10 สถานที่เที่ยวฮอกไกโด คู่มือเที่ยวฮอกไกโด ตะลุยเกาะเหนือของญี่ปุ่น

สวน Odori Park

จะไปเที่ยวฮอกไกโดให้สนุกและสัมผัสบรรยากาศหน้าหนาวแบบโรแมนติกต้องไปที่สวนโอโดริ หรือ Odori Park สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่กลางเมืองซัปโปโร ที่นี่สวยงามและโดดเด่นจนได้รับฉายาว่าเป็นโอเอซิสแห่งเมืองซัปโปโร โดยเฉพาะในหน้าเทศกาลฤดูร้อนที่จะมีเทศกาลดอกไลแล็คและมีเบียร์การ์เด้นอยู่ภายในสวน บอกได้คำเดียวว่าฟินมากๆ เพราะการได้มานั่งชมวิวกลางเมืองพร้อมจิบเบียร์เย็นๆ ได้อย่างสบายใจนี่เป็นอะไรที่เจ๋งสุดๆ เลยล่ะ ส่วนหน้าหนาวนั้นไม่อยากให้พลาดเช่นกันเพราะที่นี่เป็นสถานที่ๆ ใช้ในการจัดเทศกาล Sapporo Snow Festival ที่ถือว่ามีชื่อเสียงที่สุดของเมืองอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์โดราเอมอน (DORAEMON WAKU WAKU SKY PARK)

มาญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องมาเยี่ยมเยียนมาสคอตประจำญี่ปุ่นอย่างโดราเอมอนที่สนามบินชินชิโตเสะค่ะ ใครเป็นแฟนโดราเอมอนนี่บอกเลยว่าฟินขึ้นสุดเลยล่ะ เพราะในพิพิธภัณฑ์ Doraemon waku waku Sky Park แห่งนี้จะมีมุมให้คุณได้ถ่ายเซลฟี่กับตัวละครต่างๆ ในการ์ตูน รวมไปถึงการจำลองสนามเด็กเล่นกับห้องสมุดที่เหมือนคุณหลุดเข้าไปในเนื้อเรื่องจริง นอกจากนี้ยังมีการทำ Workshop , มีแหล่งช้อปของที่ระลึก และมีคาเฟ่โดราเอมอนให้พักผ่อนหย่อนใจได้อย่างสนุกสนานเพลินๆ ระหว่างรอขึ้นเครื่อง

น้ำพุร้อน Jozankei Onsen

มาญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องได้แช่น้ำพุร้อนที่เป็นแบบออนเซ็นแท้จากธรรมชาติ ซึ่งภายในฮอกไกโดนั้นถือว่ามีจุดน้ำพุร้อนคุณภาพที่ยังคงความดั้งเดิมของทั้งโรงแช่ออนเซ็น, ธรรมชาติรอบด้านที่สวยงามด้วยบรรยากาศของใบไม้เปลี่ยนสี และตัวน้ำร้อนออนเซ็นที่มาจากธรรมชาติแท้ 100% ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ คือ น้ำพุร้อนโจซังเคที่ถือว่ามีชื่อเสียงมากที่สุดภายในฮอกไกโด เพราะนอกจากการแช่น้ำพุร้อนที่นี่จะให้ประโยชน์ด้านสุขภาพแล้ว ยังให้ทิวทัศน์ที่สวยงามพร้อมทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการแช่น้ำได้ในทุกช่วงเวลาอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์ Sapporo Beer Museum

สำหรับคอเบียร์แล้วพิกัดนี้ถ้าไม่ได้มาจะถือว่าพลาดอย่างแรงค่ะ เราขอแนะนำพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโรที่ถือว่าเป็นจุดกำเนิดของเบียร์ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ภายในฮอกไกโด ที่นี่ผลิตเบียร์ยอดนิยมที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก โดยภายในโรงเบียร์จะมีการบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของเบียร์ญี่ปุ่น มาพร้อมการนำเสนอวิธีการผลิตในแบบดั้งเดิม พาคุณชมสถานที่ของการผลิตเบียร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น ที่สำคัญคือคุณสามารถชิมรสชาติเบียร์สุดคลาสสิกที่ถือว่าเป็นรสชาติดั้งเดิมและเป็นรสชาติแท้ของทางญี่ปุ่นได้อีกด้วย

Goryokaku

ไปต่อกันที่ Goryokau ซึ่งเป็นจุดชมวิวซากุระที่สวยงามที่สุดของฮอกไกโด ที่นี่นอกจากคุณจะได้เพลิดเพลินและดื่มด่ำกับธรรมชาติแล้ว ยังได้ชื่นชมวิวทางประวัติศาสตร์อย่างป้อมปราการรูปดาวห้าแฉกขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างประณีตและสวยงามประดับประดาไปด้วยต้นซากุระที่ออกดอกเป็นสีชมพู-ขาวพร้อมกันถึงกว่า 1,600 ต้น และเมื่อมาถึงแล้วก็ต้องไม่พลาดขึ้นไปชมวิวบนป้อมกันด้วย โดยเมื่อมองจากข้างบนลงมาบอกคำเดียวเลยว่าสวยสุดๆ จนไม่อยากกระพริบตาเลยล่ะ

