เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์ :

09.00 - 18.00 น.

เราช่วยคุณได้

@taladtour

Travel License : 11/11173

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

ยอดเขายุงเฟรายอค (jungfraujoch)

ยอดเขายุงเฟรายอค (jungfraujoch)

24

Jun

2025

สวิตเซอร์แลนด์

ยอดเขายุงเฟรายอค (jungfraujoch)

        ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์อันยิ่งใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ มีสถานที่หนึ่งซึ่งได้รับสมญานามว่า “Top of Europe” หรือหลังคาแห่งยุโรป สถานที่แห่งนั้นก็คือยอดเขายุงเฟรายอค (Jungfraujoch) นั่นเองค่ะ อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในฝันสำหรับการทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ สถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์อันโด่งดังที่ผสมผสานธรรมชาติอันงดงาม และนวัตกรรมทางวิศวกรรมอันน่าทึ่งเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แน่นอนว่าเราก็ได้รวบรวมข้อมูลเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์สำหรับการเที่ยว Jungfraujoch สถานที่ในฝันซึ่งเปรียบเสมือนประตูพาไปสู่โลกที่งดงามราวเทพนิยายได้อย่างแท้จริงมาฝากกันค่ะ  

ข้อมูลทั่วไปของยุงเฟรายอค (Jungfraujoch)

ยุงเฟรายอค (Jungfraujoch)
หลายคนอาจเข้าใจว่ายุงเฟรายอค (Jungfraujoch) นั้นคือยอดเขายุงเฟรา (Jungfrau) แต่ในความจริงแล้วเป็นพื้นที่ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างยอดเขายุงเฟรา (Jungfrau) และยอดเขามึนช์ (Mönch) ในเทือกเขาเบอร์นีสแอลป์ (Bernese Alps) ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยอยู่ในเขตรัฐเบิร์น (Bern) มีความสูง 3,454 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล กล่าวให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ Jungfraujoch มีลักษณะเป็นพื้นที่ช่องเขาซึ่งตั้งอยู่ระหว่างยอดเขานั่นเองค่ะ ถือได้ว่าเป็นจุดสูงสุดที่สามารถเข้าถึงได้โดยทางรถไฟ โดยเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟยุงเฟรายอค (Jungfraujoch Railway Station) ซึ่งครองสถิติสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป ด้วยความสูง 3,454 เมตรจากระดับน้ำทะเล ลักษณะเด่นของที่นี่คือมีหิมะและน้ำแข็งปกคลุมตลอดปี โดยอุณหภูมิบนยอดเขามักจะติดลบทั้งปีไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนหรือฤดูหนาว นอกจากนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของธารน้ำแข็งอาเลทช์ (Aletsch Glacier) ธารน้ำแข็งที่ยาวและใหญ่ที่สุดในยุโรป ทำให้ Jungfraujoch กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ในฝันที่หลายคนอยากจะมาเยือนให้ได้กันสักครั้งหนึ่งในชีวิต 

พิกัด

ภูมิประเทศและที่ตั้งของยอดเขายุงเฟรายอค (Jungfraujoch)

  ภูมิประเทศของ Jungfraujoch นั้นเต็มไปด้วยภูเขาหินแกรนิตและถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาแน่นตลอดทั้งปี โดยตั้งอยู่ใจกลางเทือกเขาเบอร์นีสแอลป์ (Bernese Alps) ล้อมรอบด้วยยอดเขาสูงตระหง่านหลายแห่ง เช่น ยอดเขา Jungfrau (4,158 เมตร), Mönch (4,107 เมตร) และ Eiger (3,967 เมตร) บริเวณใกล้เคียงมีธารน้ำแข็งขนาดใหญ่หลายสายที่ไหลลงสู่หุบเขา รวมถึงธารน้ำแข็งอาเลทช์ (Aletsch Glacier) ธารน้ำแข็งที่ยาวและใหญ่ที่สุดในยุโรป ที่มีความยาวกว่า 23 กิโลเมตร ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก    

ประวัติศาสตร์และความสำคัญของยุงเฟรายอค (Jungfraujoch)

