เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์ :

09.00 - 18.00 น.

เราช่วยคุณได้

@taladtour

Travel License : 11/11173

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

มองเทรอ (Montreux) ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ เมืองชายฝั่ง ทะเลสาบเจนีวา

มองเทรอ (Montreux) ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ เมืองชายฝั่ง ทะเลสาบเจนีวา

24

Jun

2025

สวิตเซอร์แลนด์

มองเทรอ (Montreux) ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ เมืองชายฝั่ง ทะเลสาบเจนีวา

สวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้มีดีเพียงแค่เทือกเขาแอลป์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ยังมีสถานที่ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งริมทะเลสาบอันแสนงดงาม ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ทางด้านวัฒนธรรม บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก และวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบที่มีฉากหลังเป็นเทือกเขาอันสวยจับใจ แน่นอนว่าหมู่บ้านมองเทรอ (Montreux) ก็คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ริมทะเลสาบที่กล่าวถึงค่ะ เมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของทะเลสาบเจนิวา (Lake Geneva) ท่ามกลางฉากหลังของเทือกเขาแอลป์ จนได้รับการขนานนามให้เป็นไข่มุกแห่งริเวียร่าฝั่งสวิสกันเลยทีเดียว  ซึ่งเราก็ได้รวบรวมข้อมูลเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ของมองเทรอ (Montreux) เมืองชายฝั่งทะเลสาบเจนีวาอันแสนงดงามแห่งนี้มาฝากกันค่ะ 

ทำความรู้จักกับมองเทรอ (Montreux)

มองเทรอ (Montreux)

        เป็นเมืองริมชายฝั่งทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ที่ตั้งอยู่เชิงเขาแอลป์ ในรัฐโว (Vaud) ของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเมืองนี้มีชื่อเสียงในฐานะจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์มาตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 19 ด้วยอากาศที่อบอุ่นสบายแทบตลอดทั้งปี อีกทั้งมีภูมิประเทศเป็นเนินลาดลงสู่ทะเลสาบ จึงทำให้อาคารบ้านเรือนและโรงแรมต่าง ๆ สร้างขึ้นเรียงรายลดหลั่นลงมาตามระดับความสูงของพื้นที่ โดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ที่งดงามเป็นอย่างมาก จนถูกขนานนามว่าเป็น“ไข่มุกแห่งริเวียร่าของสวิตเซอร์แลนด์” กันเลยทีเดียว ที่เมืองนี้เต็มไปด้วยโรงแรมสวยหรูแบบโบราณในสไตล์ Belle Époque ที่อยู่ริมทะเลสาบ และที่สำคัญคือการเดินทางมาที่นเมืองนี้ก็สะดวกสบายเป็นอย่างมาก เพราะมีสถานีรถไฟ Montreux ที่อยู่บนเส้นทางหลักจากเยอรมนี–อิตาลี (Simplon Line) และยังเป็นจุดเริ่มต้นของรถไฟสายภูเขา GoldenPass Line เส้นทางรถไฟหรูสุดโรแมนติกแห่งสวิตเซอร์แลนด์ ที่จะพานักท่องเที่ยวไต่ระดับขึ้นสู่เทือกเขาแอลป์ด้วยวิวที่งดงามราวกับดินแดนในเทพนิยาย 

พิกัด

ประวัติความเป็นมาของเมืองมองเทรอ (Montreux)

