วัดน้ำใสคิโยมิซุ เกียวโต

หนึ่งในเสน่ห์แห่งทัวร์ญี่ปุ่นที่ใครได้มาต้องรู้สึกหลงรักจนแทบไม่อยากกลับทุกราย คือ Kyoto เมืองอันเก่าแก่ของญี่ปุ่น ที่ยังคงมนต์ขลังของศิลปะและวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นไว้ได้อย่างไม่เสื่อมคลาย โดยเฉพาะการเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมโบราณตามวัดวาอารามต่างๆ อย่างวัดน้ำใสคิโยมิซุเดเระ (Kiyomizudera) ที่คุณสามารถรับชมใบไม้เปลี่ยนสีและชมวิวเมืองทั้งเมืองในช่วงฤดูหนาวได้อย่างสุดฟิน นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวอามาโนะฮาชิดาเตะ (Amanohashidate Sandbar) ที่คุณจะได้สัมผัสความสวยงามของวิวริมทะเลที่งดงามดั่งสรวงสวรรค์ และที่พลาดไม่ได้! คือการจัดงานแห่งสีสันและแสงไฟในงานเทศกาล ROHM’s Illuminations Light up Kyoto ในช่วงฤดูหนาว ที่ประดับประดาดวงไฟมากกว่า 800,000 ดวง ทำให้เมืองทั้งเมืองสวยงามสว่างและสดใสต้อนรับช่วงหน้าฤดูหนาวได้เฟอร์เฟคสุดๆ เลยล่ะค่ะ 

โตเกียวสเตชั่นฝั่งมารุโนอูจิ (marunouchi)

มาโตเกียวกันแล้วก็ต้องไม่พลาด Tokyo Station แหล่งชื่นชมสถาปัตยกรรมและเป็นจุดถ่ายภาพที่ดีที่สุด สวยที่สุด และโรแมนติกที่สุดค่ะ โดยเฉพาะสถานีโตเกียวในฝั่ง Marunouchi ที่ถูกออกแบบอาคารมาในสไตล์ยุโรปผสมผสานกับศิลปะแบบญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว   เมื่อก่อนนี้ที่นี่เคยถูกระเบิดทำลายจนสถานที่เสียหายและมีการบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ จุดเด่นของสถานีแห่งนี้ คือ ทั้งงานศิลปะและสถาปัตยกรรมที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน ซึ่งตลอดทั้งเดือนจะมีการแสดงนิทรรศการต่างๆที่น่าสนใจ ส่วนตอนกลางคืนจะมีการจัดแสดงแสง สี เสียง เพื่อต้อนรับฤดูหนาวที่ทำให้สถานีแห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาและสวยมากๆ เลยล่ะค่ะ

บิวาโกะ วัลเลย์ Biwako valley หิมะแดนคันไซ

มาเที่ยวฤดูหนาวทั้งทีก็ต้องได้เห็นและได้สัมผัสหิมะสักครั้งเนอะ ว่าแล้วก็ไปต่อกันที่ Biwako valley แห่งแดนคันไซกันเลยค่ะ  ที่นี่หน้าหนาวจะหนาวจับใจจนเห็นหิมะขาวโพลนไปทั้งเมือง ไฮไลท์คือสกีรีสอร์ทที่จะทำให้คนชื่นชอบหิมะได้สูดกลิ่นแห่งหิมะแท้ 100% ได้อย่างเต็มปอด โดย Valley แห่งนี้ ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซ ซึ่งทุกปีจะมีช่วงฤดูหนาวแบบหิมะตกหนักในช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคม ซึ่งระหว่างช่วงการเดินทางนี่อากาศจะหนาวเย็นแต่จะไม่มีหิมะให้เห็นค่ะแต่พอขึ้นบนเขาเท่านั้นแหล่ะ โอ้โห..ขาวโพลนสุดลูกหู ลูกตาเลยล่ะค่ะ  และเมื่อมาถึงสถานีแล้วก็ต้องซื้อตั๋วเพื่อขึ้นรถกระเช้าไปสู่จุดชมวิวและจุดเล่นสกีที่จะมีกิจกรรมทุกรูปแบบรอไว้ให้คุณได้สัมผัส รวมถึงโซน Snow Land ที่เป็นโซนหิมะแบบไม่ชันมาก เหมาะสำหรับเด็กและมีกระบะกับเลื่อนหิมะให้เช่าอีกด้วย

