เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์ :

09.00 - 18.00 น.

เราช่วยคุณได้

@taladtour

Travel License : 11/11173

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

ยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm)

ยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm)

24

Jun

2025

สวิตเซอร์แลนด์

ยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm)

ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่ยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) ยอดเขาที่ได้รับฉายาว่า “ราชินีแห่งขุนเขา” หนึ่งในภูเขาที่ตั้งอยู่ในใจกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ซึ่งจะมอบประสบการณ์เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์อันน่าจดจำไม่รู้ลืม ยอดเขาแห่งนี้โดดเด่นด้วยการเข้าถึงที่สะดวก วิวทิวทัศน์อันงดงาม จุดชมวิวที่ยอดเยี่ยม และกิจกรรมที่มีให้ทำอย่างมากมาย เรียกได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอีกแห่งสำหรับการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่ควรจะต้องมากันให้ได้สักครั้ง   

ข้อมูลทั่วไปของยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm)

ยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) 

         เป็นอีกหนึ่งสถานที่ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความสวยงาม เป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ เล่นกีฬา เต็มไปด้วยกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย และสามารถเข้าถึงได้ง่ายจากหลากหลายเส้นทาง เรียกได้ว่าไม่มีภูเขาที่ไหนในสวิตเซอร์แลนด์สามารถเข้าถึงได้ง่ายขนาดนี้อีกแล้ว โดยเป็นเทือกเขาขนาดใหญ่ในเทือกเขาแอลป์ซึ่งตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศ มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลอยู่ที่ 1,797 เมตร มีพื้นที่ประมาณ 90 ตารางกิโลเมตร ภูเขาเกือบทั้งหมดถูกล้อมรอบไปด้วยน้ำจากทะเลสาบทั้ง 3 แห่ง กลายเป็นวิวทิวทัศน์อันแสนงดงามตระการตา และเปิดให้เข้าชมกันได้ตลอดทั้งปี มีเส้นทางเดินป่าที่ได้รับการดูแลอย่างดีหลายเส้นทาง รวมไปถึงเส้นทางเดินป่าบนภูเขา โดยมีจุดย่างบาร์บีคิวสาธารณะจำนวนมากตั้งอยู่ใกล้กับเส้นทางเดินป่าไว้คอยให้บริการ และมีโรงแรมเก่าแก่อย่าง Rigi Kulm Hotel ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1816 เปิดให้บริการอยู่บนยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) อีกด้วย 

พิกัด

ภูมิประเทศและที่ตั้งของยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm)

ในเชิงธรณีวิทยา ยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) นั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ แต่เป็นส่วนหนึ่งของที่ราบสูงของสวิตเซอร์แลนด์ (Swiss Plateau) เนื่องจากตัวภูเขาประกอบไปด้วยหินโมลาสส์ (molasse) และหินตะกอนชนิดอื่น ๆ ซึ่งแตกต่างจากเทือกเขาแอลป์ที่ประกอบด้วยหินชนวนบึนด์เนอร์ (Bündner schist) และหินฟลิช (flysch) แต่ทั้งนี้ก็ยังคงอยู่ในแนวเทือกเขาแอลป์ในภาคกลางของสวิตเซอร์แลนด์ โดยเทือกเขาแห่งนี้ถูกล้อมรอบเกือบทั้งหมดด้วยแหล่งน้ำ 3 แห่ง ได้แก่ ทะเลสาบลูเซิร์น (Lake Lucerne) ทะเลสาบซุก (Lake Zug) และทะเลสาบลาเออร์ซ (Lake Lauerz) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาชวีเซอร์แอลป์ (Schwyzer Alps) ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างรัฐชวีซ (Schwyz) และลูเซิร์น (Lucerne) โดยมียอดเขาหลักคือริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐชวีซ  

ประวัติศาสตร์และความสำคัญของยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm)

นับตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 18 ยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) ได้เริ่มกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่นิยมของเหล่าขุนนางและชนชั้นสูงชาวอังกฤษ เนื่องจากมีธรรมชาติอันแสนงดงามและอากาศบริสุทธิ์ มีความลาดชันค่อนข้างน้อยจึงง่ายต่อการเดินทาง ผู้คนนิยมขึ้นมาที่ยอดเขาเพื่อรอดูพระอาทิตย์ขึ้น เพราะสามารถมองเห็นทะเลหมอกและแสงแรกได้สวยงามเป็นพิเศษ ต่อมาในปี ค.ศ. 1816 โรงแรมแห่งแรกบนยอดเขาได้ถูกสร้างขึ้นที่ยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) โดยใช้ชื่อว่า Rigi Kulm Hotel และในปี ค.ศ. 1871 รถไฟสาย Rigi Bahn หรือ Rigi Railways ก็ได้เริ่มเปิดให้บริการ ซึ่งนับได้ว่าเป็นรถไฟฟันเฟืองสายแรกของยุโรป ที่นำพานักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาสู่สถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ยอดนิยมแห่งนี้ 
ยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) ได้ปรากฏอยู่ในงานศิลปะมากมายทั้งในรูปแบบของภาพวาดและวรรณกรรม โดยหนึ่งในผลงานภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดคือชุดภาพของ J. M. W. Turner ซึ่งรวมถึงภาพ “The Blue Rigi, Sunrise” โดยหลายภาพจากชุดนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่หอศิลป์ Tate Britain ในกรุงลอนดอน นอกจากนี้ชื่อของยอดเขายังถูกนำไปใช้ในวรรณกรรมและการตั้งชื่อสถานที่อื่น ๆ เช่น ในนิยาย The Rise of David Levinsky ของ Abraham Cahan โดยเป็นชื่อรีสอร์ตใน Catskills และชื่อถนน The Rigi ในเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นต้น 

การเดินทางไปยังยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm)

ข้อมูลเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์เพื่อเดินทางไปพิชิตยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) สามารถเดินทางได้จากหลายเส้นทาง ซึ่งการเดินทางต่าง ๆ สามารถใช้ตั๋ว Swiss Travel Pass กันได้ทุกเส้นทางค่ะโดยมีเส้นทางหลัก ๆ ดังนี้ 
เดินทางจากเมืองลูเซิร์น (Lucerne)
เริ่มต้นจากเมืองลูเซิร์น (Lucerne) นั่งเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือ Lucerne ไปยัง Vitznau โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถไฟสาย Rigi Bahn จาก Vitznau ไปยังเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) ใช้เวลาประมาณ 40 นาที หรือนั่งรถไฟจากลูเซิร์น (Lucerne) ไป Arth-Goldau แล้วขึ้นรถไฟสาย Rigi Kulmbahn เพื่อขึ้นยอดเขา
เดินทางจากเมืองซูริค (Zurich) 
  นั่งรถไฟจาก Zurich HB ไปลงที่ Arth-Goldau ใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากนั้นต่อด้วยไฟสาย Rigi Kulmbahn เพื่อขึ้นสู่ยอดเขา โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที
เดินทางจากเมืองเวกกิส (Weggis) 
นั่งกระเช้า aerial cable car จาก Weggis ขึ้นไปที่ Rigi Kaltbad แล้วต่อรถไฟสาย Rigi Bahn ขึ้นไปยังยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm)

ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่ยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm)

ยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) เป็นสถานที่ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ยอดนิยม เนื่องจากมีความสูงชันไม่มากและสามารถเข้าถึงได้ง่ายจากหลายเส้นทาง มีวิวทิวทัศน์ที่งดงามและกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลาย รวมไปถึงร้านอาหารอร่อย ๆ และร้านอาหารสวิสดั้งเดิม เป็นสถานที่ซึ่งเหมาะสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง โดยไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่ยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) ก็มีดังนี้ค่ะ 
Rigi Kulm Summit
กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่ยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) ก็คือการมาเยือนจุดสูงสุดของภูเขาที่เรียกว่า Rigi Kulm Summit ค่ะ จากตรงนี้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ทั้งหุบเขา ทะเลสาบ และเทือกเขาแอลป์ตอนกลางที่ไกลสุดสายตาแบบพาโนรามา 360 องศา วันไหนอากาศดี ๆ อาจมองเห็นได้ไกลถึงเยอรมนีและฝรั่งเศสกันเลยทีเดียว โดยในช่วงเช้าและเย็นจะมีแสงอาทิตย์สีทองส่องสะท้อนบนผิวน้ำและยอดเขา เป็นช่วงเวลาที่ถ่ายภาพได้สวยที่สุดจากบริเวณยอดเขาแห่งนี้ 
Rigi Kaltbad Spa & Resort
ดื่มด่ำผ่อนคลายไปกับสปาบนภูเขากันได้ทุกฤดู ท่ามกลางวิวทะเลสาบแสนงดงามที่ Rigi Kaltbad Spa & Resort สปาในร่มอันทันสมัยซึ่งได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังระดับโลก Mario Botta ให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติและเปิดรับวิวได้จากทุกมุม มีบริการสระน้ำร้อนกลางแจ้งที่สามารถแช่น้ำอุ่นได้แม้ในฤดูหนาว บริการนวด สปาทรีตเมนต์ บำบัดผ่อนคลายต่าง ๆ สำหรับทั้งร่างกายและจิตใจ และมีห้องพักของโรงแรม Rigi Kaltbad Hotel เชื่อมต่อกับสปาโดยตรง 
เส้นทางเดินป่า Rigi Panorama Trail
สัมผัสประสบการณ์เดินป่าชมที่มีวิวแบบพาโนรามาตลอดเส้นทาง ด้วยเส้นทางซึ่งตั้งอยู่บนสันเขาที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบลูเซิร์น ทะเลสาบซุก และเทือกเขาแอลป์เป็นฉากหลัง โดยมีเส้นทางเดินระหว่าง Rigi Kaltbad และ Rigi Scheidegg หรือจาก Rigi Kulm ลงมา Rigi Kaltbad แล้วเดินต่อไปยัง Rigi Scheidegg เป็นระยะทางประมาณ 7 - 8 กิโลเมตร เส้นทางค่อนข้างเรียบเดินได้ง่าย มีจุดพักและจุดชมวิวเป็นระยะ นอกจากนี้ยังสามารถแวะปิคนิคหรือส่องกล้องดูนกที่อยู่ตามป่าระหว่างทางกันได้อีกด้วย
นั่งรถไฟฟันเฟืองสายประวัติศาสตร์ Rigi Bahn
ตำนานรถไฟภูเขาสายแรกของยุโรป Rigi Bahn เป็นรถไฟฟันเฟือง (Cogwheel Railway) ที่ถือได้ว่าเป็นรถไฟภูเขาสายแรกของยุโรปและเก่าแก่ที่สุดในทวีปที่ยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบัน มีทั้งแบบรถไฟฟ้าและรถไฟไอน้ำให้บริการในบางฤดู โดยมีสายดั้งเดิมคือ Vitznau – Rigi Kulm และสายที่เสริมเข้ามาในภายหลังอย่าง Arth-Goldau – Rigi Kulm โดยรถไฟไอน้ำโบราณนั้นมีรูปแบบขบวนรถเป็นสีแดงสไตล์วินเทจ ให้บรรยากาศย้อนยุคแบบเต็มรูปแบบ และเป็นขบวนเดียวกับที่ขุนนางในอดีตใช้เดินทางมาเยือนยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm)
ชมทะเลหมอกฤดูหนาว
ถ้าหากมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์กันในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ บริเวณยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) จะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ ที่โผล่พ้นทะเลหมอกขาวโพลนทอดยาวสุดสายตากันแบบงดงามอลังการ โดยแนะนำให้มาในช่วงเช้าประมาณ 08.00 – 10.00 น. จะเป็นช่วงที่ทะเลหมอกสวยที่สุด และบางครั้งหมอกก็จะมีการเคลื่อนตัวไปตามร่องหุบเขาและไหลเหมือนกระแสน้ำ ทำให้เกิดภาพที่งดงามราวกับหลุดไปอยู่ในโลกแฟนตาซีกันเลยค่ะ
กิจกรรมกลางแจ้งในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาทองของยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) เลยก็ว่าได้ เพราะสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า การชมดอกไม้ป่าบานบนเทือกเขาในฤดูใบไม้ผลิ ปิคนิคกลางทุ่งหญ้า ขี่จักรยานเสือภูเขา ทำกิจกรรมสำหรับเด็กและครอบครัวที่สนามเด็กเล่น รวมไปถึงการนั่งพาราไกลดิ้ง (Paragliding) บินลัดฟ้าเหนือทะเลสาบ เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายกำลังดีไม่หนาวเกินไป ต้นไม้ใบหญ้าสีสันสดใส ท้องฟ้าแจ่มใส และมีวิวทิวทัศน์ที่งดงามเป็นอย่างมาก 
ถ่ายภาพบริเวณชานชาลาสถานี Rigi Kulm
จากบริเวณชานชาลาของสถานี สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบลูเซิร์น (Lake Lucerne), ทะเลสาบซุก (Lake Zug) และแนวเทือกเขาแอลป์ได้แบบพาโนรามา หากวันไหนที่อากาศแจ่มใสท้องฟ้าเปิด อาจมองไปเห็นได้ถึงเทือกเขา Jungfrau หรือแม้แต่แนวชายแดนของประเทศเยอรมันกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถเก็บภาพของรถไฟสายประวัติศาสตร์สุดคลาสสิค ที่จอดบนชานชาลาพร้อมฉากด้านหลังเป็นแนวเทือกเขา และห้ามพลาดเช็คอินถ่ายรูปกับป้ายสถานี “Rigi Kulm” เพื่อเป็นหลักฐานว่าได้มาพิชิตยอดสูงสุดของราชินีแห่งภูเขาสวิตเซอร์แลนด์กันแล้ว  
เพลิดเพลินไปกับร้านอาหารบนยอดเขา
บริเวณยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) มีร้านอาหารอร่อย ๆ ให้เราได้เลือกกันอยู่หลายร้านเลยทีเดียวค่ะ โดยมีร้านแนะนำอย่างร้านอาหาร Rigi Kulm Hotel Restaurant ที่อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Rigi Kulm เพียงไม่กี่ก้าว มีเมนูเด่นอย่างเมนูอาหารสวิสพื้นเมือง เช่น Rösti (มันฝรั่งทอดกรอบ), Bratwurst (ไส้กรอก), Cheese Fondue และ Raclette รวมไปถึงอาหารยุโรปแบบโมเดิร์นและของหวานสไตล์สวิสดั้งเดิม แล้วทีนี้ยังมีคาเฟ่เล็ก ๆ ชื่อ Café Kulmterrasse ที่ให้บริการเครื่องดื่มและขนมอบแสนอร่อย ตบท้ายด้วยดินเนอร์พร้อมวิวพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติกกันที่โรงแรม Rigi Kulm 