ภูเขา Hakodate

พิกัดต่อไปที่อยากแนะนำคือจุดชมวิวของภูเขา Hakodate ที่มีความพิเศษในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงทัศนียภาพไปตามฤดูกาลค่ะ ถ้าคุณมาที่นี่ตอนหน้าร้อนก็จะเห็นวิวและได้ฟีลที่แตกต่างไปจากช่วงฤดูหนาว โดยไฮไลท์ของภูเขา Hakodate อยู่ที่แสงและสีจากธรรมชาติรอบตัวจะตัดกับแสงไฟในตัวเมืองอย่างสวยงามและลงตัวโดยเฉพาะตอนกลางคืนนั้นสวยสุดๆ เรียกได้ว่าจะมาฤดูไหน มาเมื่อไหร่ก็จะประทับใจตลอดค่ะ

อุทยาน Onuma Quasi-National Park

เมื่อมาฮอกไกโดก็ต้องมาเล่นสกีและสัมผัสบรรยากาศอันหนาวเย็นของหิมะสีขาว โดยเฉพาะที่อุทยาน Onuma Quasi-National Park ที่ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของฮาโกดาเตะ ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของบรรยากาศอันสวยงามและธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ คุณจะสามารถสัมผัสหิมะสีขาวสะอาดตาพร้อมๆ กับได้มองวิวของภูเขาโคมะกะตะเคะและทะเลสาบโอนุมะที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของอุทยานแห่งนี้ไปด้วย นอกจากเล่นสกีแล้วที่นี่ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินจนลืมความหนาวเย็นของหิมะกันไปเลยล่ะ

ฟาร์มโทมิตะ

ฟาร์ม Tomita

ถ้าคุณมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนเมษายนไปจนถึงสิงหาคมและกรกฎาคม คุณจะต้องไม่พลาดฟาร์ม Tomita ฟาร์มแห่งทุ่งลาเวนเดอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮอกไกโด ความโดดเด่นของดอกไม้ที่นี่ คือความสวยงามอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะฮอกไกโดถือว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่ปลูกพืชผัก ผลไม้ และดอกไม้ที่มีความสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งฟาร์มลาเวนเดอร์ของฮอกไกโดก็ถือว่ามีชื่อเสียงมากที่สุดอีกด้วย โดยที่นี่จะมีการคัดเลือกสายพันธุ์ของดอกลาเวนเดอร์ที่มีคุณภาพและให้ดอกที่สวยงามมาปลูกเท่านั้น โดยจะมีดอกลาเวนเดอร์สีม่วงที่ปลูกร่วมกับดอกไม้อีกนานาชนิด ให้ทั้งสีแดง, สีชมพู, สีขาว และสีส้มที่ตัดกันอย่างสวยงามและลงตัว แต่ก่อนมาอย่าลืมเช็คกันด้วยว่าช่วงนั้นดอกสวยๆ มีกันหรือยังเพราะถ้ามาแล้วเจอแต่แปลงไม่มีดอกไม้ก็จะอดวิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ไม่รู้ด้วยนะ

Noboribetsu Jigokudani

ถ้าพูดถึงชื่อหุบเขานรกอาจจะทำให้รู้สึกแปลกๆ มันน่าเที่ยวตรงไหน แต่ถ้าพูดถึงหุบเขานรกแห่งเมือง Noboribetsu กลับมีแต่คนอยากไป เพราะที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดออนเซ็นที่มีชื่อเสียงของทางฮอกไกโด ที่สำคัญคือให้วิวที่ถือว่าสวยสุดยอด โดยจะมีใบไม้เปลี่ยนสีที่ตัดสีกันทั้งสีแดง สีเหลือง และสีส้มอย่างลงตัว ทั้งมีภูเขาสีขาวโพลนและควันของออนเซ็นที่ผสมผสานกันแล้วได้บรรยากาศที่สวยงามอย่างมาก ธรรมชาติของที่นี่ยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่เสมอ จึงทำให้คุณสามารถมาท่องเที่ยวแล้วรับชมบรรยากาศแบบสุดฟินไปพร้อมกับรับไออุ่นจากออนเซ็นธรรมชาติแท้ เรียกได้ว่าภาพสวยที่อยู่ตรงหน้าขัดกับชื่อของหุบเขานรกเป็นอย่างมาก

ทะเลสาบโนโทโร่ Notoro

ทะเลสาบ Notoro

ทะเลสาบ Okhotsk มีความโดดเด่นที่สุดเมื่อเข้าสู่ช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง เพราะจะถูกปกคลุมไปด้วยปะการังหญ้าที่กลายเป็นสีแดงไปทั่วทั้งทะเลสาบ ให้บรรยากาศที่คล้ายกับการปูพรมแดงเพื่อต้อนรับคนดังกันเลยทีเดียว ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าตรงนี้เป็นทะเลสาบก็อาจจะคิดว่าเป็นเพียงต้นหญ้านุ่มๆ สีแดงอย่างแน่นอน

และนี่คือสถานที่ท่องเที่ยว 10 แห่งในเมืองฮอกไกโดที่เราอยากจะแนะนำกันค่ะ ใครที่ชื่นชอบความสวยงามของธรรมชาติ สัมผัสบรรยากาศดี ๆ และชอบกิจกรรมเอ้าท์ดดอร์สนุกๆ รับรองเลยว่ามาเที่ยวญี่ปุ่นคราวนี้ได้ครบจบในทริปเดียวเลยล่ะ นอกจากนี้ที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องอาหารทะเล,พืชผัก และผลไม้สดรสชาติดีๆ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมาในช่วงฤดูไหนก็จะอิ่มอก อิ่มใจ และอิ่มอร่อยอย่างไม่ผิดหวังกันอย่างแน่นอน