
24
Jun
2025
สวิตเซอร์แลนด์
หมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) หมู่บ้านสวรรค์ในหุบเขา สวยดังเทพนิยาย
ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์อันยิ่งใหญ่ มีสถานที่ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ซ่อนตัวอยู่ หมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่ดูสวยงามราวกับอยู่ในโลกของเทพนิยาย ด้วยบ้านไม้เก่าแก่ที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้สีสันสวยงาม ทุ่งหญ้าสีเขียวสดใส มีฉากหลังเป็นเทือกเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะอันแสนอลังการ มองไปทางไหนก็เหมือนกับหลุดเข้ามาอยู่ในโลกแห่งเทพนิยายกันอย่างแท้จริง ซึ่งเราก็ได้รวบรวมข้อมูลเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ของหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) หมู่บ้านสวรรค์ในหุบเขที่สวยดังเทพนิยายมาฝากกันค่ะ
ทำความรู้จักกับหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren)
หมู่บ้านเมอร์เรน (Murren)
เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ยอดนิยม โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาวที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาที่หมู่บ้านแห่งนี้กันอย่างคึกคัก โดยเป็นหมู่บ้านภูเขาแบบดั้งเดิมของชาววาลเซอร์ (Walser) ตั้งอยู่ในเขตตั้งอยู่ในเขตเบอร์นีส ไฮแลนด์ (Bernese Highlands) ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนความสูง 1,638 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตัวหมู่บ้านจะอยู่ฝั่งตรงข้ามหุบเขาของหมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) สามารถมองเห็นภูเขาที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ ได้แก่ ไอเกอร์ (Eiger), เมินช์ (Monch) และยุงเฟรา (Jungfrau) ได้อย่างชัดเจน โดยหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) นั้นไม่สามารถเข้าถึงได้โดยใช้ถนนสาธารณะ จะต้องเดินทางด้วยเคเบิลคาร์และรถไฟฟันเฟืองเท่านั้น ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้เงียบสงบปราศจากมลพิษและเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและดื่มด่ำกับธรรมชาติได้อย่างแท้จริง
ประชากรที่อาศัยอยู่ถาวรในหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) มีอยู่ด้วยกันประมาณ 450 คน แต่กลับมีชื่อเสียงในฐานะรีสอร์ตภูเขาระดับโลกโดยเฉพาะในหมู่นักปีนเขาและนักสกี โดยมีที่พักและโรงแรมซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 2,000 เตียง ภายในหมู่บ้านยังมีโรงเรียนและโบสถ์อีก 2 แห่ง ประกอบไปด้วยโบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์และโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก
พิกัด
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren)
ชื่อของเมอร์เรินถูกกล่าวถึงครั้งแรกในปี ค.ศ. 1257 ในชื่อ “Mons Murren” หรือภูเขาเมอร์เริน ซึ่งเดิมทีบริเวณนี้อาจเป็นเพียงแค่ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์บนภูเขาเท่านั้น จนกระทั่งมีผู้อพยพจากหุบเขาเลิชเทินทาล (Lotschental) เข้ามาตั้งถิ่นฐานในช่วงหลังปี ค.ศ. 1300 จึงทำให้ที่นี่เริ่มกลายเป็นหมู่บ้านขึ้นมา และเริ่มได้รับความนิยมในฐานะของสถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โรงแรมแห่งแรกของหมู่บ้านที่เรียกว่า Bäuert ถูกสร้างขึ้นมาในปี ค.ศ. 1857 โดยสหกรณ์เกษตรกรของหมู่บ้านเมอร์เริน ซึ่งก่อนที่จะมีการเปิดให้บริการรถไฟสาย Lauterbrunnen–Murren Mountain Railway ในปี ค.