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm)

ต้องบอกว่าสามารถเดินทางมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่ยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) กันได้ตลอดทั้งปีค่ะ ซึ่งแต่ละฤดูกาลก็มีความสวยงามและกิจกรรมให้ทำแตกต่างกันออกไป ดังนี้  
 •      ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) ถือได้ว่าเป็นช่วง High Season สำหรับการทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ทุกที่กันเลยค่ะ ซึ่งบนยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) ก็สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งและเดินป่ากันได้อย่างเต็มรูปแบบ ท้องฟ้าเปิดโล่งมองเห็นวิวได้ไกลสุดสายตา แต่ค่อนข้างมีนักท่องเที่ยวเยอะพอสมควร
•      ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อากาศเริ่มเย็นลง นักท่องเที่ยวก็เริ่มน้อยลงด้วยเช่นกัน เป็นช่วงที่สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนสีตัดกับทะเลสาบสีน้ำเงิน กลายเป็นฉากที่งดงามโรแมนติกเป็นอย่างมาก
•      ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) ที่ยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) ในฤดูหนาว สามารถเล่นหิมะและเล่นเลื่อนหิมะได้ที่ลาน Rigi Kulm ได้ในบางวันค่ะ ส่วนใหญ่นิยมมาเพื่อชมวิวทะเลหมอก และถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนสุดโรแมนติก 
•      ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมาก อากาศกำลังเย็นสบาย และมีดอกไม้ป่าที่บานสะพรั่ง และเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะ ใครที่อยากเที่ยวกันแบบไม่แออัด ที่พักไม่แพง ก็มากันในช่วงนี้ได้ค่ะ 
 
ยอดเขาริกิ-คูล์ม (Rigi Kulm) ในเมือง Engelberg เป็นยอดเขาที่เดินทางมาได้อย่างสะดวกสบายจากหลายเส้นทาง และเป็นจุดหมายปลายทางทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่ผสมผสานประสบการณ์เดินทางสุดคลาสสิค และวิวทิวทัศน์อันงดงามเอาไว้ได้อย่างลงตัว ด้วยรถไฟฟันเฟืองแบบย้อนยุคที่ใช้กันมาตั้งแต่ในอดีต วิวทะเลสาบแบบพาโนรามา การเดินป่าท่ามกลางทุ่งดอกไม้และสายหมอก เต็มไปด้วยกิจกรรมต่าง ๆ มากมายที่