      นั้นมีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ในช่วงยุคปลายสำริดเมื่อหลายพันปีก่อน เนื่องจากตั้งอยู่บนเส้นทางสำคัญในสมัยโรมันที่เชื่อมระหว่างอิตาลีกับฝรั่งเศส ทำให้เมืองนี้กลายเป็นจุดพักของนักเดินทางในยุคนั้น โดยคำว่า “Montreux” นั้นมาจากคำในภาษาละตินคือ “monasteriolum” ซึ่งหมายถึงอารามเล็ก ๆ ที่เคยตั้งอยู่ที่นี่ในช่วงศตวรรษที่ 11 และด้วยความที่ภูมิประเทศของเมืองมีลักษณะเป็นเนินเขาซึ่งหันรับแสงแดดได้ดีเหมาะกับการทำไร่องุ่น จึงได้มีการปลูกองุ่นเพื่อทำไวน์ตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 12 เมืองนี้เคยตกอยู่ภายใต้อำนาจของเจ้าชายแห่งซาวอย (Savoy) ก่อนจะถูกชาวเบิร์น (Bern) ยึดครองหลังสงครามบูร์กุนดีในช่วงศตวรรษที่ 15 ต่อมาในศตวรรษที่ 16 ก็ได้กลายเป็นพื้นที่หลบภัยของชาวฮิวเกอโนต์ (Huguenots) จากอิตาลีในช่วงการปฏิรูปศาสนา (Reformation) ซึ่งผู้ลี้ภัยก็ได้นำความรู้ด้านหัตถกรรมมาเผยแพร่ที่นี่ด้วย และต่อมาในปี ค.ศ 1798 เมืองนี้ได้ถูกยึดครองโดยฝรั่งเศส จนกระทั่งในศตวรรษที่ 19 เมื่อการคมนาคมทางรถไฟได้เข้ามาถึง เมืองมองเทรอ (Montreux) จึงได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่เริ่มได้รับความนิยมจากบรรดาชนชั้นสูงของอังกฤษและฝรั่งเศส มีโรงแรมหรูและรีสอร์ทสำหรับชนชั้นสูงจากยุโรปและอเมริกาเกิดขึ้นมากมาย 
และในช่วงศตวรรษที่  20 มองเทรอ (Montreux) ก็ได้กลายเป็นแหล่งรวมศิลปิน นักเขียน และนักดนตรี โดยเฉพาะในช่วงยุคแจ๊สเฟื่องฟู ที่นี่ได้กลายเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในวงการดนตรีและมีชื่อเสียงในระดับโลกจากเทศกาลดนตรีแจ๊ส Montreux Jazz Festival ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1967 ทำให้ดนตรีแจ๊สกลายมาเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของเมืองอย่างในปัจจุบัน โดยมีนักดนตรีระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Charlie Chaplin, Freddie Mercury และ Igor Stravinsky ต่างก็เคยอาศัยหรือแวะเวียนมาที่เมืองนี้กันเป็นประจำ อีกทั้งยังเป็นเมืองตากอากาศที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกหลั่งไหลมาเยือนกันตลอดทั้งปี  

การเดินทางไปยังเมืองมองเทรอ (Montreux)

       เป็นเมืองที่เข้าถึงได้อย่างสะดวกจากหลากหลายเส้นทาง และสามารถเดินทางมาจากเมืองใหญ่ในสวิตเซอร์แลนด์ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถยนต์ ไปจนถึงเรือ โดยมีเส้นทางดังนี้
เดินทางโดยรถไฟ เมืองมองเทรอ (Montreux) ตั้งอยู่บนเส้นทางรถไฟสาย Simplon Line ซึ่งเชื่อมต่อเมืองหลักต่าง ๆ ของสวิตเซอร์แลนด์ได้อย่างง่ายดาย โดยมีสถานีรถไฟหลักคือ Montreux Railway Station ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินทางมาจากสถานีในเมืองเจนีวา (Geneva), โลซานน์ (Lausanne), เบิร์น (Bern), ซูริก (Zurich) รวมไปถึงจากเมืองมิลาน (Milan) ในอิตาลี หรือจะเลือกเดินทางพร้อมชมวิวสวย ๆ ระหว่างทางโดย GoldenPass Scenic Train จาก Lucerne มา Montreux กันก็ได้ 
เดินทางโดยรถยนต์  สามารถขับรถมาตามทางหลวงสาย A9  ซึ่งเชื่อมกับเมืองหลัก เช่น Lausanne และ Sion โดยสามารถจอดรถในที่จอดรถสาธารณะหรือในโรงแรมได้
เดินทางโดยเครื่องบิน ขึ้นเครื่องมาลงที่สนามบิน Geneva (GVA) แล้วนั่งรถไฟตรงจากสนามบินมาที่ Montreux ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
เดินทางโดยเรือ มีเส้นทางเดินเรือในทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) จากเมืองใหญ่มายัง Montreux ได้จากหลายเมืองด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเจนีวา (Geneva), โลซานน์ (Lausanne), เวเวย์ (Vevey) และชิลยอง (Chillon Castle) ซึ่งบริการเดินเรือจะเปิดให้บริการในเฉพาะฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง ถ้าหากเลือกวิธีนี้ในการเดินทางควรเช็คตารางเวลาเดินเรือกันล่วงหน้าก่อนค่ะ 