  กว่าที่จะมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่โด่งดังระดับโลกได้อย่างทุกวันนี้ บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายค่ะ ย้อนกลับไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เมื่อ อดอล์ฟ กูเยอร์-เซลเลอร์ (Adolf Guyer-Zeller) นักธุรกิจชาวสวิส ได้มีแนวคิดในการสร้างเส้นทางรถไฟเพื่อขึ้นไปยังยุงเฟรายอค (Jungfraujoch) และได้มีการนำเสนอแผนการก่อสร้างรถไฟสายพิเศษขึ้นมา เพื่อที่จะนำผู้โดยสารขึ้นไปยัง Jungfraujoch ได้โดยตรง ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่มีความท้าทายเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเทคโนโลยี สภาพอากาศที่รุนแรง ไปจนถึงอันตรายจากหิมะถล่ม แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้เริ่มโครงการก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1896 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1912  โดยใช้เวลาถึงกว่า 16 ปี ด้วยการขุดเจาะอุโมงค์ที่มีความยาวประมาณ 7 กิโลเมตรทะลุภูเขา Eiger ไปจนถึงสถานี Jungfraujoch ได้ในที่สุด และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1912 ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานวิศวกรรมที่น่าทึ่งของโลกในยุคนั้นเลยทีเดียว ปัจจุบันเส้นทางรถไฟสายนี้ไม่เพียงแต่เปิดประสบการณ์ในการเดินทางท่องเที่ยวที่งดงามไม่เหมือนใคร แต่ยังมีบทบาทสำคัญในเชิงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ที่ช่วยสร้างรายได้มหาศาลให้กับภูมิภาคแห่งนี้ได้เป็นอย่างมาก 

การเดินทางไปยังยุงเฟรายอค (Jungfraujoch)

ข้อมูลเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์สำหรับการเดินทางไปยังยุงเฟรายอค (Jungfraujoch)
 จะเริ่มต้นตั้งแต่เมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่ง ได้แก่ ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) การเดินทางจากอินเทอร์ลาเคน จะต้องนั่งรถไฟสายพิเศษผ่านหมู่บ้านเล็ก ๆ อย่างเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) หรือกรินเดลวัลด์ (Grindelwald) และเปลี่ยนขบวนที่ไคลน์ ไชเด็ค (Kleine Scheidegg) เพื่อขึ้นสู่ยอดเขายุงเฟรายอค (Jungfraujoch) ผ่านอุโมงค์ที่เจาะทะลุภูเขาที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยทางรถไฟมีความยาวรวม 9 กิโลเมตรจาก Kleine Scheidegg สูงจากระดับน้ำทะเลเกือบ 1,400 เมตร และอยู่ภายในอุโมงค์ภูเขามากกว่า 7 กิโลเมตร ซึ่งขั้นตอนการเดินทางหลัก ๆ มาที่ยุงเฟรายอค (Jungfraujoch) มีดังนี้
เดินทางมายังเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) 
สามารถเดินทางโดยรถไฟมาได้อย่างสะดวกจากเมืองใหญ่อย่างเช่น ซูริค (Zurich) หรือเบิร์น (Bern) ซึ่งที่นี่เป็นเมืองหลักที่เป็นจุดหมายปลายทางอีกแห่งหนึ่งในการทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ จึงมีโรงแรมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง 
 เดินทางต่อไปยัง Lauterbrunnen หรือ Grindelwald
เมื่อถึงเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) แล้ว ให้นั่งรถไฟสาย Berner Oberland ไปยัง Lauterbrunnen หรือ Grindelwald ก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
การเดินทางจาก Lauterbrunnen หรือ Grindelwald 
ให้ต่อรถไฟไปยังสถานีไคลน์ ไชเด็ค (Kleine Scheidegg) ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนขบวนรถไฟสำหรับขึ้นไปยัง Jungfraujoch หรือขึ้นกระเช้าลอยฟ้า Eiger Express จาก Grindelwald Terminal ไปยังสถานี Eigergletscher แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ Jungfrau Railway เพื่อขึ้นไปยัง Jungfraujoch ก็ได้ 
       ขึ้น Jungfrau Railway เปลี่ยนขบวนรถไฟจากสถานี Kleine Scheidegg เพื่อขึ้นรถไฟสาย Jungfrau Railway ซึ่งรถไฟสายนี้จะผ่านขึ้นสู่ยอดเขาที่เต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์อันแสนงดงามตลอด 2 ข้างทาง และผ่านอุโมงค์ภายในภูเขา Eiger ซึ่งในอุโมงค์จะมีจุดให้แวะชมวิว เช่น Eigerwand และ Eismeer ถึงจุดหมายปลายทางสถานี Jungfraujoch จุดเริ่มต้นแห่งการทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และการผจญภัยบนยอดเขาอันน่าสนุกตื่นเต้น 

ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่ยุงเฟรายอค (Jungfraujoch)

