่ริมแม่น้ำพาโร ท่านก็ได้เกิดนิมิตเห็นม้าศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา จึงทำให้ต้องสร้างวัดที่ชื่อว่า Tachog Lhakhang หรือที่รู้จักในชื่อ Tachogang Lhakhang ซึ่งแปลว่า "วัดบนเนินเขาแห่งม้าผู้เป็นเลิศ" ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางด้านซ้ายของแม่น้ำพาโร 

และเพื่อความสะดวกในการเดินทางสู่วัด Tachogang Lhakhang ท่าน Thangtong Gyalpo จึงได้สร้างสะพานเหล็กที่ทอดข้ามแม่น้ำพาโรเพื่อเชื่อมต่อไปยังวัด ซึ่งการสร้างสะพานไม่เพียงแต่เป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางข้ามแม่น้ำเท่านั้น แต่ยังแฝงถึงความหมายในเชิงศาสนาอันลึกซึ้ง โดยท่านเชื่อว่าการสร้างสะพานคือการสร้างเมตตา (merit) หรือบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ เพื่อเชื่อมโยงผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน และยังเป็นเส้นทางผ่านสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางแสวงบุญไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นการมาเยือนสะพานแห่งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์ภูฏาน เพื่อสัมผัสกับมรดกอันล้ำค่าของ Thangtong Gyalpo ผู้ซึ่งอุทิศชีวิตเพื่อการสร้างสรรค์และเผยแผ่พุทธศาสนาผ่านการกระทำที่เป็นรูปธรรม 

พิกัด

Tachog Lhakhang วัดแห่งศรัทธาและความเชื่อมโยง

ต้องบอกว่าสะพานแขวนโซ่เหล็ก Tachog Lhakhang Old Bridge นั้นคือส่วนสำคัญที่แยกจากกันไม่ได้ของวัด Tachog Lhakhang เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะวัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำพาโรตรงข้ามกับสะพาน ซึ่งเป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นโดย Thangtong Gyalpo เช่นกัน โดยวัดแห่งนี้เป็นวัดประจำตระกูลของสายเลือดเหลนของท่าน Thangtong Gyalpo และยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เก็บรักษาวัตถุโบราณและพระธาตุที่เกี่ยวข้องกับท่าน การเดินข้ามสะพาน Tachog Lhakhang Old Bridge และเข้าไปนมัสการภายในวัด Tachog Lhakhang จึงเป็นการเติมเต็มประสบการณ์ทัวร์ภูฏานที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ที่นี่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบ เต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธาอันแรงกล้า และเรื่องราวที่เชื่อมโยงผู้สร้างสะพานและวัดเข้าไว้ด้วยกันที่ไม่สามารถแยกจากกันได้อย่างสิ้นเชิง ภายในวัดมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันสวยงามซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของท่าน Thangtong Gyalpo และประวัติความเป็นมาของวัด นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ซึ่งนักบวชและชาวบ้านเข้ามาประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งการได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนที่เกี่ยวข้องกับศาสนาอย่างแนบแน่น ทำให้เราสามารถเข้าใจวัฒนธรรม และจิตวิญญาณของชาวภูฏานได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น 

สถาปัตยกรรมและเทคโนโลยีอันน่าทึ่งของสะพานแขวนโซ่เหล็ก 600 ปี Tachog Lhakhang Old Bridge

สิ่งหนึ่งที่ทำให้สะพานแขวนโซ่เหล็ก 600 ปี Tachog Lhakhang Old Bridge เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในภูฏานที่น่าสนใจ ก็คือสถาปัตยกรรมและเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ไม่ธรรมดา ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านล่วงเลยมาถึงกว่า 600 ปี สะพานแห่งนี้ก็ยังคงมีความแข็งแกร่งและสามารถใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ถึงอัจฉริยภาพของท่าน Thangtong Gyalpo และทีมงานผู้ก่อสร้างสะพานแห่งนี้ขึ้นมา โดยตัวสะพานแขวนโซ่เหล็ก Tachog Lhakhang Old Bridge จะประกอบไปด้วยโซ่เหล็กซึ่งถูกใช้เป็นส่วนประกอบหลักของสะพาน ห่วงโซ่แต่ละห่วงจะถูกหลอมขึ้นด้วยมือและเชื่อมต่อกันอย่างแน่นหนา โดยตัวโซ่จะทำหน้าที่รับน้ำหนักทั้งหมดของสะพาน รวมไปถึงน้ำหนักของผู้คนที่สัญจรไปมาบนสะพาน โดยมีแผ่นไม้กระดานวางพาดไปตามแนวโซ่เหล็กเพื่อให้เป็นทางเดิน ซึ่งในปัจจุบันแผ่นไม้เหล่านี้อาจถูกเปลี่ยนหรือมีการซ่อมแซมตามกาลเวลา แต่ก็ยังคงรักษารูปแบบดั้งเดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี โดยที่ปลายทั้ง 2 ด้านของสะพานจะมีหอคอยที่สร้างขึ้นมาจากหิน ทำหน้าที่เป็นจุดยึดโซ่เหล็กขนาดใหญ่ของสะพานทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งโครงสร้างหินที่แข็งแรงนี้ก็รับประกันถึงความมั่นคงของสะพานมาอย่างยาวนานถึงกว่า 600 ปี 