ชิราคาวาโกะ Shirakawa-go

Shirakawa-go เป็นหมู่บ้านชื่อดังของโอซาก้าและได้รับการยกย่องให้เป็นหมู่บ้านแห่งมรดกโลกที่ทาง UNESSCO ได้ขึ้นทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จุดเด่นคือการสร้างบ้านแบบภูมิปัญญาชาวญี่ปุ่นดั้งเดิม ซึ่งหมู่บ้านนี้เป็นจุดท่องเที่ยวที่คนไทยนิยมมาเยี่ยมเยือนเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวจะมีการจัดเทศกาลงานไฟที่ภายใน 1 ปี จะมีการเปิดไฟเพียงแค่ 6 วันเท่านั้น และได้ไปเยี่ยมชมบ้านแห่งภูมิปัญญาของคนญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Gasshō-zukuri  บ้านที่สามารถกักเก็บความอบอุ่นไว้ด้วยรูปทรงของบ้านและหลังคาที่เป็นเอกลักษณ์ แม้แต่พายุมาบ้านก็ยังคงอยู่ที่เดิม ถือว่าเป็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่นแท้ที่ถูกอนุรักษ์ไว้ให้แก่ลูกหลานและยังมีจุดชมวิวสวยๆ ที่น่าประทับใจอีกหลายจุดเลยล่ะค่ะ

ยามากาตะ Yamagata

ไปต่อกันที่ Yamagata ซึ่งเป็นจุดเล่นสกีและชมวิวที่สวยงามขึ้นชื่อที่สุด ที่นี่จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนไปทุกหนแห่ง เป็นเมืองที่จะทำให้คุณสัมผัสธรรมชาติและกลิ่นอายของวิถีชนบทแท้ มีผลไม้อร่อยๆ อย่างเชอร์รี่ให้ชิมกันอย่างจุใจ  ที่สำคัญคือที่นี่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนอันเก่าแก่ที่แม้ว่าจะหนาวแค่ไหนแต่น้ำในบ่อน้ำพุก็อุ่นอยู่เสมอ ส่วนช่วงกลางคืนจะมีการจัดแสงไฟแบบ Light up เพื่อสร้างสีสันให้กับต้นไม้ที่ถูกน้ำแข็งเกาะ ซึ่งก็จะมีรูปแบบต่างๆ สวยบ้าง แปลกบ้างดูเพลิน ๆ ตาค่ะ คนในย่านนี้จึงเรียกต้นไม้เหล่านี้ว่าปีศาจน้ำแข็งหรือจุเฮียว ที่นี่จึงถือว่าเป็นจุดถ่ายภาพ เล่นสกี และสัมผัสถึงความหนาวเย็นที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้

คุซัทสึ ออนเซ็น Kusatsu รีสอร์ทน้ำพุร้อน

เวลามาเที่ยวฤดูหนาวของญี่ปุ่น สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้นั่นคือออนเซ็นเพราะแทบจะเป็นของคู่กัน เมื่อสัมผัสบรรยากาศหนาวเย็นหรือได้เล่นหิมะจนเต็มอิ่มแล้ว ก็ต้องมาต่อกันที่การแช่น้ำพุร้อนแบบออนเซ็นแท้ๆ ใช่แล้วค่ะเรากำลังพูดถึง Kusutsu ในจังหวัดกุนมะ ซึ่งเป็นจุดแลนมาร์คแห่งน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและมีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ทุกจุดภายในเมืองจะมีจุดน้ำพุร้อนที่เป็นน้ำพุจริงๆ จากใต้พื้นดิน ดังนั้นโรงอาบน้ำหรือโรงแช่ออนเซ็นของที่นี่จึงใช้เป็นน้ำพุร้อนแบบธรรมชาติแท้ที่ไม่มีการผสมน้ำเปล่าหรือใช้ตัวปรับอุณหภูมิแต่อย่างใด ทำให้ร่างกายที่หนาวเย็นได้รับความอบอุ่นจากน้ำออนเซ็นธรรมชาติแท้แน่นอน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีแหล่งต้นน้ำของออนเซ็นที่มากถึง 6 แหล่ง คือ ชิราฮาตะ, บันไดโค, นิกาวะ, ไซโนะคาวาระ และจิโซ ที่จะมีคุณภาพของน้ำแตกต่างกันออกไป เช่น ถ้าเป็นออนเซ็นของชิราฮาตะจะออกเป็นสีขาวและน้ำจะมีความขุ่นค่อนข้างมาก ส่วนออนเซ็นของยูบาทาเกะจะเป็นสัมผัสน้ำที่นุ่มลื่น สบายผิว และให้ความอุ่นกำลังดี เป็นต้น ดังนั้นถ้าชื่นชอบการแช่ออนเซ็นล่ะก็ไม่ควรพลาดย่าน Kusatsu ค่ะ