ศ. 1891 การเดินทางมายังหมู่บ้านยังทำได้เพียงการใช้ล่อหรือม้าเข้ามาเท่านั้น แต่ยิ่งเข้าถึงยากยิ่งท้าทาย เพราะยิ่งทำให้หมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ที่พักโรงแรมนั้นมีเตียงเพิ่มเป็น 310 เตียงภายในปี ค.ศ. 1888 ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 จะเป็นชาวอังกฤษ ทำให้ในปี ค.ศ. 1878 ได้มีการสร้างคริสตจักรแห่งอังกฤษ (Anglican Church) ให้กับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษกันเลยค่ะ
นับตั้งแต่นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษกลุ่มแรกได้เริ่มมาเยือนหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) ในช่วงฤดูหนาวปี ค.ศ. 1911 รวมไปถึงเชลยศึกที่ได้รับบาดเจ็บในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ได้เข้ามาพักในหมู่บ้านแห่งนี้เพื่อรอการส่งตัวกลับประเทศ คนกลุ่มนี้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนากีฬาฤดูหนาวซึ่งเป็นส่วนสำคัญในประวัติศาสตร์ของเมอร์เริน โดยในปี ค.ศ. 1924 สโมสรเล่นสกีชื่อ "Kandahar Ski Club" ได้ก่อตั้งขึ้นโดย Sir Arnold Lunn (มีรูปปั้นตั้งอยู่ที่หน้าสถานีรถไฟ) ร่วมกับนักสกีชาวอังกฤษอีก 8 คน โดยมีการจัดการแข่งขันสกีที่เก่าแก่ที่สุดรายการหนึ่งของโลกอย่าง Inferno Race ที่ยังคงจัดขึ้นทุกปีจนถึงปัจจุบัน

การเดินทางไปยังหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren)
อย่างที่ทราบกันดีว่าหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยรถยนต์ ดังนั้นการมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์กันที่นี่จะได้พบกับความตื่นเต้นตั้งแต่เริ่มเดินทางกันเลยทีเดียวค่ะ ไม่เพียงแค่วิวทิวทัศน์อันงดงามระหว่างทางเท่านั้น แต่การเดินทางมายังหมู่บ้านจะเป็นการเดินทางแบบผสมผสานระหว่างรถไฟ เคเบิ้ลคาร์ และรถไฟฟันเฟือง โดยมีเส้นทางดังนี้
เดินทางจากเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) ให้นั่งรถไฟจากสถานี Interlaken Ost ไปยัง Lauterbrunnen เมื่อถึงสถานี Lauterbrunnen ให้ไปยังสถานีเคเบิ้ลคาร์ Grütschalp เพื่อขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไปยัง Grütschalp แล้วต่อรถไฟฟันเฟืองสาย BLM (Bergbahn Lauterbrunnen-Murren) ไปยัง Murren
เดินทางผ่านหมู่บ้าน Gimmelwald จาก Lauterbrunnen ให้นั่งรถบัสไปยัง Stechelberg และจาก Stechelberg ขึ้นเคเบิลคาร์สู่ Gimmelwald และเปลี่ยนสายไปยัง Murren

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren)
สำหรับไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่หมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) นอกจากวิวทิวทัศน์อันแสนงดงามราวเมืองในเทพนิยายแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจอีกหลายอย่างเลยค่ะ ตามมาดูกันได้เลยว่าไฮไลท์อะไรบ้างที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์กันที่นี่
ยอดเขาชิลธอร์น (Schilthorn) และ Piz Gloria
เป็นหนึ่งในสถานที่ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์อันโด่งดัง ยอดเขา Schilthorn ที่ความสูง 2,970 เมตร จุดสูงสุดที่สามารถเดินทางมาได้จากหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) บนยอดเขามีร้านอาหารหมุนได้ 360 องศาชื่อ Piz Gloria ซึ่งเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เจมส์บอนด์ภาค On Her Majesty’s Secret Service (1969) โดยมีเมนูยอดนิยมคือ "James Bond Brunch" ที่ให้คุณได้สัมผัสกลิ่นอายของสายลับในขณะลิ้มรสอาหารแบบสวิส และมีนิทรรศการอินเทอร์แอคทีฟเกี่ยวกับภาพยนตร์ On Her Majesty’s Secret Service ที่ Bond World 007 พิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมที่จัดแสดงเบื้องหลังการถ่ายทำหนังเจมส์ บอนด์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในร้านอาหาร บริเวณด้านนอกมี Skyline View Platform ลานชมวิวกลางแจ้งบนยอดเขาที่สามารถมองเห็นยอดเขาแอลป์ได้รอบทิศแบบ 360 องศา