ยอดเขายุงเฟรายอค (jungfraujoch) ไม่ใช่เพียงแค่สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมของกิจกรรมและประสบการณ์ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์อันหลากหลาย และนี่คือไฮไลท์สำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่ยุงเฟรายอค (jungfraujoch) แห่งนี้ค่ะ
หอสังเกตการณ์สฟิงซ์ (Sphinx Observatory)
หอสังเกตการณ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีความสูงถึง 3,571 เมตรจากระดับน้ำทะเล สามารถมาได้โดยใช้ลิฟท์ความเร็วสูงจากสถานี Jungfraujoch เป็นหนึ่งในหอสังเกตการณ์ที่สูงที่สุดในโลก มีดาดฟ้าชมวิวเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมวิวทิวทัศน์อันงดงามอลังการของยอดเขา Jungfrau , Mönch และ Eiger และธารน้ำแข็งอาเลทช์ (Aletsch Glacier) ที่ยาวที่สุดในยุโรป 
ธารน้ำแข็งอาเลทช์ (Aletsch Glacier)
ธารน้ำแข็งที่มีความยาวมากที่สุดในยุโรป และเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในเทือกเขาแอลป์ โดยมีระยะทางประมาณ 23 กิโลเมตร มีความกว้างประมาณ 940 เมตร โดยไหลลงมาจากระดับ 4,160 เมตร ลงมาสู่ระดับ 1,650 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งธารน้ำแข็งอาเล็ทช์และหุบเขาโดยรอบนั้นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดยยูเนสโก  
พระราชวังน้ำแข็ง (Ice Palace)
ที่นี่ตั้งอยู่ต่ำกว่า Jungfraujoch ประมาณ 20 เมตร ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1930 มีทางเดินยาวไปสู่ห้องโถงที่มีลักษณะคล้ายถ้ำ ภายในมีประติมากรรมน้ำแข็งที่ใสราวกับคริสตัลเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น นกอินทรี เพนกวิน หรือหมี ซ่อนอยู่ตามซอกหลืบ มี Ice Bar ที่เสิร์ฟเมนูเครื่องดื่มสุดลับกันด้วย ซึ่งพระราชวังน้ำแข็งนั้นถูกสร้างขึ้นด้วยมือโดยใช้ขวานน้ำแข็งและเลื่อยตัดน้ำแข็ง และต้องมีการแกะสลักใหม่อยู่เป็นระยะ  
อุโมงค์โลกอัลไพน์ (Alpine Sensation) 
เป็นเส้นทางเดินที่มีระยะทางประมาณ 250 เมตร เชื่อมต่อระหว่างหอสังเกตการณ์สฟิงซ์และพระราชวังน้ำแข็ง นำเสนอประวัติศาสตร์ของการบุกเบิกก่อสร้างเส้นทางรถไฟ Jungfraujoch ตื่นตาตื่นใจเป็นกับแสง สี เสียง ภาพ และประติมากรรมต่าง ๆ โดยมีไฮไลท์อยู่ตรงลูกโลกหิมะขนาดใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรม และธรรมชาติของสวิสเซอร์แลนด์  
สวนสนุกหิมะ (Snow Fun Park) 
สนุกสนานไปกับการเล่นหิมะกันให้เต็มอิ่ม สวนสนุกแห่งนี้เปิดให้บริการในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม แต่ถ้าหากสภาพอากาศเลวร้ายก็อาจจะปิดเป็นกรณีพิเศษ โดยมีกิจกรรมเกี่ยวกับหิมะมากมายให้ได้เลือกเล่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสกี  สโนว์บอร์ด ซิปไลน์ รวมไปถึงสโนว์ทูบและสเลดดิ้ง 
ที่ราบสูงธารน้ำแข็ง (Glacier Plateau) 
เป็นจุดชมวิวที่งดงามและได้รับความนิยมมากที่สุดบน Jungfraujoch เลยค่ะ ซึ่งจากตรงนี้จะสามารถมองเห็นธารน้ำแข็ง Aletsch ที่โอบล้อมไปด้วยยอดเขาสูงกว่า 4,000 เมตร ในขณะที่อีกฝั่งหนึ่งยังสามารถมองเห็น Mittelland อยู่ไกล ๆ และอาจมองเห็นได้ไกลถึง Black Forest และ Vosges กันเลยทีเดียว 
ร้านช็อกโกแลตลินด์ (Lindt Swiss Chocolate Heaven)
ที่นี่คือสวรรค์ของคนรักช็อกโกแลต ร้านช็อกโกแลตที่อยู่สูงที่สุดในโลก นอกจากจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตช็อกโกแลตสวิสแท้ ๆ แสนอร่อยท่ามกลางบรรยากาศและวิวทิวทัศน์อันงดงามของ Jungfraujoch แล้ว ยังสามารถเลือกซื้อช็อกโกแลตหลากหลายชนิดจากแบรนด์ดัง ๆ รวมไปถึงช็อกโกแลตสุดพิเศษที่มีจำหน่ายเฉพาะในร้าน Lindt กลับไปเป็นของฝากกันได้อีกด้วย
การเดินป่าไปยังกระท่อมเมินช์โจช (Mönchsjochhütte) 
สำหรับนักเดินป่าที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติเป็นอย่างใกล้ชิด การทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่ Jungfraujoch สามารถเลือกใช้เส้นทางเดินไปยังกระท่อมเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ได้จากยอดเขา Jungfraujoch บนเส้นทางภูเขาสูงที่ใช้เวลาประมาณ 45 นาที โดยกระท่อมจะเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงตุลาคม และต้องสำรองล่วงหน้าก่อนเสมอ 
ผจญภัยบนธารน้ำแข็ง (Glacier Adventure on Jungfraujoch)
ดื่มด่ำและสัมผัสกันให้เต็มที่กับโลกน้ำแข็งของแหล่งมรดกโลกของ UNESCO บนเส้นทาง Jungfrau-Aletsch ที่รายล้อมด้วยยอดเขาสูง 4000 เมตร เดินทางผ่านรอยแยกของธารน้ำแข็งอันแสนตระการตาและเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามน่าทึ่ง โดยมีไกด์ที่คอยดูแลตลอดเส้นทาง และอธิบายให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของธารน้ำแข็ง
ที่ทำการไปรษณีย์ (Top of Europe Post Office)
บนยุงเฟรายอค (Jungfraujoch) มีที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป ซึ่งตั้งอยู่ภายในอาคารของสถานี Jungfraujoch นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่นิยมส่งโปสการ์ดหรือส่งจดหมายให้ตัวเองหรือเพื่อน ๆ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงการมาเยือน โดยจะมีตราประทับพิเศษ ที่เขียนว่า Top of Europe – Jungfraujoch 3,454 m ถือเป็นของขวัญหรือของฝากที่มีคุณค่าทางจิตใจมาก ๆ เลยล่ะค่ะ   