เทศกาลจัดแสงไฟถนน Peace Boulevard

ใครจะเชื่อว่าจุดชมวิวและการจัดงานแสงไฟหรือเทศกาลที่สวยที่สุดจะตั้งอยู่ริมถนน Peace Boulevard  หรือที่เรียกกันว่า ถนนเฮวะ โอโดริ ที่อยู่ใจกลางเมืองฮิโรชิมะ เป็นจุดแสดงแสงไฟที่มีการตกแต่งแบบระยิบระยับ มีการประดับประดาสีสันของดวงไฟที่มากกว่า 1,400,000 ดวง  มีการจัดงานในช่วงฤดูหนาวเพื่อสร้างความอบอุ่นทางใจทุกปี จนถูกตั้งคอนเซ็ปต์ให้เป็นดินแดนแห่งเทพนิยาย เพราะมีการตกแต่งสถานที่ด้วยการจัดแสงไฟให้เป็นรูปทรงปราสาท, ต้นไม้ในเทพนิยาย, พระราชวัง และอีกหลากหลายสถานที่สำคัญ เหมาะกับการเดินชมไฟสวยๆ ชิลล์ๆ ในหน้าหนาวค่ะ

อควาเรียมขนาดใหญ่ Osaka Aquarium Kaiyukan

Osaka Aquarium Kaiyukan เป็นอควาเรียมขนาดใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของโลก ที่นี่จะจัดอีเว้นท์ภายในอควาเรียมอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวจะมีการประดับด้วยดวงไฟแบบ Light up ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของทางอควาเรียม โดยเฉพาะการตกแต่งเป็นรูปสัตว์น้ำต่าง ๆ และประดับด้วยไฟสวยๆ เป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก และยังมีทั้งของฝาก ของที่ระลึกให้ช้อปกลับบ้านอีกเพียบ   ไฮไลท์เด่นๆเป็นเทมโปซาน ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุด เราสามารถขึ้นไปชมวิวทะเลและแสงไฟทั่วเมืองกันได้อย่างเต็มตา เรียกได้ว่าทริปนี้มีแต่ความฟินค่ะ

หมู่บ้าน Sounkyo

ถ้าอยากสัมผัสความหนาวในแบบธรรมชาติท่ามกลางหุบเขาต้องไปที่ Sounkyo  ค่ะ ที่นี่เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่สวยงามและมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติอยู่ค่อนข้างมาก และยังเป็นหมู่บ้านออนเซ็นกลางหุบเขาที่ตั้งอยู่ในบริเวณของอุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง ในช่วงฤดูหนาว ใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่ก็จัดว่าสวยงามขึ้นชื่อเช่นเดียวกัน ซึ่งก็มักจะมีนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกเดินทางมาเยี่ยมเยียนกันเสมอๆ  ความโดดเด่นของที่นี่คือแม่น้ำที่มีสายยาวที่สุดของทวีปและเป็นแม่น้ำที่ยังคงน้ำใสสะอาด นอกจากนี้ยังมีเทศกาลลานหิมะ Sounkyo Ice Festival ที่จะมีการประดับประดาไปด้วยปราสาทน้ำแข็งและการจุดพลุไฟ รวมไปถึงการจัดร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ อีกด้วย

Arima onsen

Arima onsen คือเมืองน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเฮียวโงะที่แม้ว่าในเมืองจะอากาศหนาวจนหิมะเกาะ แต่น้ำพุร้อนที่นี่ก็ให้ความอบอุ่นด้วยอุณหภูมิพอเหมะเสมอ  ที่นี่มีร้านออนเซ็นให้เลือกมากมายสมกับชื่อเมืองแห่งน้ำพุร้อน เลยล่ะค่ะ   สำหรับการบริการก็มีหลากหลายรูปแบบจะแช่ทั้งตัว หรือจะแช่แค่เท้าก็ได้ นอกจากนี้สีของน้ำพุร้อนของที่นี่ก็แตกต่างจากน้ำพุร้อนในที่อื่นๆ ด้วยนะคะเพราะเป็นสีเงินกับสีทองที่เกิดจากน้ำทะเลที่มาจากภูเขาไฟที่ว่ากันว่ามีสรรพคุณในด้านการช่วยบรรเทารักษาโรคได้ด้วยล่ะ เรียกได้ว่ามาออนเซ็นที่นี่ได้ทั้งผิวสวยและสุขภาพดีกันเลยทีเดียว และนี่คือ 10 จุดสุดฟินที่ไม่อยากให้คุณพลาดในการเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูหนาวค่ะ ใครที่มีแพลนเดินทางกันไว้แล้วอย่าลืมเลือกช่วงเวลาให้พอเหมาะที่จะได้ไม่พลาดกับไฮไลท์สำคัญๆ โดยเฉพาะเทศกาล  Light up  ทั้งหลายที่บอกได้คำเดียวว่าถ้าพลาดอาจจะต้องเสียดายมากๆ อย่างแน่นอน