ภูเขาออลเมนฮูเบล (Allmendhubel)
ภูเขาแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นภูเขาประจำถิ่นของหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) กันเลยค่ะ ที่นี่ถูกเรียกว่าเป็นระเบียงชมวิวแห่งเทือกเขาแอลป์ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,907 เมตร ใช้เวลาเดินทางเพียง 4 นาที จากหมู่บ้านด้วยรถรางเฟือง (funicular) และเปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งปี ซึ่งในแต่ละฤดูกาลก็มีกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป ไฮไลท์ของที่นี่คือสนามเด็กเล่นธีมธรรมชาติ Flower Park ที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว เส้นทางเดินป่าระยะสั้น Flower Trail ที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์และดอกไม้ป่าตลอดเส้นทาง จุดชมวิว 3 ยอดเขาสำคัญแห่งเทือกเขาแอลป์ ได้แก่ Eiger, Mönch และ Jungfrau ร้านอาหาร Allmendhubel Panorama Restaurant ที่ให้บริการอาหารสวิสพื้นเมือง พร้อมระเบียงชมวิวแบบเปิดโล่ง และในช่วงฤดูหนาว ที่ภูเขาแห่งนี้จะกลายเป็นลานสกีซึ่งเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและเด็ก ๆ
น้ำตกเมอร์เรนบัค (Murrenbach)
ถึงแม้ว่าตัวน้ำตกเมอร์เรนบัค (Murrenbach) จะไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่ของหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) แต่แหล่งต้นน้ำของน้ำตกแห่งนี้ก็เป็นสายน้ำที่ไหลลงมาจากหน้าผาบริเวณเหนือหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) แล้วลงมายัง Stechelberg ในเขต Lauterbrunnen นั่นเองค่ะ โดยเป็นน้ำตกที่ไหลลงมาตรง ๆ จากหน้าผาที่มีความสูงถึง 417 เมตร ไม่มีการกระจายตัวเป็นชั้นเหมือนน้ำตกที่อื่น จึงถือได้ว่าเป็นน้ำตกที่มีการไหลลงแบบอิสระหรือ plunging waterfall ที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์เลยก็ว่าได้ อยู่ใกล้กับสถานีเคเบิ้ลคาร์ Stechelberg บริเวณทางเข้าหุบเขา Lauterbrunnen ผู้ที่ขึ้นกระเช้า Stechelberg → Gimmelwald → Murren จะได้เห็นน้ำตกในมุมสูงจากกระเช้าได้อย่างชัดเจน โดยจุดชมน้ำตกที่ดีที่สุดจะอยู่บริเวณ สถานีเคเบิลคาร์ Stechelberg (Schilthornbahn)
เส้นทางเดินป่ารอบหมู่บ้านเมอร์เริน (Murren)
สำรวจหมู่บ้านและเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่งดงาม ด้วยเส้นทางเดินป่าระยะสั้นและง่าย ๆ ในบริเวณหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) โดยมีเส้นทาง Murren – Gimmelwald เส้นทางเดินลงเขาสั้น ๆ ที่ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ผ่านทุ่งหญ้า บ้านไม้ และวิวหุบเขา โดยมีปลายทางเป็นหมู่บ้าน Gimmelwald ที่เงียบสงบและสวยงามโรแมนติก อีกเส้นทางหนึ่งคือ Northface Trail เป็นเส้นทางเดินวนเป็นวงกลมรอบภูเขาหลังหมู่บ้านเมอร์เริน (Murren) ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร เหมาะสำหรับผู้ที่เดินป่าในระดับเบื้องต้นถึงระดับกลาง ผ่านทุ่งหญ้า ป่าเขา และจุดชมวิวหลายจุด เช่น Sprutz Waterfall และ Eiger View โดยมีป้ายที่บอกข้อมูลเกี่ยวกับภูเขาและพืชพันธุ์ตลอดระยะทาง หรือจะเลือกเส้นทางง่าย ๆ เหมาะกับการเดินป่าเป็นครอบครัวอย่างเส้นทาง Allmendhubel Flower Trail ที่มีทุ่งดอกไม้ป่าในฤดูร้อนแสนงดงามกันก็ได้