สัมผัสประสบการณ์เดินข้ามสะพานโซ่เหล็ก 600 ปี Tachog Lhakhang Old Bridge

การเดินข้ามสะพานนี้จะให้ความรู้สึกถึงการสั่นไหวเล็กน้อย อันเป็นลักษณะเฉพาะของสะพานแขวนตามปกติ เรียกได้ว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ทัวร์ภูฏานอันน่าตื่นเต้น โดยเฉพาะการได้สัมผัสกับโครงสร้างสะพานเก่าแก่ที่สร้างขึ้นจากเทคนิคโบราณอายุกว่า 600 ปี ด้วยมือของตนเอง เรียกได้ว่าการมาเยือนสะพาน Tachog Lhakhang Old Bridge ไม่เพียงแต่จะเป็นการชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันน่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและทัศนียภาพอันแสนประทับใจ เมื่อได้ก้าวเดินไปบนแผ่นไม้ที่วางพาดไปตามแนวโซ่เหล็ก การรู้สึกได้ถึงความสั่นไหวเบา ๆ เสียงของไม้และเหล็กที่เสียดสีกัน นั่นคือความรู้สึกที่ได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน โดยที่เบื้องล่างคือสายน้ำของแม่น้ำพาโรที่ไหลเอื่อย ๆ ท่ามกลางบรรยากาศของหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยป่าไม้เขียวขจีอันแสนอุดมสมบูรณ์ และวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมาลัยที่ตั้งตระหง่านอยู่ไกล ๆ ดังนั้นการเดินข้ามสะพาน Tachog Lhakhang Old Bridge จึงเป็นโอกาสอันดีเยี่ยมในการเก็บภาพที่ระลึกอันแสนงดงามของการทัวร์ภูฏาน ภาพของสะพานเก่าแก่ซึ่งทอดยาวข้ามแม่น้ำโดยมีภูเขาและป่าไม้เป็นฉากหลัง ถือได้ว่าเป็นมุมมหาชนที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปกันเมื่อมาเยือนสะพานแห่งนี้กันเลยค่ะ  

การเดินทางไปยังสะพานโซ่เหล็ก 600 ปี Tachog Lhakhang Old Bridge

การเดินทางไปยังสะพาน Tachog Lhakhang Old Bridge นั้นต้องบอกว่าค่อนข้างสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่พอสมควรเลยทีเดียวค่ะ นั่นเป็นเพราะว่าสถานที่แห่งนี้มักจะรวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ภูฏานมาตรฐานส่วนใหญ่นั่นเอง โดยสะพานแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากเมืองพาโร (Paro) ไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร บนเส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปยังเมืองทิมพู (Thimphu) ซึ่งการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถตู้โดยสารเช่าเหมาลำนั้นเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทาง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วไกด์นำเที่ยวจะเป็นผู้ที่พาไปยังตำแหน่งจอดรถใกล้กับสะพาน ซึ่งถ้าหากเป็นการซื้อทัวร์ภูฏานกับทางบริษัททัวร์ การเดินข้ามสะพานและการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบมักจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่อาจจะมีค่าธรรมเนียมในการเข้าชมวัด Tachog Lhakhang ถ้าหากว่าต้องการเข้าไปชมภายในค่ะ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วระยะเวลาที่ใช้ในการเยี่ยมชมสะพานและบริเวณโดยรอบ จะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการจะเดินสำรวจหรือถ่ายภาพกันนานแค่ไหน