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมยอดเขายุงเฟรายอค (Jungfraujoch)

ถึงแม้ว่าเราสามารถเดินทางทัวร์สวิตเซอร์แลนด์เพื่อไปยังยุงเฟรายอค (Jungfraujoch) กันได้ตลอดทั้งปี แต่ก็จะมีช่วงที่เหมาะสมมากที่สุดและช่วงที่ควรหลีกเลี่ยงอยู่ด้วยเช่นกัน  
•       ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) เป็นช่วง High Season ท้องฟ้าเปิดโล่ง อากาศกำลังเย็นสบายไม่หนาวจัดจนเกินไป เป็นฤดูกาลที่เหมาะสำหรับการชมวิวทิวทัศน์และทำกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างหลากหลาย สถานที่ต่าง ๆ เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ 
•      ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อากาศเริ่มเย็นลงและหิมะเริ่มตกใหม่บริเวณยอดเขา เป็นช่วงที่วิวทิวทัศน์มีสีสันงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีสุดโรแมนติก โดยเฉพาะบริเวณเชิงเขาของเมือง Interlaken และนักท่องเที่ยวเริ่มน้อยลง 
 •     ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) ได้บรรยากาศโรแมนติกของหิมะขาวโพลนที่สวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมหิมะแบบจัดเต็ม อุณหภูมิหนาวจัดและติดลบเกือบตลอดเวลา ใครอยากสัมผัสบรรยากาศหนาวเย็นและวิวทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยหิมะต้องมากันในช่วงนี้ค่ะ
•      ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อากาศเริ่มอุ่นขึ้นแต่ก็ยังคงหนาวจัด และมีหิมะหนามากบริเวณยอดเขา สวนสนุก Snow Fun Park เริ่มเปิดให้บริการในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ ในขณะที่ธารน้ำแข็งและวิวทิวทัศน์โดยรอบยังถูกปกคลุมไปด้วยหิมะดูสวยงาม 
 

เกร็ดความรู้

ช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยง หากเดินทางในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน – พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม) ต้องเช็คสภาพอากาศและเที่ยวรถไฟกันให้ดี ๆ เพราะบางช่วงอาจมีการปิดปรับปรุงเส้นทางรถไฟ และสภาพอากาศไม่แน่นอนจนทำให้ไม่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์เมื่อขึ้นไปที่ Jungfraujoch ได้ 
 

ยอดเขายุงเฟรายอค (Jungfraujoch)

การได้มาเยือนยอดเขายุงเฟรายอค (Jungfraujoch) ถือได้ว่าเป็นการเก็บประสบการณ์ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม เสมือนได้ก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่ที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และทึ่งไปกับความสามารถของมนุษย์ที่สามารถเจาะภูเขาเพื่อทำเส้นทางรถไฟได้ เรียกว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตได้เดินทางด้วยรถไฟสายที่สูงที่สุดในยุโรป ท่ามกลางทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ที่กว้างไกลสุดสายตา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ซึ่งควรค่าแก่การมาเยือนสักครั้งในชีวิตค่ะ