พิกัด

เมืองมองเทรอ (Montreux) เป็นเมืองที่เข้าถึงได้อย่างสะดวกจากหลากหลายเส้นทาง และสามารถเดินทางมาจากเมืองใหญ่ในสวิตเซอร์แลนด์ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถยนต์ ไปจนถึงเรือ โดยมีเส้นทางดังนี้ เดินทางโดยรถไฟ เมืองมองเทรอ (Montreux) ตั้งอยู่บนเส้นทางรถไฟสาย Simplon Line ซึ่งเชื่อมต่อเมืองหลักต่าง ๆ ของสวิตเซอร์แลนด์ได้อย่างง่ายดาย โดยมีสถานีรถไฟหลักคือ Montreux Railway Station ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินทางมาจากสถานีในเมืองเจนีวา (Geneva), โลซานน์ (Lausanne), เบิร์น (Bern), ซูริก (Zurich) รวมไปถึงจากเมืองมิลาน (Milan) ในอิตาลี หรือจะเลือกเดินทางพร้อมชมวิวสวย ๆ ระหว่างทางโดย GoldenPass Scenic Train จาก Lucerne มา Montreux กันก็ได้ เดินทางโดยรถยนต์ สามารถขับรถมาตามทางหลวงสาย A9 ซึ่งเชื่อมกับเมืองหลัก เช่น Lausanne และ Sion โดยสามารถจอดรถในที่จอดรถสาธารณะหรือในโรงแรมได้ เดินทางโดยเครื่องบิน ขึ้นเครื่องมาลงที่สนามบิน Geneva (GVA) แล้วนั่งรถไฟตรงจากสนามบินมาที่ Montreux ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที เดินทางโดยเรือ มีเส้นทางเดินเรือในทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) จากเมืองใหญ่มายัง Montreux ได้จากหลายเมืองด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเจนีวา (Geneva), โลซานน์ (Lausanne), เวเวย์ (Vevey) และชิลยอง (Chillon Castle) ซึ่งบริการเดินเรือจะเปิดให้บริการในเฉพาะฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง ถ้าหากเลือกวิธีนี้ในการเดินทางควรเช็คตารางเวลาเดินเรือกันล่วงหน้าก่อนค่ะ

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนมองเทรอ (Montreux)

สำหรับไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่มองเทรอ (Montreux) เมืองริมทะเลสาบที่งดงามราวกับภาพวาดแห่งนี้ นอกจากบรรยากาศอันเงียบสงบ วิวทิวทัศน์ที่แสนงดงามแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เสน่ห์ของศิลปะและวัฒนธรรม เทศกาลที่น่าสนใจ รวมไปถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่สร้างความประทับใจกันได้อย่างไม่รู้ลืม ตามมาดูกันได้เลยค่ะว่ามีอะไรกันบ้าง 
ปราสาทชิลยอง (Chillon Castle) 
หนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนมองเทรอ (Montreux) ปราสาทเก่าแก่อายุเกือบพันปีที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนโขดหินกลางทะเลสาบเจนีวา โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองออกมาเพียง 3 กิโลเมตร ปราสาทแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในปราสาทที่งดงามที่สุดของยุโรป และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของการทัวร์สวิตเซอร์แลนด์เลยทีเดียว ภายในปราสาทมีห้องโถง ห้องทรมาน และห้องใต้ดินที่สร้างมาจากหินโค้ง ให้กลิ่นอายของปราสาทในยุคโบราณขนานแท้ เมื่อมองวิวจากทางหน้าต่างและระเบียง จะสามารถมองเห็นทะเลสาบและแนวเขาได้อย่างสวยงาม ใครที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของยุโรปบอกเลยว่าไม่ควรพลาดค่ะ 
เทศกาล Montreux Jazz Festival
  เทศกาลดนตรีแจ๊สระดับโลกที่จัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี โดยเริ่มจัดครั้งแรกในปี ค.ศ 1967 ที่เริ่มต้นเป็นเพียงงานดนตรีขนาดเล็ก จนเติบโตพัฒนากลายเป็นงานเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากดนตรีแจ๊สแล้ว ยังมีแนวเพลงอื่น ๆ ให้เลือกฟังได้เช่น บลูส์, โซล, ป็อป, ร็อก และอีเล็กทรอนิกส์ โดยมีเวทีทั้งแบบในร่มและกลางแจ้งท่ามกลางวิวทะเลสาบในตอนกลางคืนที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ซึ่งเทศกาลนี้ก็เคยมีศิลปินในระดับโลกมาร่วมแสดงดนตรีในงานด้วย เช่น Miles Davis, Prince, Elton John, Radiohead และ Queen สำหรับผู้ที่สนใจต้องการมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์เพื่อร่วมเทศกาลดนตรีแจ๊ส แนะนำให้จองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 3-6 เดือนค่ะ  
เส้นทางเดินเลียบทะเลสาบ (Lakeside Promenade) 
เส้นทางเดินเล่นที่ระยะทางไม่ใช่เล่น ๆ เลยทีเดียว แต่ก็ไม่ใช่เส้นทางที่ลำบากอะไรค่ะเพราะเดินง่ายมาก โดยเป็นเส้นทางเดินเลียบทะเลสาบที่มีระยะทางถึงกว่า 7 กิโลเมตร จาก Montreux ถึง Chillon Castle ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยต้นปาล์มที่ให้ความร่มรื่น มีดอกไม้เมืองร้อนและประติมากรรมกลางแจ้ง โดยสามารถเดินเล่นหรือปั่นจักรยานไปเรื่อย ๆ แล้วแวะนั่งพักที่คาเฟ่ริมทางกันได้ ตลอดเส้นทางมีจุดให้ถ่ายรูปมากมาย โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกที่แสงของพระอาทิตย์จะส่องสะท้อนผิวน้ำในทะเลสาบ ให้ภาพและบรรยากาศที่งดงามโรแมนติกเป็นอย่างมาก เป็นอีกหนึ่งสถานที่ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัว คู่รัก หรือผู้ที่ต้องการใช้เวลาชิล ๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบและวิวทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสาบและเทือกเขา 
รูปปั้น Freddie Mercury & Queen Studio Experience
ริมทะเลสาบเจนีวาของเมืองมองเทรอ (Montreux) ตรงบริเวณหน้าคาสิโน Montreux (Casino Barrière) ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของ Mountain Studios มีรูปปั้นทองสำริดของ Freddie Mercury นักร้องนำวง Queen วงร็อคชื่อดังจากประเทศอังกฤษตั้งอยู่อย่างโดดเด่น รูปปั้นนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงช่วงเวลาที่ Freddie และสมาชิกในวง ได้มาพักผ่อนและบันทึกเสียงเพลงที่นี่ ด้านในของคาสิโนมีนิทรรศการ “Queen Studio Experience” ซึ่งจัดแสดงเครื่องดนตรี ภาพถ่าย และบันทึกเสียงเดิมของวง Queen ใครที่เป็นแฟนคลับวง Queen หรือเป็นแฟนเพลงยุคคลาสสิค แนะนำให้แวะมาถ่ายรูปเช็คอินกับรูปปั้นและเข้าชมนิทรรศการข้างในกันได้ค่ะ โดยเปิดให้เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย 
นั่งรถไฟ GoldenPass Line 
รถไฟสายท่องเที่ยวชมวิวสุดหรูบนเส้นทางสุดโรแมนติกที่วิ่งจากเมืองมองเทรอ (Montreux) ไปยังเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) ซึ่งขบวนรถไฟก็มีให้เลือกทั้งแบบ Panoramic Train ซึ่งเป็นหน้าต่างบานใหญ่ ขบวน Belle Époque ที่ตกแต่งแนววินเทจ และ GoldenPass Express ขบวนรถไฟสายใหม่ที่วิ่งตรงจาก Montreux ไปยัง Interlaken โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนที่ Zweisimmen ซึ่งขบวนนี้จะมีชั้นหรูหราพิเศษที่เรียกว่า “Prestige Class” ให้บริการกันด้วย เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางรถไฟที่ทำให้เราได้เห็นวิวทิวทัศน์จากทะเลสาบสู่ภูเขาที่งดงามเกินบรรยาย ถ้าหากเป็นในช่วงฤดูท่องเที่ยวหรือช่วง High Season ของสวิตเซอร์แลนด์ แนะนำให้ทำการจองตั๋วล่วงหน้ากันก่อนโดยเฉพาะโบกี้พิเศษ ในขณะที่ตั๋วโดยสาร Swiss Travel Pass ก็สามารถใช้ขึ้นได้ฟรีในบางเส้นทางค่ะ 
ตลาดคริสต์มาส Montreux Noël
ถ้าหากมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่เมืองมองเทรอ (Montreux) กันในช่วงปลายพฤศจิกายนถึงปลายเดือนธันวาคม จะมีตลาดคริสต์มาส Montreux Noël ซึ่งจัดขึ้นริมทะเลสาบ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่สวยและอบอุ่นที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่โรแมนติกที่สุดในแถบทะเลสาบเจนีวา บรรยากาศของตลาดแห่งนี้เต็มไปด้วยแสงไฟอบอุ่น เสียงเพลงท้องถิ่น ต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ และกลิ่นหอมของไวน์ร้อน (Glühwein) มีร้านค้ามากกว่า 150 ร้านที่จำหน่ายของขวัญ อาหารสวิสแบบดั้งเดิม ของตกแต่ง และงานฝีมือ และพิเศษสำหรับเด็ก ๆ ที่อยากขึ้นไปเจอ “ซานตาคลอสแห่งเทือกเขาแอลป์” ก็สามารถนั่งรถไฟเพื่อขึ้นไปยังยอดเขา Les Rochers-de-Naye ที่แปลงโฉมเป็นหมู่บ้านซานตาคลอสกันได้ค่ะ 
จุดชมวิว Les Rochers-de-Naye 
ที่นี่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำหรับการทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่เมืองมองเทรอ (Montreux) กันเลยค่ะ จุดชมวิวบนยอดเขาสูงเหนือเมือง Montreux ที่ให้วิวพาโนรามาสุดอลังการของทะเลสาบเจนีวาและเทือกเขาแอลป์ โดยเป็นยอดเขาที่มีความสูง 2,042 เมตรจากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง สามารถเดินทางจากใจกลางเมืองด้วยรถไฟสายฟันเฟือง Cogwheel Train ได้ภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง บนยอดเขามีจุดชมวิว มีกล้องส่องทางไกล และมุมถ่ายรูปจัดไว้ให้สำหรับนักท่องเที่ยว สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบเจนีวาเทือกเขาแอลป์ได้แบบ 360 องศา มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติสั้น ๆ ลัดเลาะตามแนวเขา และสวนอนุรักษ์สัตว์พื้นเมือง Marmot Paradise โดยในฤดูหนาวจะมีบ้านซานตาคลอส (Santa Claus House) ที่ให้เด็ก ๆ เข้าไปเยี่ยมซานต้ากันได้ และเปิดให้เล่นกิจกรรมฤดูหนาวในช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม   