ศูนย์กีฬา Alpine Sports Centre
เป็นศูนย์กีฬาซึ่งตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้านเมอร์เรน (Mürren) กันเลยค่ะ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำหรับการพักผ่อน ใช้เวลากับครอบครัว โดยที่ไม่ต้องออกจากหมู่บ้านไปไหนไกล รวมไปถึงการออกกำลังกายและทำกิจกรรมแบบ indoor สิ่งอำนวยความสะดวกภายในศูนย์กีฬาแห่งนี้มีทั้งสระว่ายน้ำในร่มขนาด 25 เมตร ที่มีน้ำอุ่นกำลังดีและมีโซนน้ำตื้นสำหรับเด็ก ฟิตเนสและยิมที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ท่ามกลางวิวภูเขาจากหน้าบานหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ สนามกีฬาในร่มที่ใช้เล่นได้ทั้งฟุตบอล ปิงปอง แบดมินตัน และอื่น ๆ มีอุปกรณ์สำหรับเล่นกีฬาให้เช่า มีลานสเก็ตน้ำแข็งในฤดูหนาว โดยในช่วงฤดูร้อนบริเวณที่เป็นลานสเก็ตน้ำแข็งจะกลายเป็นสนามมินิกอล์ฟและสนามเทนนิส มีศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวและจุดบริการชุมชน และมีคาเฟ่ ที่ให้บริการเครื่องดื่มร้อน - เย็น รวมไปถึงขนมและอาหารว่าง
พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กแห่งหมู่บ้านเมอร์เรน (Mini Museum Murren)
พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ภายในอาคาร Sportzentrum Murren บริเวณศูนย์กีฬา ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวของหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) ในอดีตที่มีอายุกว่า 800 ปี จัดแสดงต้นกำเนิดของกีฬาสกีในสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งที่นี่ถือได้ว่าเป็นหมู่บ้านแรก ๆ ที่มีการเริ่มต้นกิจกรรมสกีเพื่อความสนุก (recreational skiing) ในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยเฉพาะการแข่งขันสกี Inferno Race ที่ยังคงจัดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน การจัดแสดงเครื่องใช้ในครัวเรือนโบราณและข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านแบบดั้งเดิมของผู้คนในเทือกเขาแอลป์ นอกจากนี้ยังมีส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ที่กล่าวถึงภาพยนตร์ James Bond 007 (On Her Majesty’s Secret Service) ในปี 1969 ที่ถ่ายทำบนยอดเขาชิลธอร์นอีกด้วย
สนุกกับกิจกรรมฤดูหนาวที่ Kunsteisbahn Murren
ถ้าหากมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่หมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) ในช่วงฤดูหนาว สามารถไปเล่นสเก็ต เล่นหิมะ หรือทำกิจกรรมฤดูหนาวกลางแจ้งกันได้ที่ Kunsteisbahn Murren ที่นี่จะเป็นลานกลางแจ้งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางหมู่บ้าน เปิดให้บริการตั้งแต่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมีนาคม สามารถเดินมาถึงกันง่าย ๆ จากสถานีหรือจากที่พักภายในหมู่บ้าน มีลานน้ำแข็งขนาดกลางที่ใช้ระบบทำความเย็นเพื่อให้สามารถเล่นสเก็ตได้แม้อุณหภูมิจะไม่ต่ำมาก โดยสามารถไปเช่ารองเท้าสเก็ตได้จากศูนย์กีฬาของหมู่บ้านซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน ในช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟสำหรับการเล่นสเก็ตในตอนกลางคืนหรือ night skating ที่บอกเลยว่าบรรยากาศโรแมนติกกันแบบสุด ๆ และสำหรับใครที่เล่นสเก็ตไม่เป็น ที่นี่ก็มีผู้ฝึกสอนและเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือสำหรับผู้เริ่มต้น รวมไปถึงเด็ก ๆ ที่มาเป็นครอบครัว