ความสำคัญของสะพานโซ่เหล็ก 600 ปี Tachog Lhakhang Old Bridge ในปัจจุบัน

ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมานานถึงกว่า 600 ปี แต่สะพานโซ่เหล็ก Tachog Lhakhang Old Bridge แห่งนี้ ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับภูฏานในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ซึ่งสะพานแห่งนี้เป็นหนึ่งในหลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงมรดกทางวิศวกรรมและวัฒนธรรมอันรุ่งโรจน์ของภูฏานในอดีต เป็นเครื่องย้ำเตือนให้เห็นถึงความสามารถและวิสัยทัศน์ของท่าน Thangtong Gyalpo ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการเผยแผ่พุทธศาสนาในภูมิภาคแห่งนี้ บทบาทในด้านสัญลักษณ์แห่งความศรัทธาอันแรงกล้าและความอุตสาหะในการสร้างกุศล ซึ่งชาวภูฏานจำนวนมากมองว่าการสร้างสะพานของท่าน Thangtong Gyalpo เป็นการกระทำอันศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาซึ่งความรุ่งเรืองและความสุขให้กับภูฏาน นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญในด้านการเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในไฮไลท์ในโปรแกรมการทัวร์ภูฏานในปัจจุบัน นอกจากนี้เรื่องราวของท่าน Thangtong Gyalpo ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลังในแง่ของการทำความดี การสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม และการเผชิญหน้ากับความท้าทายด้วยความมุ่งมั่นและสติปัญญา 

คำแนะนำเพิ่มเติมในการมาเยือนสะพานโซ่เหล็ก 600 ปี Tachog Lhakhang Old Bridge

สวมใส่รองเท้าที่สบาย การเดินสำรวจสะพาน Tachog Lhakhang Old Bridge รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวภูฏานต่าง ๆ ส่วนใหญ่มักจะเป็นการเดินบนพื้นผิวที่ไม่เรียบ อาจมีการเดินขึ้นลงเนิน ดังนั้นการสวมใส่รองเท้าที่เดินสะดวกสบายจึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ 
ให้ความเคารพกับสถานที่ ภูฏานเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับศาสนาและวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก ดังนั้นการไปเยือนสถานที่ต่างๆจึงควรแต่งกายสุภาพและสำรวมกิริยาให้เรียบร้อยเมื่ออยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 
พกน้ำดื่ม แน่นอนว่าในการเยี่ยมชมสะพานโซ่เหล็ก 600 ปี Tachog Lhakhang Old Bridge และสถานที่ใกล้เคียง รวมไปถึงวัด Tachog Lhakhang ยังคงใช้การเดินเท้าเป็นหลัก ดังนั้นจึงควรพกน้ำดื่มติดตัวไปด้วยเพื่อป้องกันการขาดน้ำ 
เตรียมกล้องถ่ายรูปให้พร้อม สะพานโซ่เหล็ก 600 ปี Tachog Lhakhang Old Bridge เต็มไปด้วยมุมถ่ายรูปมากมาย ดังนั้นอย่าลืมเตรียมกล้องและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมสำหรับการเก็บภาพสวย ๆ กันค่ะ
ใช้บริการไกด์นำเที่ยว การมีไกด์นำเที่ยวชาวภูฏานจะช่วยให้เราได้รับข้อมูลเที่ยวภูฏานที่ลึกซึ้งและถูกต้องแม่นยำ รวมไปถึงอาจได้ฟังเรื่องเล่าและตำนานต่าง ๆ ที่ไม่มีในคู่มือท่องเที่ยว นอกจากนี้ไกด์นำเที่ยวยังช่วยอำนวยความสะดวกในแง่ของการเดินทางและการสื่อสารอีกด้วย 

เกร็ดความรู้

สะพานแขวนโซ่เหล็ก 600 ปี Tachog Lhakhang Old Bridge เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการทัวร์ภูฏานที่ไม่ควรพลาดค่ะ เพราะที่นี่เป็นมากกว่าโครงสร้างสะพานเก่าแก่ที่ทอดข้ามแม่น้ำพาโร แต่เป็นประตูที่จะพาคุณก้าวไปสู่ตำนานแห่งความศรัทธาและภูมิปัญญาอันล้ำค่าของภูฏานในอดีต การมาเยือนสะพานแห่งนี้ทำให้เราได้สัมผัสถึงเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของท่าน Thangtong Gyalpo ผู้ก่อสร้างสะพานและวัด Tachog Lhakhang ที่ได้ทิ้งมรดกอันแสนล้ำค่าเอาไว้ให้แก่แผ่นดินแห่งมังกรสายฟ้าหรือภูฏานแห่งนี้