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวเมืองมองเทรอ (Montreux)

หมู่บ้านมองเทรอ (Montreux) เป็นสถานที่ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่สามารถมาเยี่ยมชมกันได้ตลอดทั้งปี ซึ่งแต่ละฤดูกาลก็มีความสวยงามและกิจกรรมให้ทำแตกต่างกันออกไป ดังนี้
ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อากาศอบอุ่นจนถึงร้อน อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20-28 องศาเซลเซียส มีช่วงกลางวันนาน เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุดของการทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่เมืองนี้กันเลยค่ะ สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ ริมทะเลสาบได้เต็มรูปแบบ รวมไปถึงการขึ้นเขาและเดินป่า และมีการจัดเทศกาลดนตรี Montreux Jazz Festival ในเดือนกรกฎาคม 
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อากาศเริ่มเย็นลง อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10-18 องศาเซลเซียส มองเห็นวิวทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนสีที่สะท้อนกับผิวทะเลสาบได้อย่างงดงาม และเหมาะสำหรับการเดินทางด้วย GoldenPass Line เพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีตลอด 2 ข้างทาง ที่สำคัญคือเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเริ่มบางตา และโรงแรมที่พักบางแห่งเริ่มลดราคาเพื่อทำโปรโมชั่นก่อนเข้าฤดูหนาวกันอีกด้วย   
ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อากาศหนาวเย็น อุณหภูมิประมาณ 0-8 องศาเซลเซียส และมีหิมะตกบนยอดเขา ไฮไลท์ประจำฤดูนี้คือตลาดคริสต์มาส Montreux Noël และบ้านซานตาคลอสบนยอดเขา Les Rochers-de-Naye อันเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ และครอบครัว  
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อากาศเริ่มอุ่นขึ้น อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10-18 องศาเซลเซียส เมืองเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาหลังจากฤดูหนาว แต่ยังมีนักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะ ต้นไม้ดอกไม้เริ่มผลิตดอกออกใบ โดยเฉพาะดอกไม้ริมทะเลสาบเจนีวาที่สวยงามเป็นอย่างมาก 

เมืองมองเทรอ (Montreux) เป็นเมืองริมทะเลสาบที่ผสมผสานระหว่างความงดงามโรแมนติกของธรรมชาติ ความมีชีวิตชีวาของผู้คนและวัฒนธรรม รวมไปถึงบรรยากาศที่มีความสงบสุขแบบสวิตเซอร์แลนด์แท้ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถไฟชมวิว เที่ยวปราสาทเก่าแก่ เดินตลาดคริสต์มาสอันแสนอบอุ่น ขึ้นไปยังยอดเขาเพื่อชมวิวทิวทัศน์จากมุมสูง เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศริมทะเลสาบและวิวทิวทัศน์อันแสนงดงาม อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีการจัดเทศกาลดนตรีระดับโลก ทำให้มองเทรอ (Montreux) เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกประเภท ใครที่กำลังมองหาเมืองเล็ก ๆ แต่มอบประสบการณ์ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่ครบครัน เมืองมองเทรอ (Montreux) คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