Thrill Walk ที่ Birg Station
บริเวณสถานี Birg Station ที่ตั้งอยู่ระหว่างสถานี Murren และยอดเขา Schilthorn มีทางเดิน Thrill Walk สุดหวาดเสียวที่ท้าทายความกล้ากันแบบสุด ๆ อยู่ด้วยค่ะ โดยมีลักษณะเป็นสะพานสำหรับเดินที่ยื่นออกมาจากหน้าผา โครงสร้างทำจากเหล็กและมีทางเดินเป็นกระจกบางช่วง ที่เผยให้เห็นความสูงของพื้นด้านล่าง มีระยะทางรวมทั้งหมดประมาณ 200 เมตร วนรอบเชิงหน้าผาของสถานี มีทั้งอุโมงค์ตาข่ายเหล็กที่ต้องค่อย ๆ เดินหรือคลานผ่าน จุดที่พื้นเป็นกระจกใสมองทะลุเห็นหน้าผาเบื้องล่าง และมุมชมวิวเทือกเขา Jungfrau, Mönch และ Eiger แบบไม่มีสิ่งกีดขวาง แต่ต้องบอกก่อนว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้น ท้าทายความสูง อยากได้มุมมองของวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาเต็ม ๆ ตา ใครที่มีอาการกลัวความสูงอย่างรุนแรงไม่แนะนำให้ขึ้นมาค่ะ ส่วนเด็ก ๆ จะต้องมีผู้ปกครองคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren)
หมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) เป็นสถานที่ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่สามารถมาเยี่ยมชมกันได้ตลอดทั้งปีค่ะ ซึ่งแต่ละฤดูกาลก็มีความสวยงามและกิจกรรมให้ทำแตกต่างกันออกไป ดังนี้
• ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส เป็นช่วงพีคสำหรับการทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ได้ทุกที่ รวมไปถึงหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) แห่งนี้ด้วยเช่นกัน ดอกไม้ป่าบานเต็มทุ่งหญ้า หุบเขาเขียวขจี เหมาะกับการปีนเขา เดินป่า ทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ ได้แบบจัดเต็ม
• ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อากาศเริ่มเย็นลง อากาศค่อนข้างแปรปรวนอยู่บ้าง วิวทิวทัศน์ถูกแต่งแต้มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีที่แสนงดงาม ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศโรแมนติกของใบไม้เปลี่ยนสี และมีนักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก แนะนำให้มากันในช่วงนี้ค่ะ
• ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) หมู่บ้านถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน เหมาะสำหรับการเล่นหิมะ เล่นสกี สโนว์บอร์ด หรือทำกิจกรรมในฤดูหนาว โดยสามารถขึ้นไปเล่นหิมะและชมวิวกันที่ Jungfraujoch หรือยอดเขาชิลธอร์น (Schilthorn) ที่อยู่ใกล้เคียง หรือจะดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์และเล่นกิจกรรมในฤดูหนาวที่หมู่บ้านกันก็ได้ค่ะ
• ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมาก ดอกไม้ป่าเริ่มผลิบานสะพรั่งเต็มทุ่งหญ้า เป็นช่วงเวลาอันยอดเยี่ยมสำหรับการเก็บภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทุ่งหญ้าและภูเขาในหมู่บ้านเมอร์เรน (Murren)
หมู่บ้านเมอร์เรน (Murren) แม้จะเข้าถึงยากกว่าเมืองใหญ่ ไม่มีห้างสรรพสินค้าหรือร้านแบรนด์เนมสุดหรู แต่กลับเป็นสถานที่ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์อันเป็นที่รักของนักท่องเที่ยวที่ใฝ่หาความสงบ ต้องการธรรมชาติมาช่วยฮีลใจ ดื่มด่ำไปกับอากาศบริสุทธิ์และความงดงามเหนือกาลเวลาของวิวทิวทัศน์ที่งดงามราวเทพนิยาย เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่ให้เราได้สัมผัสธรรมชาติอันงดงามของสวิตเซอร์แลนด์กันได้อย่างแท้จริง
